หลังจากที่ กัมพูชาเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ชาติสมาชิกเ

วันนี้ (18 ก.ค.2567) นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายช
วันนี้ (15 มิ.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลยูโร ที่ทำให้ประชาชนมีความสุขขึ้น จากการรับชมการแข่งขันรายการนี้ โดยขอ
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูล 2 คดี โดยคดีแรกชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, น.ส.ประนอม คงพิกุล ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนายวตสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ หรือนายสงกรานต์ สาทาวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนาสงเคราะห์ ทั้งนี้ มีมูลความผิดทางอาญา คดีทุจริตเงินทอนวัด วัดตำหนัก วัดโพธิ์ทอง และวัดจงกลณี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเรียกรับเงินทอนร้อยละ 90 ของเงินอุดหนุนวัดในปี 2556 อ้างว่าเป็นการส่งคืนสำนักงานพระพุทธศาสgenie slotนาแห่งชาติ เพื่อนำไปใช้ในกิจการอื่นและสนับสนุนวัดในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติแต่ละสำนวนคดี ดังนี้ การกระทำของนายนพรัตน์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ส่วน น.ส.ประนอม และนายวสวัตติ์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป โดยให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ด้วย นอกจากนี้ ยังชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ และพวก ในคดีทุจริตเงินทอนวัดปีงบประมาณ 2557 ที่มีการจัดสรรให้วัดในพื้นที่ภาคกลางจำนวน 5 สำนวนคดี มูลค่าความเสียหาย 28,000,000 บาท ประกอบไปด้วยเงินอุดหนุนการบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดที่ประสบวินาศภัย วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม จำนวน 4,000,000 บาท, วัดใหญ่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 4,000,000 บาท, วัดเพลง กรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000,000 บาท, วัดเกาะแก้วอรุณคาม จำนวน 5,000,000 บาท และวัดกลางเหนือ จ.สมุทรสงคราม จำนวน 10,000,000 บาท อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พศ.ไม่ย้าย"ประนอม คงพิกุล" ถูกสอบเงินอุดหนุนวัด-อ้างรอชี้มูลความผิด ป.ป.ช.ชี้อดีตข้าราชการ พศ.ผิดวินัยร้ายแรง ทุจริตเงินทอนวัด
กรณีลูกช้างป่าอายุ 1 เดือนพลัดหลงบาดเจ็บในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัต์ป
วันนี้ (10 ก.พ.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรง
วันนี้ (6 ม.ค.2566) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ค่าบริการรายเดือ
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูล 2 คดี โดยคดีแรกชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, น.ส.ประนอม คงพิกุล ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน และนายวตสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ หรือนายสงกรานต์ สาทาวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนาสงเคราะห์ ทั้งนี้ มีมูลความผิดทางอาญา คดีทุจริตเงินทอนวัด วัดตำหนัก วัดโพธิ์ทอง และวัดจงกลณี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเรียกรับเงินทอนร้อยละ 90 ของเงินอุดหนุนวัดในปี 2556 อ้างว่าเป็นการส่งคืนสำนักงานพระพุทธศาสgenie slotนาแห่งชาติ เพื่อนำไปใช้ในกิจการอื่นและสนับสนุนวัดในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติแต่ละสำนวนคดี ดังนี้ การกระทำของนายนพรัตน์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ส่วน น.ส.ประนอม และนายวสวัตติ์ มีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป โดยให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ด้วย นอกจากนี้ ยังชี้มูลความผิดนายนพรัตน์ และพวก ในคดีทุจริตเงินทอนวัดปีงบประมาณ 2557 ที่มีการจัดสรรให้วัดในพื้นที่ภาคกลางจำนวน 5 สำนวนคดี มูลค่าความเสียหาย 28,000,000 บาท ประกอบไปด้วยเงินอุดหนุนการบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดที่ประสบวินาศภัย วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม จำนวน 4,000,000 บาท, วัดใหญ่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 4,000,000 บาท, วัดเพลง กรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000,000 บาท, วัดเกาะแก้วอรุณคาม จำนวน 5,000,000 บาท และวัดกลางเหนือ จ.สมุทรสงคราม จำนวน 10,000,000 บาท อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง พศ.ไม่ย้าย"ประนอม คงพิกุล" ถูกสอบเงินอุดหนุนวัด-อ้างรอชี้มูลความผิด ป.ป.ช.ชี้อดีตข้าราชการ พศ.ผิดวินัยร้ายแรง ทุจริตเงินทอนวัด
วันนี้ (20 ธ.ค.2566) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป