เกิดเหตุบุกชิงทรัพย์ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ภายใน

ยอมหักไม่ยอมงอ หักโผคุณขอมาจาก "บ้านจันทร์ส่องหล้า" สำเร็จ วางไลน์ทายาทรุ่นต่อไปรอล่วงหน้า "บิ๊กต่อ" พล.อ.เจริญชัย ก็โบกมือลาตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก อย่างสมศักดิ์ศรี เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.2567) โดยนำคณ
วันนี้ (17 ก.ย.2564) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ขยายผลจับกุม น.ส.ธิดาวรรณ พร้อมสามี ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโก
ยอมหักไม่ยอมงอ หักโผคุณขอมาจาก "บ้านจันทร์ส่องหล้า" สำเร็จ วางไลน์ทายาทรุ่นต่อไปรอล่วงหน้า "บิ๊กต่อ" พล.อ.เจริญชัย ก็โบกมือลาตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก อย่างสมศักดิ์ศรี เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.2567) โดยนำคณะและนายพลเหล่าทหารราบที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการในวาระ ต.ค.2567 ร่วมพิธีวันทหารราบและพิธีเทิดเกียรตินายทหารชั้นนายพลเหล่าทหารราบประจำปี 2567 ณ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกล่าวอำลาชีวิตราชการตอนหนึ่งว่า "ตลอดชีวิตรับราชการ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของเหล่าทหารราบ เป็นกำลังรบหลักของกองทัพเพื่อรักษาเอกราช อธิปไตยและความมั่นคงของชาติ พิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความผาสุกให้ประชาชน เป็นภาระหน้าที่ที่มีเกียรติที่พวกเราต่างมุ่งมั่น ทุ่มเท ปฏิบัติงานเคียงบ่าเคียงไหล่ ฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกัน จนปรากฏเป็นผลงานที่เชิดชูศักดิ์ศรีของเหล่าทหารราบ" เพื่อตอบแทนแผ่นดิน และประเทศชาติ รวมถึงประชาชนที่ได้ให้ความไว้วางใจ ภารกิจทุกด้านบรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น มาจากความร่วมมือของเพื่อนทหารราบทุกท่าน ที่พัฒนาให้กองทัพมีศักยภาพในการดำเนินภารกิจ ได้สมกับการเป็นกองทัพของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง หากย้อนเวลากลับไป การวางไลน์ของกองทัพบกระดับนายพล ภายใต้การนำของ "บิ๊กต่อ" พล.อ.เจริญชัย "นิ่งสนิท" ไม่ว่าจะเป็นการเสนอชื่อ "บิ๊กปู" พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ หรือการเลือก "บิ๊กใหญ่" พล.ท.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แม่ทัพน้อยที่ 1 อดีตผู้การกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21รอ.) ให้ขยับขึ้นจากแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 หรือการเปิดทางให้ "บิ๊กไก่" พล.ต.วรยส เหลือสุวรรณ (ตม.28 ) รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อรอลุ้นขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปี 2568 หวังปิดทางการวิ่งผ่านดีลการเมือง ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่โอกาสการเติบโตทางชีวิตราชการของเพื่อนรุ่น ตท.28 ไม่ว่าจะเป็น "บิ๊กกอล์ฟ" พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ซึ่งครั้งนี้ยังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิม คือ รองแม่ทัพภาคที่ 1 และ "บิ๊กคิ้ว" พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน์ ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 ต่างก็ยังมีโอกาสเป็นแคนดิเดตในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ในอนาคตข้างหน้า เช่นเดียวกัน รวมทั้งการจัดวางตำแหน่ง 3 ทหารเสือราชินี พ.อ.กิตติ ประพิตรไพศาล (ตท.31) รองผบ.พล.1 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ., พ.อ.เบญจพล เดชาชิตวงศ์ (ตท.32) รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร. 2 รอ. และ พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ (ตท.30) รอง ผบ.พล.ร.11 ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 เพื่อกรุยเส้นทางการเติบโตในชีวิตราชการ ให้เข้ามาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และรองแม่ทัพน้อยที่ 1 โดย พ.อ.ยุทธนา จะเกษียณราชการในปี 2574 และ พ.อ.เบญจพล เกษียณในปี 2575 โดยนายทหารทั้ง 3 นาย มีโอกาสสูงมากในการขยับเข้าสู่ 5 เสือ ทบ. เพื่อรับช่วงต่อจาก พล.อ.พนา ที่จะเกษียณในปี 2570 และ พล.ท.อมฤต ที่เกษียณปี 2571 เพื่อเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป ปฏิเสธไม่ได้ว่า การจัดวางตัว ขุนศึก แม่ทัพ นายกอง ในตำแหน่งสำคัญ ๆ นอกจะเป็นหัวใจหลักสำคัญของหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ฝ่ายการเมืองต่างอยากเข้ามาล้วงลูก โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย "ทักษิณ ชินวัตร" ในฐานะผู้ครอบครอบครอง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี "ตัวจริง" เป็นผู้จัดดีลโดยตรง ซึ่งได้เคาะตำแหน่ง ผบ.ตร.คนล่าสุด เปิดไฟเขียวให้ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผ่านเข้าไปนั่งเบอร์ 1 เก้าอี้พิทักษ์ 1 กรมปทุมวัน แล้ว แม้เหล่าลูกหม้อตึกแดงในชายคา สมช. อยากให้ "คนใน" ได้เติบโตตามวงรอบที่ควรจะเป็น หลังจากฝ่ายการเมืองหลายยุคส่ง "บิ๊กสีขี้ม้า" และ "บิ๊กสีกากี" ข้ามห้วยมานั่งคั่นเวลา "คุมงานด้านการข่าว" จึงทำให้ "ฉัตรชัย บางชวด" รองเลขาสมช.เบอร์ 1 สายพลเรือน ต้องพลาดไปในครั้งที่แล้ว ในครั้งนี้จึงต้องวัดใจอีกครั้งว่า "ทักษิณ" จะส่ง "บิ๊กจวบ" พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการ รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร.มาเป็นเลขา สมช.คนใหม่ หรือจะเปิดโอกาสให้ "รองฉัตร" ก้าวขึ้นมาเต็มตัวในฐานะลูกหม้อ สายตรงหรือไม่ ด้วยว่า เป็นมือหนึ่งในการทำงานในระดับประเทศอย่างแท้จริง ท่ามกลางกระแสสะพัดว่า หาก "บิ๊กจวบ" พล.ต.ท.ประจวบ ได้ขยับเป็นรอง ผmafia1688 เข้าสู่ระบบบ.ตร. ครองยศ พล.ต.อ.เต็มตัว ในการแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กสีกากีครั้งนี้ และอาจเว้นรออีกสัก 1-2 เดือน จึงข้ามห้วยมารับตำแหน่งเลขาธิการ สมช. และระหว่างที่อยู่ในจังหวะที่รอจะให้รองเลขาธิการ สมช.ลำดับ 1 รักษาราชการไปก่อน ขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้ว่า อาจมีการส่ง "บิ๊กปั้น" พล.อ.ไพบูลย์ วรวรรณปรีชา ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ตท.24 ข้ามฝั่งเป็นม้ามืด กระโจนข้ามห้วยมาอีกครั้ง และมีผลให้ "รองฉัตร" ฉัตรชัย (อาจ) ต้องชวดตำแหน่งอีกตามเคย อ่านข่าวเพิ่ม : "บิ๊กต่อ" โบกมือลา ผบ.ตร. รอเคาะ "พิทักษ์ 1"คนใหม่ หลัง 5 ต.ค. รับบำเหน็จหรือบำนาญ ? เพื่อบริหารคุณภาพชีวิตหลัง "เกษียณ"
วันนี้ (27 มิ.ย.2567) การเลือก สว.ระดับประเทศ เสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยพบว่ามีบ
วานนี้ (4 ก.พ.2565) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่นาข้าวหอมปทุมธานี 20 ไร่ ในเขตหนองจอก กทม. ใช้เงินลงทุนไป
ยอมหักไม่ยอมงอ หักโผคุณขอมาจาก "บ้านจันทร์ส่องหล้า" สำเร็จ วางไลน์ทายาทรุ่นต่อไปรอล่วงหน้า "บิ๊กต่อ" พล.อ.เจริญชัย ก็โบกมือลาตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก อย่างสมศักดิ์ศรี เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.2567) โดยนำคณะและนายพลเหล่าทหารราบที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการในวาระ ต.ค.2567 ร่วมพิธีวันทหารราบและพิธีเทิดเกียรตินายทหารชั้นนายพลเหล่าทหารราบประจำปี 2567 ณ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกล่าวอำลาชีวิตราชการตอนหนึ่งว่า "ตลอดชีวิตรับราชการ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของเหล่าทหารราบ เป็นกำลังรบหลักของกองทัพเพื่อรักษาเอกราช อธิปไตยและความมั่นคงของชาติ พิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความผาสุกให้ประชาชน เป็นภาระหน้าที่ที่มีเกียรติที่พวกเราต่างมุ่งมั่น ทุ่มเท ปฏิบัติงานเคียงบ่าเคียงไหล่ ฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกัน จนปรากฏเป็นผลงานที่เชิดชูศักดิ์ศรีของเหล่าทหารราบ" เพื่อตอบแทนแผ่นดิน และประเทศชาติ รวมถึงประชาชนที่ได้ให้ความไว้วางใจ ภารกิจทุกด้านบรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น มาจากความร่วมมือของเพื่อนทหารราบทุกท่าน ที่พัฒนาให้กองทัพมีศักยภาพในการดำเนินภารกิจ ได้สมกับการเป็นกองทัพของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง หากย้อนเวลากลับไป การวางไลน์ของกองทัพบกระดับนายพล ภายใต้การนำของ "บิ๊กต่อ" พล.อ.เจริญชัย "นิ่งสนิท" ไม่ว่าจะเป็นการเสนอชื่อ "บิ๊กปู" พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ หรือการเลือก "บิ๊กใหญ่" พล.ท.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แม่ทัพน้อยที่ 1 อดีตผู้การกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21รอ.) ให้ขยับขึ้นจากแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 หรือการเปิดทางให้ "บิ๊กไก่" พล.ต.วรยส เหลือสุวรรณ (ตม.28 ) รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อรอลุ้นขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปี 2568 หวังปิดทางการวิ่งผ่านดีลการเมือง ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่โอกาสการเติบโตทางชีวิตราชการของเพื่อนรุ่น ตท.28 ไม่ว่าจะเป็น "บิ๊กกอล์ฟ" พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ซึ่งครั้งนี้ยังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิม คือ รองแม่ทัพภาคที่ 1 และ "บิ๊กคิ้ว" พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน์ ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 ต่างก็ยังมีโอกาสเป็นแคนดิเดตในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ในอนาคตข้างหน้า เช่นเดียวกัน รวมทั้งการจัดวางตำแหน่ง 3 ทหารเสือราชินี พ.อ.กิตติ ประพิตรไพศาล (ตท.31) รองผบ.พล.1 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ., พ.อ.เบญจพล เดชาชิตวงศ์ (ตท.32) รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร. 2 รอ. และ พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ (ตท.30) รอง ผบ.พล.ร.11 ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 เพื่อกรุยเส้นทางการเติบโตในชีวิตราชการ ให้เข้ามาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และรองแม่ทัพน้อยที่ 1 โดย พ.อ.ยุทธนา จะเกษียณราชการในปี 2574 และ พ.อ.เบญจพล เกษียณในปี 2575 โดยนายทหารทั้ง 3 นาย มีโอกาสสูงมากในการขยับเข้าสู่ 5 เสือ ทบ. เพื่อรับช่วงต่อจาก พล.อ.พนา ที่จะเกษียณในปี 2570 และ พล.ท.อมฤต ที่เกษียณปี 2571 เพื่อเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป ปฏิเสธไม่ได้ว่า การจัดวางตัว ขุนศึก แม่ทัพ นายกอง ในตำแหน่งสำคัญ ๆ นอกจะเป็นหัวใจหลักสำคัญของหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ฝ่ายการเมืองต่างอยากเข้ามาล้วงลูก โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย "ทักษิณ ชินวัตร" ในฐานะผู้ครอบครอบครอง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี "ตัวจริง" เป็นผู้จัดดีลโดยตรง ซึ่งได้เคาะตำแหน่ง ผบ.ตร.คนล่าสุด เปิดไฟเขียวให้ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผ่านเข้าไปนั่งเบอร์ 1 เก้าอี้พิทักษ์ 1 กรมปทุมวัน แล้ว แม้เหล่าลูกหม้อตึกแดงในชายคา สมช. อยากให้ "คนใน" ได้เติบโตตามวงรอบที่ควรจะเป็น หลังจากฝ่ายการเมืองหลายยุคส่ง "บิ๊กสีขี้ม้า" และ "บิ๊กสีกากี" ข้ามห้วยมานั่งคั่นเวลา "คุมงานด้านการข่าว" จึงทำให้ "ฉัตรชัย บางชวด" รองเลขาสมช.เบอร์ 1 สายพลเรือน ต้องพลาดไปในครั้งที่แล้ว ในครั้งนี้จึงต้องวัดใจอีกครั้งว่า "ทักษิณ" จะส่ง "บิ๊กจวบ" พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการ รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร.มาเป็นเลขา สมช.คนใหม่ หรือจะเปิดโอกาสให้ "รองฉัตร" ก้าวขึ้นมาเต็มตัวในฐานะลูกหม้อ สายตรงหรือไม่ ด้วยว่า เป็นมือหนึ่งในการทำงานในระดับประเทศอย่างแท้จริง ท่ามกลางกระแสสะพัดว่า หาก "บิ๊กจวบ" พล.ต.ท.ประจวบ ได้ขยับเป็นรอง ผmafia1688 เข้าสู่ระบบบ.ตร. ครองยศ พล.ต.อ.เต็มตัว ในการแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กสีกากีครั้งนี้ และอาจเว้นรออีกสัก 1-2 เดือน จึงข้ามห้วยมารับตำแหน่งเลขาธิการ สมช. และระหว่างที่อยู่ในจังหวะที่รอจะให้รองเลขาธิการ สมช.ลำดับ 1 รักษาราชการไปก่อน ขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้ว่า อาจมีการส่ง "บิ๊กปั้น" พล.อ.ไพบูลย์ วรวรรณปรีชา ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ตท.24 ข้ามฝั่งเป็นม้ามืด กระโจนข้ามห้วยมาอีกครั้ง และมีผลให้ "รองฉัตร" ฉัตรชัย (อาจ) ต้องชวดตำแหน่งอีกตามเคย อ่านข่าวเพิ่ม : "บิ๊กต่อ" โบกมือลา ผบ.ตร. รอเคาะ "พิทักษ์ 1"คนใหม่ หลัง 5 ต.ค. รับบำเหน็จหรือบำนาญ ? เพื่อบริหารคุณภาพชีวิตหลัง "เกษียณ"
วันนี้ (13 ก.พ.2568) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า