UID: 51257

6 วันต่อเนื่องที่ไทยพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่หลักพันคน แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่เมื่อวาน 19 เ

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังไม่คลี่คลาย หลังตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉินป้องกันและรับมือ

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังไม่คลี่คลาย หลังตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉินป้องกันและรับมืออุทกภัย มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อประสานข้อมูลการเตือนภัยจากทุกภาคส่วน รัฐบาลได้สั่งการให้มีการเพิ่มมาตรการตั้งแต่การเฝ้าระวังไปจนถึงการเตือนภัยให้กับประชาชนให้เข้มข้นขึ้น ขณะที่สถานการณ์น้ำทั่วประเทศขณะนี้ แม้กรมอุตุนิยมวิทยา จะระบุว่า ในระยะ 1-2 วันนี้ ทุกภาคจะมีฝนลดลง แต่ยัง คงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ประชาชนจึงควรระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และ ดินโคลนถล่มต่อไปอีกระยะ สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังไม่คลี่คลาย ที่จังหวัดชลบุรีที่ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีรายงานว่า เป็นจังหวัดที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัย แต่ล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในเขตเมืองพัทยาต้องเผชิญกับน้ำที่ท่วมขังแล้วถึง 3 วัน โดยชาวบ้านยังต้องตื่นตระหนกกับจระเข้ที่หลุดออกมาจากบ่อของอุทยานหินล้านปี และ ฟาร์มจระเข้พัทยาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุมาจากกระแสน้ำที่เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วได้กัดเซาะจนกำแพงของบ่อทรุดเป็นหลุม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ของอุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยาได้ระดมกำลังออกไล่ล่าติดตามจับจระเข้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สามารถจับจระเข้ได้จำนวน 6 ตัว ซึ่งมีความยาว 4-5 เมตรน้ำหนักตัวประมาณ 400 - 500 กิโล ที่บริเวณป่าหญ้าด้านหลังอุทยานหินล้านปีและฟาร์มซึ่งอยู่ติดกับบ่อเลี้ยงจระเข้ โดยในช่วงเช้าของวันที่ 12 กันยายน เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับจระเข้ได้แล้วจำนวน 12 ตัว รวมสามารถจับจระเข้ได้แล้วขณะนี้ 18 ตัว ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า ยังมีจระเข้อีกจำนวนมากที่หลุดออกจากบ่อเลี้ยง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของอุทยานหินล้านปี และฟาร์มจระเข้พัทยา ได้ข้อมูลว่า จระเข้ที่หลุดออกมาจากบ่อ เป็นจระเข้น้ำเค็มที่ถูกเลี้ยงไว้รวมกันราว 4,000 ตัว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า มีจระเข้หลุดไปทั้งหมดกี่ตัว เบื้องต้นได้นำเอาแผงตะแกรงเหล็กไปปิดกั้นตามคลองที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันจะเข้หลุดออกนอกเขต และ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกไล่ล่าจับจะเข้ตามแนวป่า และ พื้นที่ใกล้เคียงแล้ว ซึ่งภายในวันนี้ (13 ก.ย. ) เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสำรวจให้แน่ชัดอีกครั้งว่า มีจระเข้หลุดออกไปจำนวนกี่ตัว พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนสถานการณ์น้ำทางภาคกลางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักยังเพิ่มขึ้น หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ต้องระบายน้ำจากเขื่อนพระราม 6 เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางจุดมีน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ในอำเภอท่าเรือ ซึ่งเป็นจุดรองรับน้ำจากเขื่อน ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะจุดที่เจ้าพระยาไหลมาสมบทบกับแม่น้ำป่าสัก บริเวณหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่บ้านหลายแห่งถูกตัดขาด และยังรอการช่วยเหลือ ส่วนที่จังหวัดสิงห์บุรีชาวบ้านในตำบลพระงาม หมู่ที่ 3 กว่า 100 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันบนถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรีสายเก่า บริเวณสามแยกกระทุ่มโพรง เพื่อต้องการให้นำเอาแนวคันดินที่กั้นน้ำไม่ให้น้ำไหลข้ามถนนออก เนื่องจากเห็นว่าแนวคันดินดังกล่าว เป็นสาเหตุให้บ้านเรือนของพวกเขาต้องถูกน้ำท่วมจนมิดหลังคา บางแห่งก็ท่วมถึงชั้นสอง ซึ่งแนวคันดินนี้ ทางหน่วยงานของจังหวัดสิงห์บุรี ทำขึ้นเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลข้ามไปท่วมนาข้าวของชาวบ้านอีกฟากหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งถนนยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแลโดยเร่งด่วน ส่วนทางภาคเหนือยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดพิจิตร ชาวบ้าน และ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องพยายามใช้เชือกดึงเรือท้องแบนเข้าไปยังบ้านพักสามหลังในบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลไผ่หลวง อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เพื่อขนย้ายทรัพย์สินออกจากตัวบ้าน หลังแม่น้ำน่านไหลทะลักเข้ากัดเซาะจนบ้านทรุดตัว ขณะที่สมาชิกบ้านต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติเพื่อความปลอดภัย ส่วนชาวบ้านในชาวบ้านตำบลทำนบอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ หลังน้ำป่าไหลหลากจากอำเภอไพศาลี เข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่ทางอำเภอยังประกาศเตือนให้ชาวบ้านเตรียมรับน้ำท่วม เนื่องจากมวลน้ำก้อนใหญ่กำลังไหลจากอำเภอไพศาลี ประกอบกับในพื้นที่ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่วนฝนที่ตกหนักทำให้ถนนสายสะเดาะพงษ์-หนองแม่นา ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทรุดตัวลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ยาวกว่า 50 เมตร ทำให้รถที่วิ่งผ่านต้องระวังอันตรายโดยใช้ทางเบี่ยง โดยมีรายงานว่า จุดนี้มีผู้สูญหายแล้ว 1 ราย ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ต้องเร่งนำรถแบ๊คโฮ ขุดลอกขยายเส้นทางระบายน้ำรอบหมู่บ้านหนองตะลุมปุ๊ก เพื่อระบายน้ำออกจากหมู่บ้าน หลังฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านบ้านสูงกว่า 30 เซนติเมตร ส่วนเจ้าหน้าที่ของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ต้องเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเฉลี่ยวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเตรียมรับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปริมาณน้ำ ในลำน้ำชี และลำน้ำมูล เพิ่มสูงขึ้นจนเกือบล้นตลิ่ง ทำให้ทางจังหวัดต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมอพยบชาวบ้านออกจากพื้นที่ หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนสถานการณ์ทางภาคใต้ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม เช่นในเขตเทศบาลตำบลท่าขนอน และบ้านหาดหึง ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลาก ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนที่จังหวัดพัทลุงน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ในอำเภอศรีบรรพต ไหลเข้าท่วม พื้นที่ หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ตำบลควขนุน อำเภอควนขนุน ชาวบ้านหลายสิบครอบครัว ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สิน เพราะน้ำไหลแรงและเชี่ยว กระแสน้ำยังทำให้คันฝายกั้นน้ำ ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ในหมู่ที่ 7 ตำบลควนขนุน พังเสียหาย สำหรับภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยตามคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา จังหวัดที่ยังคงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในระยะนี้ คือ จังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ลพบุรี อุทัยธานี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต โดยกรมชลประทาน เตือนภัยน้ำเหนือที่กำลังหลากลงมาสู่ภาคกลางมากขึ้น จากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน โดยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นทุกวัน วันละ 10 - 15 เซนติเมตร ต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้า จังหวัดในที่ราบลุ่มภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพ และปริมณฑล ควรเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ส่วนกรมทรัพยากรธรณียังคงเตือนภัยดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวัดสตูล ตรัง และสงขลาเพราะยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องวัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มิลลิเมตรจนมีดินไหลและน้ำล้นตลิ่งบางพื้นที่แล้ว ในภาคเหนือที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก ในภาคกลาง ที่จังหวัดกาญจนบุรี และในภาคตะวันออก ที่จังหวัดระยอง จันทบุรี และ ตราด ที่จังหวัดชลบุรีที่ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีรายงานว่า เป็นจังหวัดที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัย แต่ล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในเขตเมืองพัทยาต้องเผชิญกับน้ำที่ท่วมขังแล้วถึง 3 วัน โดยชาวบ้านยังต้องตื่นตระหนกกับจระเข้ที่หลุดออกมาจากบ่อของอุทยานหินล้านปี และ ฟาร์มจระเข้พัทยาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุมาจากกระแสน้ำที่เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วได้กัดเซาะจนกำแพงของบ่อทรุดเป็นหลุม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ของอุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยาได้ระดมกำลังออกไล่ล่าติดตามจับจระเข้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สามารถจับจระเข้ได้จำนวน 6 ตัว ซึ่งมีความยาว 4-5 เมตรน้ำหนักตัวประมาณ 400 - 500 กิโล ที่บริเวณป่าหญ้าด้านหลังอุทยานหินล้านปีและฟาร์มซึ่งอยู่ติดกับบ่อเลี้ยงจระเข้ โดยในช่วงเช้าของวันที่ 12 กันยายน เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับจระเข้ได้แล้วจำนวน 12 ตัว รวมสามารถจับจระเข้ได้แล้วขณะนี้ 18 ตัว ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า ยังมีจระเข้อีกจำนวนมากที่หลุดออกจากบ่อเลี้ยง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของอุทยานหินล้านปี และฟาร์มจระเข้พัทยา ได้ข้อมูลว่า จระเข้ที่หลุดออกมาจากบ่อ เป็นจระเข้น้ำเค็มที่ถูกเลี้ยงไว้รวมกันราว 4,000 ตัว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า มีจระเข้หลุดไปทั้งหมดกี่ตัว เบื้องต้นได้นำเอาแผงตะแกรงเหล็กไปปิดกั้นตามคลองที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันจะเข้หลุดออกนอกเขต และ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกไล่ล่าจับจะเข้ตามแนวป่า และ พื้นที่ใกล้เคียงแล้ว ซึ่งภายในวันนี้ (13 ก.ย. ) เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสำรวจให้แน่ชัดอีกครั้งว่า มีจระเข้หลุดออกไปจำนวนกี่ตัว พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนสถานการณ์น้ำทางภาคกลางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักยังเพิ่มขึ้น หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ต้องระบายน้ำจากเขื่อนพระราม 6 เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางจุดมีน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ในอำเภอท่าเรือ ซึ่งเป็นจุดรองรับน้ำจากเขื่อน ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะจุดที่เจ้าพระยาไหลมาสมบทบกับแม่น้ำป่าสัก บริเวณหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่บ้านหลายแห่งถูกตัดขาด และยังรอการช่วยเหลือ ส่วนที่จังหวัดสิงห์บุรีชาวบ้านในตำบลพระงาม หมู่ที่ 3 กว่า 100 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันบนถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรีสายเก่า บริเวณสามแยกกระทุ่มโพรง เพื่อต้องการให้นำเอาแนวคันดินที่กั้นน้ำไม่ให้น้ำไหลข้ามถนนออก เนื่องจากเห็นว่าแนวคันดินดังกล่าว เป็นสาเหตุให้บ้านเรือนของพวกเขาต้องถูกน้ำท่วมจนมิดหลังคา บางแห่งก็ท่วมถึงชั้นสอง ซึ่งแนวคันดินนี้ ทางหน่วยงานของจังหวัดสิงห์บุรี ทำขึ้นเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลข้ามไปท่วมนาข้าวของชาวบ้านอีกฟากหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งถนนยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแลโดยเร่งด่วน ส่วนทางภาคเหนือยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดพิจิตร ชาวบ้าน และ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องพยายามใช้เชือกดึงเรือท้องแบนเข้าไปยังบ้านพักสามหลังในบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลไผ่หลวง อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เพื่อขนย้ายทรัพย์สินออกจากตัวบ้าน หลังแม่น้ำน่านไหลทะลักเข้ากัดเซาะจนบ้านทรุดตัว ขณะที่สมาชิกบ้านต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติเพื่อความปลอดภัย ส่วนชาวบ้านในชาวบ้านตำบลทำนบอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ หลังน้ำป่าไหลหลากจากอำเภอไพศาลี เข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่ทางอำเภอยังประกาศเตือนให้ชาวบ้านเตรียมรับน้ำท่วม เนื่องจากมวลน้ำก้อนใหญ่กำลังไหลจากอำเภอไพศาลี ประกอบกับในพื้นที่ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่วนฝนที่ตกหนักทำให้ถนนสายสะเดาะพงษ์-หนองแม่นา ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทรุดตัวลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ยาวกว่า 50 เมตร ทำให้รถที่วิ่งผ่านต้องระวังอันตรายโดยใช้ทางเบี่ยง โดยมีรายงานว่า จุดนี้มีผู้สูญหายแล้ว 1 ราย ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ต้องเร่งนำรถแบ๊คโฮ ขุดลอกขยายเส้นทางระบายน้ำรอบหมู่บ้านหนองตะลุมปุ๊ก เพื่อระบายน้ำออกจากหมู่บ้าน หลังฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านบ้านสูงกว่า 30 เซนติเมตร ส่วนเจ้าหน้าที่ของอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ต้องเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเฉลี่ยวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเตรียมรับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปริมาณน้ำ ในลำน้ำชี และลำน้ำมูล เพิ่มสูงขึ้นจนเกือบล้นตลิ่ง ทำให้ทางจังหวัดต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมอพยบชาวบ้านออกจากพื้นที่ หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนสถานการณ์ทางภาคใต้ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม เช่นในเขตเทศบาลตำบลท่าขนอน และบ้านหาดหึง ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลาก ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนที่จังหวัดพัทลุงน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ในอำเภอศรีบรรพต ไหลเข้าท่วม พื้นที่ หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 7 ตำบลควขนุน อำเภอควนขนุน ชาวบ้านหลายสิบครอบครัว ต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สิน เพราะน้ำไหลแรงและเชี่ยว กระแสน้ำยังทำให้คันฝายกั้นน้ำ ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ในหมู่ที่ 7 ตำบลควนขนุน พังเสียหาย สำหรับภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยตามคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา จังหวัดที่ยังคงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในระยะนี้ คือ จังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ลพบุรี อุทัยธานี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต โดยกรมชลประทาน เตือนภัยน้ำเหนือที่กำลังหลากลงมาสู่ภาคกลางมากขึ้น จากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน โดยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นทุกวัน วันละ 10 - 15 เซนติเมตร ต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้า จังหวัดในที่ราบลุ่มภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพ และปริมณฑล ควรเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ส่วนกรมทรัพยากรธรณียังคงเตือนภัยดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวั918 เค ดิ ต ฟรีแทง บอล 3mดสตูล ตรัง และสงขลาเพราะยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องวัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มิลลิเมตรจนมีดินไหลและน้ำล้นตลิ่งบางพื้นที่แล้ว ในภาคเหนือที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก ในภาคกลาง ที่จังหวัดกาญจนบุรี และในภาคตะวันออก ที่จังหวัดระยอง จันทบุรี และ ตราด

วันนี้ (11 มี.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคำชี้แจงกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และ น.ส.อ