วันนี้ (3 ต.ค.2566) เจ้าหน้าที่กรมการปกครองนำกำลังเข้าตรวจค้นบ่อนการพนัน ภายในซอยประชาสงเคราะห์ ซอย

วันนี้ (26 ต.ค.2566) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วง 3 ไตรมาสของปี 2566 (มกราคม-กันยายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต

วันนี้ (26 ต.ค.2566) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วง 3 ไตรมาสของปี 2566 (มกราคม-กันยายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 493 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 166 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 327 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 84,013 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 5,703 คน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 111 ราย เงินลงทุน 22,929 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 80 ราย (เงินลงทุน 3,986 ล้านบาท สิงคโปร์ 77 ราย เงินลงทุน 20,513 ล้านบาท จีน 38 ราย เงินลงทุน 13,377เล่น เกมส์ ได้ เงิน วอ ล เลท ล้านบาท และฮ่องกง 20 ราย เงินลงทุน 5,369 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียม การบริหารจัดการสำหรับโครงการรถไฟฟ้า เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และสำหรับที่ใช้ในสถานพยาบาล การก่อสร้าง ติดตั้งระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก บริการออกแบบแม่พิมพ์โลหะสำหรับผลิตชื้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย เพิ่มขึ้น 57 ราย โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่น นายนภินทร กล่าวต่อว่า การลงทุนในพื้นที่ EEC นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน 99 ราย หรือ 20 % ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC มูลค่า 16,140 ล้านบาทหรือ19 % ของเงินลงทุนทั้งหมดเป็นนักลงทุนจาก ญี่ปุ่น,จีน,ฮ่องกงและประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ คาดว่าปี 2566 จะมีจำนวนนักลงทุนและเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายของภาครัฐ เพื่อการอำนวยความสะดวกในการลงทุนจากต่างชาติ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ผนวกกับมาตรการต่างๆ ในการเร่งผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและสร้างแรงดึงดูดแก่นักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น ข่าวที่อื่นๆ: คลังตั้ง 3 เกณฑ์ "คนรวย" หมดสิทธิ "ดิจิทัล วอลเล็ต" ลุยเจรจา FTA เอกชนหวังดันจีดีพีไทยโต 5% "เศรษฐา" พร้อมปรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ย้ำหวังกระตุ้นเศรษฐกิจไม่แบ่งจ่าย 3 รอบ

กรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก วางแผนหลบหนีจากศาลอาญาระหว่างพิจารณาคดี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ศาลควบคุมตัวไว้ได้ขณะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดไปรเวทแล้ว พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่