UID: 57149

นับเวลาจากนี้อย่างน้อย 2 เดือน ที่ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั่งรักษาราชการแทนผู้บัญ

หากปล่อยให้ทำหน้าที่ดังกล่าว อาจกลายเป็นมรดกบาป ที่ สว. ได้ทิ้งไว้ให้กับประเทศชาติ หากผลคดีออกไปทางล

หากปล่อยให้ทำหน้าที่ดังกล่าว อาจกลายเป็นมรดกบาป ที่ สว. ได้ทิ้งไว้ให้กับประเทศชาติ หากผลคดีออกไปทางลบต่อ สว.ที่ถูกเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาจาก กกต. แต่ในทางปฏิบัติดูไม่ง่ายอย่างที่คิด เพียงแค่จุดเริ่มต้น การล่ารายชื่อ สว.เพียง 1 ใน 10 ของทั้งหมด หรือ 20 คน ก็เจอตอแล้ว ดังที่ น.ส.นันทนา ยอมรับว่า ยังได้ไม่ครบ 20 คน ทั้งที่มี สว.ในสภาถึง 200 คน และปรากฏว่า สว.ส่วนหนึ่ง เดินทางไปต่างประเทศ แม้จะเรื่องยุ่ง ๆ เกี่ยวกับ สว.อยู่ ไม่เพียงเท่านั้น การยื่นคำร้อง ต้องยื่นต่อสภาที่ตนสังกัด คือประธานวุฒิสภา นายมงคล สุระสัจจะ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 55 สว.ล็อตแรกที่ถูกหมายเรียก ทำผิด พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว. และถือว่าเป็นคู่กรณี จะรับเรื่องหรือไม่ หรือรับแล้ว จะส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ยังต้องลุ้น เพราะกฎหมายไม่เปิดช่องให้ยื่นกับบุคคลอื่น เรื่องดังกล่าวนี้ นายเชษฐา ทรัพย์เย็น รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เห็นว่า น่าจะทำได้เพียงเชิงสัญลักษณ์ เพื่อลดเครดิตความน่าเชื่อถือของ สว.เสียงข้างมากชุดปัจจุบันเท่านั้น นายเชษฐากล่าวว่า การทำหน้าที่ของ สว. เรื่องเห็นชอบตั้งกรรมการในองค์กรอิสระ ต้องอยู่บนความน่าเชื่อถือสูงสุด แต่ขณะนี้เมื่อมีเรื่องถูกร้องฮั้วเลือก สว. ทำให้ประชาชน ไม่มั่นใจว่าจะมีผลไม้พิษตามมาหรือไม่ ทั้งจะส่งผลให้การเมืองประเทศสั่นคลอน เข้าทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่เฝ้าจับตาและหวังอานิสงส์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นขั้วอนุรักษ์นิยม หรือขั้วเสรีนิยมคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับ ศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ก่อนหน้านี้ ถูกวุฒิสภาตีตกไม่ให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันก่อน เรื่องมีความพยายามยึดกุมผูกขาดองค์กรอิสระโดยบุคคลและพรรคการเมืองจริงหรือไม่ มีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า อันตรายหากองค์กรอิสระกลายเป็น “องค์กรภายใต้กำกับ” แทนที่จะเป็นองค์กรตรวจสอบที่เป็นอิสระจากการถูกแทรกแซงทางการเมือง และระบุชัดว่า 5 ปีในวาะตำแหน่ง สว. วุฒิสภาชุดนี้มีอำนาจรับรองหรือปัดตก ผู้ทำหน้าที่ในองค์กรอิสระและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมากถึง 33 คน จาก 42 ตำแหน่ง แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ข่าวดีคือ น.ส.นันทนา ไม่ได้สู้แบบโดดเดี่ยว เพราะมีแนวร่วม ตั้งแต่ “ทนายอั๋นบุรีรัมย์” นายภัทรพงศ์ ศุภักษร ที่ไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อชงเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้สั่ง สว.200 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังมีนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่ม “สว. พันธุ์ใหม่” ที่ล่ารายชื่อเพื่อน สว. เพื่อเสนอญัตติด่วนต่อประธานวุฒิสภา ให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริลาว งวด ก่อน ลาว งวด ก่อนยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการใน กกต. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. จนกว่าจะมีคำตัดสินคดีฮั้วเลือก สว. อีกคนคือ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ กลุ่ม “สว. สีขาว” ที่เตรียมเสนอให้ประธานวุฒิฯ ยับยั้งการบรรจุวาระแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระออกไปก่อน ยังไม่นับนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นอกเหนือจากยื่นเรื่องยุบพรรคภูมิใจไทย ผ่าน กกต.เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว นายณฐพร ยังส่งทีมทนายยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง 138 สว.ที่มีรายชื่อปรากฏในโพยฮั้วเลือก สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว. ข้อหาฐานเซาะกร่อนบ่อนทำลาย การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ที่คนหลายกลุ่มตระหนักและให้ความสำคัญ รวมทั้งเคลื่อนไหวหวังยับยั้ง บทบาทของ สว.เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือ รวมทั้งการเดินหน้าต่อไปของการเมืองไทย และการตรวจสอบการทำหน้าที่ ดีกว่าดันทุรัง เอาพวกมากลากไป อ้างว่ามีศักดิ์เหนือกว่า หรืออ้างพูดภาษาต่างประเทศได้เก่งกว่า หรืออ้างว่า ไม่สามารถละเลยการทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ อย่างเรื่องรับรองกรรมการในองค์กรอิสระ ของ สว. เป็นต้น วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว : ศาลสั่ง "ยิ่งลักษณ์" ให้ชดใช้ 10,028 ล้านบาท คดีจำนำข้าว อธิบดีกรมน้ำ สั่งเร่งออกแบบ "ฝายดักตะกอน" ในแม่น้ำกก พบเงินหมุนเวียนบัญชี "อรัญญาวรรณ" 2,000 ล้านบาท คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง

วันนี้ (15 ก.พ.2566) กองทัพอากาศ จัดเที่ยวบินพิเศษ เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) จำนวน