วันนี้ (8 ก.พ.2566) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การเกิดกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness) ในปี 2563 และประเทศไทยพบการระบาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ม.
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2567 พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เชิญเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.คลองสาม ซึ่
วันนี้ (21 ก.ค.2565) นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) (ทอท.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้ ทอท.ได้รายงานต่อนายศักดิ์สย
สธ.ห่วงผู้ป่วยฉุกเฉิน สั่งสปสช.อนุมัติค่ายานพาหนะ-ฮ.-แพขนานยนต์-รถยนต์ส่งต่อคนไข้ วิกฤติน้ำท่วม “หมอวินัย”เผยเบิกจ่ายจริงตามชนิดและประเภทของพาหนะ ส่งต่อผู้ป่วยได้สะดวกทุกโรงพยาบาล โดยสามารถส่งได้ทั้งทางเรือ ทางอากาศ และทางรถยนต์ ซึ่งรพ.จะได้รับค่าพาหนะในการส่งต่อตามอัตราที่กำหนด สธ.ห่วงผู้ป่วยฉุกเฉิน สั่งสปสช.อนุมัติค่ายานพาหนะ-ฮ.-แพขนานยนต์-รถยนต์ส่งต่อคนไข้ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมทั้งประเทศ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ภาคกลางที่ท่วมหนักในขณะนี้ มีความเป็นห่วงเรื่องที่หน่วยบริการต้องส่งต่อผู้ป่วย จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงได้มอบหมายให้สปสช. จัดระบบส่งต่อผู้ป่วยในเขตน้ำท่วมให้สามารถส่งต่อได้สะดวกทุกโรงพยาบาล หากมีความจำเป็นต้องส่งต่อผู้ป่วยไปรพ.ที่มีศักยภาพมากกว่า ก็ให้ดำเนินการได้ไม่ว่าจะต้องใช้บริการทางเรือ ทางอากาศ หรือรถยนต์ก็ตาม ให้เร่งจัดการได้เลยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายพาหนะในการส่งต่อ เนื่องจากสปสช.สามารถจัดการได้เพราะมีระเบียบรองรับอยู่แล้ว รัฐมนตรีpgslot188 pgslot188ว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สำหรับ การเบิกจ่ายค่าพาหนะในการรับส่งต่อผู้ป่วยจากต้นทางถึงปลายทางทั้งการใช้ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ หรือพาหนะอื่นใดที่ได้รับการออกแบบ เพื่อการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างการเคลื่อนย้ายหรือเดินทางนั้น ใช้อัตราการส่งต่อผู้ป่วย ดังนี้ ค่าเฮลิคอปเตอร์ ไม่เกิน 60,000 บาทต่อครั้งตามระยะเวลาในการบินและรัศมีในการบิน, อัตราค่าเรือ /แพขนานยนต์ ไม่เกิน 35,000 (ตามระยะทางและประเภทของเครื่องยนต์) ค่ารถยนต์ที่รพ.ส่งต่อไปยังรพ.ที่สามารถให้การดูแลรักษาได้ให้เบิกจ่ายในอัตราไม่เกิน 50 กิโลเมตร ให้เบิกจ่ายตามจริงในอัตราไม่เกิน 500 บาท หรือมากกว่า 50 กิโลเมตรจะได้รับการชดเชยเพิ่มกิโลเมตรละ 4 บาท ซึ่งกรณีการใช้เฮลิปคอปเตอร์นั้น เน้นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤติและเร่งด่วน จากหน่วยบริการไปยังหน่วยบริการที่มีศักยภาพที่เหมาะสม ขณะนี้ ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมประสบปัญหาในเรื่องเจ็บป่วย และเครียดจากเหตุการณ์น้ำท่วมจำนวนมาก ซึ่งประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพหรือ 30 บาทรักษาทุกโรคที่ประสบอุทกภัยนั้น สามารถเข้ารับบริการด้านสาธารณสุข จากหน่วยบริการใดก็ได้ที่อยู่ใกล้ โดยไม่ต้องไปรับบริการที่หน่วยบริการประจำก่อนและหน่วยบริการก็จะไม่เรียกเก็บค่าบริการจากประชาชน หากมีความจำเป็นก็ให้ทางหน่วยบริการดำเนินการได้ เพราะเป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเร่งด่วน” นายวิทยากล่าว และว่า ขณะเดียวกันทางด้านหน่วยบริการที่ให้บริการประชาชนที่ประสบอุทกภัยแล้ว สามารถเรียกเก็บค่าบริการตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายกรณีอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. กล่าวต่อว่า รพ.ที่รับรักษาประชาชนนั้น ให้ดำเนินการตามกระบวนการเบิกจ่ายมาที่ สปสช.ตามปกติ ซึ่งหน่วยบริการทุกแห่งจะได้รับการเบิกจ่ายตามอัตราที่กำหนด โดยสปสช.ได้จัดเตรียมงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้ว และจะเร่งรัดการดำเนินการตามกระบวนการเบิกจ่ายนี้ให้รวดเร็วขึ้นเพื่อให้รพ.ได้รับเงินเร็วขึ้นอันจะทำให้รพ.มีสภาพคล่องในภาวะวิกฤติที่ดีขึ้น ขณะที่รพ.นอกสังกัดในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เช่น รพ.เอกชน แต่มีประชาชนที่ประสบอุทกภัยใช้บริการและเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้าไปใช้บริการด้วยสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก็ขอให้ดำเนินการรักษาตามกระบวนการ และส่งเรื่องเบิกจ่ายมาที่สปสช.ได้ ซึ่งสปสช.ยืนยันและให้ความมั่นใจว่าทุกรพ.จะได้รับเงินชดเชยการรักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินอย่างแน่นอน นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมทั้งประเทศ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ภาคกลางที่ท่วมหนักในขณะนี้ มีความเป็นห่วงเรื่องที่หน่วยบริการต้องส่งต่อผู้ป่วย จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงได้มอบหมายให้สปสช. จัดระบบส่งต่อผู้ป่วยในเขตน้ำท่วมให้สามารถส่งต่อได้สะดวกทุกโรงพยาบาล หากมีความจำเป็นต้องส่งต่อผู้ป่วยไปรพ.ที่มีศักยภาพมากกว่า ก็ให้ดำเนินการได้ไม่ว่าจะต้องใช้บริการทางเรือ ทางอากาศ หรือรถยนต์ก็ตาม ให้เร่งจัดการได้เลยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายพาหนะในการส่งต่อ เนื่องจากสปสช.สามารถจัดการได้เพราะมีระเบียบรองรับอยู่แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สำหรับ การเบิกจ่ายค่าพาหนะในการรับส่งต่อผู้ป่วยจากต้นทางถึงปลายทางทั้งการใช้ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ หรือพาหนะอื่นใดที่ได้รับการออกแบบ เพื่อการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างการเคลื่อนย้ายหรือเดินทางนั้น ใช้อัตราการส่งต่อผู้ป่วย ดังนี้ ค่าเฮลิคอปเตอร์ ไม่เกิน 60,000 บาทต่อครั้งตามระยะเวลาในการบินและรัศมีในการบิน, อัตราค่าเรือ /แพขนานยนต์ ไม่เกิน 35,000 (ตามระยะทางและประเภทของเครื่องยนต์) ค่ารถยนต์ที่รพ.ส่งต่อไปยังรพ.ที่สามารถให้การดูแลรักษาได้ให้เบิกจ่ายในอัตราไม่เกิน 50 กิโลเมตร ให้เบิกจ่ายตามจริงในอัตราไม่เกิน 500 บาท หรือมากกว่า 50 กิโลเมตรจะได้รับการชดเชยเพิ่มกิโลเมตรละ 4 บาท ซึ่งกรณีการใช้เฮลิปคอปเตอร์นั้น เน้นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤติและเร่งด่วน จากหน่วยบริการไปยังหน่วยบริการที่มีศักยภาพที่เหมาะสม ขณะนี้ ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมประสบปัญหาในเรื่องเจ็บป่วย และเครียดจากเหตุการณ์น้ำท่วมจำนวนมาก ซึ่งประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพหรือ 30 บาทรักษาทุกโรคที่ประสบอุทกภัยนั้น สามารถเข้ารับบริการด้านสาธารณสุข จากหน่วยบริการใดก็ได้ที่อยู่ใกล้ โดยไม่ต้องไปรับบริการที่หน่วยบริการประจำก่อนและหน่วยบริการก็จะไม่เรียกเก็บค่าบริการจากประชาชน หากมีความจำเป็นก็ให้ทางหน่วยบริการดำเนินการได้ เพราะเป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเร่งด่วน” นายวิทยากล่าว และว่า ขณะเดียวกันทางด้านหน่วยบริการที่ให้บริการประชาชนที่ประสบอุทกภัยแล้ว สามารถเรียกเก็บค่าบริการตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายกรณีอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. กล่าวต่อว่า รพ.ที่รับรักษาประชาชนนั้น ให้ดำเนินการตามกระบวนการเบิกจ่ายมาที่ สปสช.ตามปกติ ซึ่งหน่วยบริการทุกแห่งจะได้รับการเบิกจ่ายตามอัตราที่กำหนด โดยสปสช.ได้จัดเตรียมงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้ว และจะเร่งรัดการดำเนินการตามกระบวนการเบิกจ่ายนี้ให้รวดเร็วขึ้นเพื่อให้รพ.ได้รับเงินเร็วขึ้นอันจะทำให้รพ.มีสภาพคล่องในภาวะวิกฤติที่ดีขึ้น ขณะที่รพ.นอกสังกัดในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เช่น รพ.เอกชน แต่มีประชาชนที่ประสบอุทกภัยใช้บริการและเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้าไปใช้บริการด้วยสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก็ขอให้ดำเนินการรักษาตามกระบวนการ และส่งเรื่องเบิกจ่ายมาที่สปสช.ได้ ซึ่งสปสช.ยืนยันและให้ความมั่นใจว่าทุกรพ.จะได้รับเงินชดเชยการรักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินอย่างแน่นอน
สธ.ห่วงผู้ป่วยฉุกเฉิน สั่งสปสช.อนุมัติค่ายานพาหนะ-ฮ.-แพขนานยนต์-รถยนต์ส่งต่อคนไข้ วิกฤติน้ำท่วม “หมอวินัย”เผยเบิกจ่ายจริงตามชนิดและประเภทของพาหนะ ส่งต่อผู้ป่วยได้สะดวกทุกโรงพยาบาล โดยสามารถส่งได้ทั้งท
- pgslot188 pgslot188
- ทำ เว็บ บา คา ร่า
- แค่ สมัคร ก็ รับ เครดิต ฟรี 300
- โจ๊ก เกอร์ 2929
- 11 เซียน วิเคราะห์ บอล
- ติด ตั้ง gclubM98บา คา ร่า sa gaming สูตร