Home
|
อ่าน เค้า ไพ่ บา คา ร่า

วันนี้ (19 ต.ค.2564) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมช

อ่าน เค้า ไพ่ บา คา ร่า

วันนี้ (13 ม.ค.2564) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยอาการล่าสุดของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ ผู้ว่าฯ รู้ตัวดี กา

เจเนอเรชันเบตาไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียกที่ดูเรียบง่ายตามลำดับตัวอักษรกรีกที่ต่อจาก "เจเนอเรชันอัลฟา" เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้แบบไร้ขีดจำกัด ตามการคาดการณ์ของ Mc

เจเนอเรชันเบตาไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียกที่ดูเรียบง่ายตามลำดับตัวอักษรกรีกที่ต่อจาก "เจเนอเรชันอัลฟา" เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้แบบไร้ขีดจำกัด ตามการคาดการณ์ของ McCrindle บริษัทวิจัยด้านสังคมศาสตร์ในออสเตรเลีย ให้คำจำกัดความว่า เจเนอเรชันเบตาจะประกอบด้วยเด็กที่เกิดระหว่างปี 2568-2582 และภายในปี 2578 พวกเขาจะมีจำนวนประชากรคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรโลก ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ทารกที่เกิดในปี 2568 จะมีโอกาสมีอายุถึง 76 ปีในปี 2644 หรือปี ค.ศ.2101 นั่นหมายความว่าเด็กกลุ่มนี้จะได้ใช้ชีวิตใน ศตวรรษที่ 22 ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในเจเนอเรชันปัจจุบันอาจไปไม่ถึง ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว หากเจเนอเรชันอัลฟาเติบโตในยุคที่เทคโนโลยีอย่างสมาร์ตโฟนและ AI เพิ่งเริ่มเข้ามามีบทบาท เด็กเจเนอเรชันเบตาจะได้สัมผัสกับโลกที่ AI และระบบอัตโนมัติ (Automation) ผสานเข้ากับชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่โรงเรียนที่มีครู AI ที่สามารถปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กแต่ละคน ไปจนถึงระบบสุขภาพที่สามารถวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษาได้แบบเรียลไทม์ โลกที่พวกเขาเติบโตมาจะไม่ได้แยก "ออนไลน์" และ "ออฟไลน์" ออกจากกันอีกต่อไป แต่จะเป็นโลกที่ทั้ง 2 ส่วนนี้เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ การเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน จะถูกรวมไว้ในระบบดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกทุกด้าน แต่ "เบตาเบบี้" ไม่ได้เกิดมาเพียงเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเท่านั้น พวกเขายังต้องเผชิญกับปัญหาระดับโลกที่ซับซ้อน ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของประชากร และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม เพราะพวกเขาเป็นผลผลิตจากพ่อแม่ที่เกิดในยุคเจน Y และเจน Z ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว จากการสำรวจของ Pew Research Center พบว่าร้อยละ 71 ของมิลเลนเนียลหรือเจเนอเรชัน Y และร้อยละ 67 ของเจเนอเรชัน Z เห็นว่าการจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ต้องทำเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน พ่อแม่ของเจเนอเรชันเบตา จะเป็นกลุ่มที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีของลูก ๆ โดยสำรวจพบว่าร้อยละ 36 ของพ่อแม่เจน Z และร้อยละ 30 ของพ่อแม่เจน Y สนับสนุน "การจำกัดเวลาในการใช้หน้าจอของเด็ก" เพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบ เช่น การเสพติดหน้าจอ การลดทอนความสัมพันธ์ในครอบครัว และปัญหาสุขภาพจิต แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่เจเนอเรชันเบตาจะเติบโตมาแบบมีศักยภาพในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัว พวกเขาจะเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และสร้างแนวทางแก้ปัญหาที่คนในยุคปัจจุบันอาจยังนึกไม่ถึง ในการเลี้ยงดูและสนับสนุนเด็กเจเนอเรชันเบตา ผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องปรับตัวและเปลี่ยนวิธีคิดอย่างมาก โดยเฉพาะในโลกที่เทคโนโลยีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ผู้ใหญ่ควรให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีกับการพัฒนาทักษะชีวิตในโลกจริง เช่น การจำกัดเวลาหน้าจอเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิต และส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือการเรียนรู้นอกระบบดิจิทัล การสอนให้เด็กเข้าใจถึงความปลอดภัยในโลกออนไลน์ การจัดการข้อมูลส่วนตัว และการใช้งานเทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างมั่นคงและมีศักยภาพสูงสุด นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ควรปรับทัศนคติในการเลี้ยงดูเด็กโดยมองว่าเด็กเจเนอเรชันเบตาจะต้องเผชิญกับปัญหาระดับโลกที่ท้าทายมากขึ้น เช่น สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่รุนแรง การปลูกฝังแนวคิดเรื่องความยั่งยืนและการใส่ใจสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการสนับสนุนให้พวกเขาพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และความยืดหยุ่นทางจิตใจ (resilience) เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวและสร้างสรรค์โอกาสใหม่ ๆ ในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง ผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบัน ควรทำหน้าที่เป็น "ผู้สนับสนุนที่ดี" เปิดรับการเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กเจเนอเรชันนี้ในทุกย่างก้าวของการเติบโต เพราะเมื่อเจเนอเรชันเบตาสิ้นสุดลงในปี 2582 เจเนอเรชันถัดไปอาจถูกเรียกว่า "เจเนอเรชันแกมมา" ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มประชากรที่เกิดระหว่างปี 2583-2597 พวกอ่าน เค้า ไพ่ บา คา ร่าเขาจะเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง แต่จะยังคงมรดกทางความคิดและความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมจากพ่อแม่ในเจเนอเรชันก่อนหน้า ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว เกิดระหว่างปี 2568-2579 เป็นกลุ่มประชากรที่เกิดขึ้นต่อจากเจเนอเรชันอัลฟา ชื่อ "เบตา" มาจากอักษรกรีก คาดการณ์ว่าเป็นร้อยละ 16 ของประชากรโลกในปี 2578 จะมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจและสังคม เติบโตในยุคที่ AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การศึกษา การทำงาน ไปจนถึงการดูแลสุขภาพ พ่อแม่เป็นเจเนอเรชัน Y-Z ซึ่งมีแนวโน้มใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี เผชิญความท้าทายจากสภาพภูมิอากาศและความเป็นเมือง ต้องเรียนรู้เรื่องการปรับตัวกับปัญหาระดับโลกที่ซับซ้อน มีแนวโน้มถูกเลี้ยงดูด้วยความระมัดระวังเรื่องหน้าจอ เพราะพ่อแม่สนับสนุนการจำกัดเวลาใช้งานเทคโนโลยี เติบโตมาในโลกดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงอย่างสมบูรณ์ ไม่แยกระหว่าง "ออนไลน์" และ "ออฟไลน์" มีโอกาสใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 22  ทารกที่เกิดปี 2568 จะมีอายุ 76 ปีในปี ค.ศ.2101 อาจเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อโลกที่ยั่งยืน ด้วยพื้นฐานการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ที่มา : People.com, USAtoday อ่านข่าวอื่น : ต้อนรับปีใหม่ 2568 ทิ้งทวนคืนเคานต์ดาวน์เมืองไทยส่งท้ายปีมังกร โลกสว่างไสวรับปีใหม่! ฉลองยิ่งใหญ่ดอกไม้ไฟสวยสะกดทุกสายตา

วันนี้ (26 ก.ค.2566) รศ.นพ.ฉันทชาย สิทธิพันธุ์ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงกรณี ครม. ประกาศวันที่ 31 ก.

จากกรณี เพจเฟซบุ๊กของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า

วันนี้ (18 มิ.ย.2564) การแพร่ระบาดโรค COVID-19 ในพื้นที่ ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ และ ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะ

เจเนอเรชันเบตาไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียกที่ดูเรียบง่ายตามลำดับตัวอักษรกรีกที่ต่อจาก "เจเนอเรชันอัลฟา" เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้แบบไร้ขีดจำกัด ตามการคาดการณ์ของ McCrindle บริษัทวิจัยด้านสังคมศาสตร์ในออสเตรเลีย ให้คำจำกัดความว่า เจเนอเรชันเบตาจะประกอบด้วยเด็กที่เกิดระหว่างปี 2568-2582 และภายในปี 2578 พวกเขาจะมีจำนวนประชากรคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรโลก ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ทารกที่เกิดในปี 2568 จะมีโอกาสมีอายุถึง 76 ปีในปี 2644 หรือปี ค.ศ.2101 นั่นหมายความว่าเด็กกลุ่มนี้จะได้ใช้ชีวิตใน ศตวรรษที่ 22 ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในเจเนอเรชันปัจจุบันอาจไปไม่ถึง ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว หากเจเนอเรชันอัลฟาเติบโตในยุคที่เทคโนโลยีอย่างสมาร์ตโฟนและ AI เพิ่งเริ่มเข้ามามีบทบาท เด็กเจเนอเรชันเบตาจะได้สัมผัสกับโลกที่ AI และระบบอัตโนมัติ (Automation) ผสานเข้ากับชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่โรงเรียนที่มีครู AI ที่สามารถปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กแต่ละคน ไปจนถึงระบบสุขภาพที่สามารถวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษาได้แบบเรียลไทม์ โลกที่พวกเขาเติบโตมาจะไม่ได้แยก "ออนไลน์" และ "ออฟไลน์" ออกจากกันอีกต่อไป แต่จะเป็นโลกที่ทั้ง 2 ส่วนนี้เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ การเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน จะถูกรวมไว้ในระบบดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกทุกด้าน แต่ "เบตาเบบี้" ไม่ได้เกิดมาเพียงเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเท่านั้น พวกเขายังต้องเผชิญกับปัญหาระดับโลกที่ซับซ้อน ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของประชากร และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม เพราะพวกเขาเป็นผลผลิตจากพ่อแม่ที่เกิดในยุคเจน Y และเจน Z ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว จากการสำรวจของ Pew Research Center พบว่าร้อยละ 71 ของมิลเลนเนียลหรือเจเนอเรชัน Y และร้อยละ 67 ของเจเนอเรชัน Z เห็นว่าการจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ต้องทำเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน พ่อแม่ของเจเนอเรชันเบตา จะเป็นกลุ่มที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีของลูก ๆ โดยสำรวจพบว่าร้อยละ 36 ของพ่อแม่เจน Z และร้อยละ 30 ของพ่อแม่เจน Y สนับสนุน "การจำกัดเวลาในการใช้หน้าจอของเด็ก" เพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบ เช่น การเสพติดหน้าจอ การลดทอนความสัมพันธ์ในครอบครัว และปัญหาสุขภาพจิต แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่เจเนอเรชันเบตาจะเติบโตมาแบบมีศักยภาพในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัว พวกเขาจะเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และสร้างแนวทางแก้ปัญหาที่คนในยุคปัจจุบันอาจยังนึกไม่ถึง ในการเลี้ยงดูและสนับสนุนเด็กเจเนอเรชันเบตา ผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องปรับตัวและเปลี่ยนวิธีคิดอย่างมาก โดยเฉพาะในโลกที่เทคโนโลยีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ผู้ใหญ่ควรให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีกับการพัฒนาทักษะชีวิตในโลกจริง เช่น การจำกัดเวลาหน้าจอเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิต และส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือการเรียนรู้นอกระบบดิจิทัล การสอนให้เด็กเข้าใจถึงความปลอดภัยในโลกออนไลน์ การจัดการข้อมูลส่วนตัว และการใช้งานเทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างมั่นคงและมีศักยภาพสูงสุด นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ควรปรับทัศนคติในการเลี้ยงดูเด็กโดยมองว่าเด็กเจเนอเรชันเบตาจะต้องเผชิญกับปัญหาระดับโลกที่ท้าทายมากขึ้น เช่น สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่รุนแรง การปลูกฝังแนวคิดเรื่องความยั่งยืนและการใส่ใจสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งจำเป็น รวมถึงการสนับสนุนให้พวกเขาพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และความยืดหยุ่นทางจิตใจ (resilience) เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวและสร้างสรรค์โอกาสใหม่ ๆ ในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง ผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบัน ควรทำหน้าที่เป็น "ผู้สนับสนุนที่ดี" เปิดรับการเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กเจเนอเรชันนี้ในทุกย่างก้าวของการเติบโต เพราะเมื่อเจเนอเรชันเบตาสิ้นสุดลงในปี 2582 เจเนอเรชันถัดไปอาจถูกเรียกว่า "เจเนอเรชันแกมมา" ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มประชากรที่เกิดระหว่างปี 2583-2597 พวกอ่าน เค้า ไพ่ บา คา ร่าเขาจะเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง แต่จะยังคงมรดกทางความคิดและความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมจากพ่อแม่ในเจเนอเรชันก่อนหน้า ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว เกิดระหว่างปี 2568-2579 เป็นกลุ่มประชากรที่เกิดขึ้นต่อจากเจเนอเรชันอัลฟา ชื่อ "เบตา" มาจากอักษรกรีก คาดการณ์ว่าเป็นร้อยละ 16 ของประชากรโลกในปี 2578 จะมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจและสังคม เติบโตในยุคที่ AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การศึกษา การทำงาน ไปจนถึงการดูแลสุขภาพ พ่อแม่เป็นเจเนอเรชัน Y-Z ซึ่งมีแนวโน้มใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี เผชิญความท้าทายจากสภาพภูมิอากาศและความเป็นเมือง ต้องเรียนรู้เรื่องการปรับตัวกับปัญหาระดับโลกที่ซับซ้อน มีแนวโน้มถูกเลี้ยงดูด้วยความระมัดระวังเรื่องหน้าจอ เพราะพ่อแม่สนับสนุนการจำกัดเวลาใช้งานเทคโนโลยี เติบโตมาในโลกดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงอย่างสมบูรณ์ ไม่แยกระหว่าง "ออนไลน์" และ "ออฟไลน์" มีโอกาสใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 22  ทารกที่เกิดปี 2568 จะมีอายุ 76 ปีในปี ค.ศ.2101 อาจเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อโลกที่ยั่งยืน ด้วยพื้นฐานการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ที่มา : People.com, USAtoday อ่านข่าวอื่น : ต้อนรับปีใหม่ 2568 ทิ้งทวนคืนเคานต์ดาวน์เมืองไทยส่งท้ายปีมังกร โลกสว่างไสวรับปีใหม่! ฉลองยิ่งใหญ่ดอกไม้ไฟสวยสะกดทุกสายตา

วันนี้ (7 ส.ค.66) นายฟารุต ใจทัศน์กุล นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.