UID: 72874

จากปรากฎการณ์แม่ค้า ขายขนมโตเกียว ที่ จ.เชียงใหม่ แต่งชุดเซ็กซี่ สามารถสร้างความสนใจและดึงดูดลูกค้าใ

วันนี้ (29 พ.ย.2564) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ออกแถลงการณ

วันนี้ (20 พ.ย.2566) ทีมสัตวแพทย์ สบอ.1 ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ทีมสัตวแพทย์ สบอ.3 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และฐานปฏิบัติการป้องกันและรักษาป่า (วังมืด) ร่วมกันดูแลรักษาลูกช้างป่า "เดือน" ลูกช้างป่าตัวผู้ ที่พลัดหลง บริเวณท้องที่บ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่า ลูกช้างมีความอยากกินนมปกติ อุจจาระเหลวเป็นสีเหลืองออกเขียว สัตวแพทย์จึงให้ลดปริมาณนมต่อมื้อ สลับกับให้เกลือแร่แบบกิน ปัสสาวะปกติ รวมทั้งให้ยาฉีดลดปวดลดอักเสบ แคลเซียมสำหรับกิน ผงโปรไบโอติก และทำความสะอาดสะดือ ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นอกจากนี้ ใช้เครื่องปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระบบการลดปวด ลดอักเสบ และระบบดูแลกระดูก ควบคู่กับการรักษาทางยา โดยจะใช้เครื่องดังกล่าวตามโปรแกรมการรักษา ทีมสัตวแพทย์ ยังตรวจพบจุดขาวบนลิ้นของลูกช้าง แต่อุณหภูมิร่างกายกลับมาปกติแล้ว และผลทางห้องปฏิบัติการโรคเฮอร์ปีส์ไวรัสในช้าง (EEHV) ให้ผลเป็นลบ ทั้งนี้ อาการโดยรวมยังคงเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด โดยสัตวแพทย์จะประเมินอาการวันต่อวัน ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำหรับกิจวัตรประจำวันในการดูแลลูกช้าไฮโล ไลฟ์สดง ทีมเจ้าหน้าที่พาลูกช้างเดินเล่นช้า ๆ และยังอยู่บนอุปกรณ์ช่วยพยุงอยู่ตลอดเวลา โดยยกสองขาหลังที่เข้าเฝือกเหนือพื้นเล็กน้อย ขาหน้าไม่มีการดึงรั้งสามารถลงน้ำหนักได้เต็ม 2 ฝ่าเท้า ทำความสะอาดลดความชื้นของเฝือก การเปลี่ยนถุงหุ้มเฝือกเพื่อลดการปนเปื้อนสิ่งสกปรก เช็กระดับรอกให้เหมาะสมทุกครั้งในการยืน โดยพบอาการท้องอืดเป็นบางช่วง ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ระดมหมอรักษา "ลูกช้างป่าทับลาน" เข้าเฝือกขาหลัง กินนมได้-ไม่ซึม เอ็นดู! "พลายเดือน" อยากเดินได้-ปรับแผนเข้าเฝือกแข็ง 17 พ.ย.นี้ ดีเดย์! 16-17 พ.ย.ย้ายลูกช้างป่าทับลาน ผ่าตัดกระดูกที่ มก. ส่งใจช่วย "พลายเดือน" หมองดนมเพราะถ่ายเหลว-พาเดินเล่นช้าๆ

วันนี้ (20 พ.ย.2566) ทีมสัตวแพทย์ สบอ.1 ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ทีมสัตวแพทย์ สบอ.3