วันนี้ (18 ก.พ.2564) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบด

วันนี้ (18 ม.ค.64) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายกว่า 10 คน จากการลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศกับบริษัท FOREX-3D ยื่นเรื่องต่อนายสม
วันนี้ (1 เม.ย.2568) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีแผ่นดินไหวในประเทศไทย ครั้งที่ 5/2568 และกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข
นายสมเกียรติ ยอดมาลี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) โดย น.ส.แดงระวี พรหมรักษ์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ หัวหน้าโครงการวิจัยทรัพยากรสัตว์ป่ากับโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองวังชมพู (เขื่อนวังชมพู) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก พร้อมคณะ ประสบความสำเร็จในการบันทึกภาพจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย สัตว์ที่มีสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในธรรมชาติ บริเวณปากกะซาว คลองชมพู อ.เนินมะปรา ในอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า แสดงให้เห็นจระเข้ขนาดใหญ่กำลังนอนอาบแดดบนโขดหินริมน้ำ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้และพุ่มไม้ปกคลุม การค้นพบนี้เป็นผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของทีมวิจัยที่ได้ติดตามประชากรจระเข้น้ำจืดในพื้นที่มาตั้งแต่เดือน ต.ค.2567 โดยมีการลงพื้นที่สำรวจร่องรอยและติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าเป็นประจำทุกเดือน โดยในอดีตพื้นที่ดังกล่าวเคยมีรายงานการพบจระเข้ล่าสุดเมื่อปี 2556 และตามคำบอกกล่าวของชาวบ้านว่าพบเห็นอยู่เรื่อยมา จระเข้น้ำจืดไทย หรือที่เรียกกันว่าจระเข้สยาม จระเข้บึง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crocodylus siamensis ซึ่งมาจากคำว่า "Siam" (ชื่อเดิมของประเทศไทย) และคำลาติน "ensis" ที่แปลว่า "เป็นของ" จึงมีความหมายว่า "จระเข้ซเงินช่วยเหลือเกษตรกร 2562 ไร่ละ 500ึ่งเป็นของประเทศไทย" จระเข้ชนิดนี้มีขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่ โตเต็มที่ยาวประมาณ 3-4 เมตร เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 10-12 ปี วางไข่ครั้งละ 20-48 ฟอง มีระยะเวลาฟักไข่นาน 68-85 วัน โดยจะเริ่มวางไข่ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือน พ.ค. ด้วยการขุดหลุมในหาดทรายริมแม่น้ำ พฤติกรรมของจระเข้ชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ไหลไม่แรงนักหรือแหล่งน้ำนิ่ง และชอบอยู่หรือหากินเดี่ยว ๆ อาหารหลักคือปลาและสัตว์ขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวน หรือมีอาหารเพียงพอ ในการกินแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้ 10-15 วัน โดยไม่ต้องกินอาหาร จระเข้น้ำจืดไทยมีการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศไทย แต่ปัจจุบันประชากรในธรรมชาติลดลงอย่างมาก จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีหนึ่งของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งเป็นบัญชีของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในสถานะถูกคุกคามอย่างยิ่ง (Critically Endangered) การพบจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยที่อุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง ในครั้งนี้ จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประชากรจระเข้ในพื้นที่นี้ยังคงอยู่รอด และระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงยังคงมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอที่จะรองรับสัตว์ป่าหายากชนิดนี้ ซึ่งเป็นความหวังสำหรับการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยให้คงอยู่ในธรรมชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการอนุรักษ์ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่คลองชมพูที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำในอนาคต ข้อมูลและภาพ จากทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) อ่านข่าว : ล็อกเป้า 6 กลุ่มป่า สกัด "ช้าง" เข้าหากินในชุมชน เปิดชีวิต "ลูกบ่าวไข่นุ้ย" จากเกเรสู่ช้างป่าขี้อ้อนในคอกบริบาลแห่งแรก ครั้งแรก! “สเต็มเซลล์รกช้าง” ฟื้นดวงตาพังมรกตหายหวิดตาบอด
ในการสร้างสถิติโลกครั้งใหม่นี้ ทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคนิคมิวนิก (Technische Universität München
นายสมเกียรติ ยอดมาลี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิ
วันนี้ (1 ส.ค.2564) รายงานข่าวจากที่ประชุม ศบค.เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบ ยกระดับพื้นที่สถานกา
นายสมเกียรติ ยอดมาลี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) โดย น.ส.แดงระวี พรหมรักษ์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ หัวหน้าโครงการวิจัยทรัพยากรสัตว์ป่ากับโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองวังชมพู (เขื่อนวังชมพู) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก พร้อมคณะ ประสบความสำเร็จในการบันทึกภาพจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย สัตว์ที่มีสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในธรรมชาติ บริเวณปากกะซาว คลองชมพู อ.เนินมะปรา ในอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า แสดงให้เห็นจระเข้ขนาดใหญ่กำลังนอนอาบแดดบนโขดหินริมน้ำ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้และพุ่มไม้ปกคลุม การค้นพบนี้เป็นผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของทีมวิจัยที่ได้ติดตามประชากรจระเข้น้ำจืดในพื้นที่มาตั้งแต่เดือน ต.ค.2567 โดยมีการลงพื้นที่สำรวจร่องรอยและติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าเป็นประจำทุกเดือน โดยในอดีตพื้นที่ดังกล่าวเคยมีรายงานการพบจระเข้ล่าสุดเมื่อปี 2556 และตามคำบอกกล่าวของชาวบ้านว่าพบเห็นอยู่เรื่อยมา จระเข้น้ำจืดไทย หรือที่เรียกกันว่าจระเข้สยาม จระเข้บึง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crocodylus siamensis ซึ่งมาจากคำว่า "Siam" (ชื่อเดิมของประเทศไทย) และคำลาติน "ensis" ที่แปลว่า "เป็นของ" จึงมีความหมายว่า "จระเข้ซเงินช่วยเหลือเกษตรกร 2562 ไร่ละ 500ึ่งเป็นของประเทศไทย" จระเข้ชนิดนี้มีขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่ โตเต็มที่ยาวประมาณ 3-4 เมตร เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 10-12 ปี วางไข่ครั้งละ 20-48 ฟอง มีระยะเวลาฟักไข่นาน 68-85 วัน โดยจะเริ่มวางไข่ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือน พ.ค. ด้วยการขุดหลุมในหาดทรายริมแม่น้ำ พฤติกรรมของจระเข้ชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ไหลไม่แรงนักหรือแหล่งน้ำนิ่ง และชอบอยู่หรือหากินเดี่ยว ๆ อาหารหลักคือปลาและสัตว์ขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวน หรือมีอาหารเพียงพอ ในการกินแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้ 10-15 วัน โดยไม่ต้องกินอาหาร จระเข้น้ำจืดไทยมีการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศไทย แต่ปัจจุบันประชากรในธรรมชาติลดลงอย่างมาก จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีหนึ่งของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งเป็นบัญชีของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในสถานะถูกคุกคามอย่างยิ่ง (Critically Endangered) การพบจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยที่อุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง ในครั้งนี้ จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประชากรจระเข้ในพื้นที่นี้ยังคงอยู่รอด และระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงยังคงมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอที่จะรองรับสัตว์ป่าหายากชนิดนี้ ซึ่งเป็นความหวังสำหรับการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยให้คงอยู่ในธรรมชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการอนุรักษ์ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่คลองชมพูที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำในอนาคต ข้อมูลและภาพ จากทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) อ่านข่าว : ล็อกเป้า 6 กลุ่มป่า สกัด "ช้าง" เข้าหากินในชุมชน เปิดชีวิต "ลูกบ่าวไข่นุ้ย" จากเกเรสู่ช้างป่าขี้อ้อนในคอกบริบาลแห่งแรก ครั้งแรก! “สเต็มเซลล์รกช้าง” ฟื้นดวงตาพังมรกตหายหวิดตาบอด
วันนี้ (5 มี.ค.2565) กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า กองทัพรัสเซียประกาศหยุดยิง และเปิดเส้นทางอพยพพลเรื