ภาพกราฟิกแบบร่างโรงเรียนในอนาคตที่จะสร้างขึ้นทดแทน

วันนี้ (11 มี.ค.64) คณะกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยผลการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเครือข่ายบ่อนการพนันรายใหญ่อันเป็นความผิดมูลฐานซึ่งมี 2 บ่อนได้
ประกอบกับ สภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา และดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้ รถถูกยึดเข้าลานประมูลปีที่แล้ว 350,000 คัน และปีนี้ จะอยู่ที่ 300,000 คัน จากสถานการณ์ปกติ จะอยู่ที่ 200,000-250,000 คัน ต่อปี ไม่เพียงปัญหาสภ
วันนี้ (11 ม.ค.2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง ระบุถึงความคืบหน้านโยบายปรับลดจำนวนนายพลทุกเหล่าทัพ ในตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ของนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ว่า นายสุทินได้กำชับให้แต่ละเหล่าทัพเร่งทำความเข้าใจกับกำลังพลในโครงการนี้อย่างต่อเนื่แอ พ เล่น บอลอง เพื่อลดจำนวนนายพล ที่เกินความจำเป็น ลงกว่าร้อยละ 50 ภายใน 3 ปี หรือเหลือน้อยกว่า 300 คน ในปี 2570 พร้อมทั้งให้นโยบายสร้างแรงจูงใจในการลดจำนวนชั้นยศ “พันเอก (พิเศษ)” ที่จะขึ้นไปเป็น “นายพล” ในอนาคต ให้ลดลงอีกกว่า 570 อัตรา เพื่อให้สอดรับกับตำแหน่งนายพลที่จะลดลงไปด้วย ทั้งหมดเป็นวิสัยทัศน์ของ รมว.กลาโหม ที่ให้นโยบายเหล่าทัพแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แก้ปัญหาการลดนายพลเพียงอย่างเดียว แต่ฐานระดับพันเอก (พิเศษ) ยังมีมาก ก็จะไปสร้างปัญหาใหม่ในอนาคต ตามนโยบายนี้กองทัพยังสามารถปฏิบัติงานได้ และอาชีพทหารยังมีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าได้อีก รวมทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กองทัพ โดยมั่นใจโครงการเออร์รี่รีไทร์นายพลจะนำเข้าสภากลาโหมก่อนเสนอเข้า ครม.ได้ทันในปีงบประมาณนี้ รวมทั้งสิทธิบำเหน็จบำนาญ ก็จะได้รับตามปกติซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ และกำลังใจต่อกำลังพลของกองทัพ เมื่อตัดสินใจในช่วงนี้ ถือว่าได้สิทธิประโยชน์มากที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการที่ผ่าน ๆ และในการบริหารของรัฐบาลจะสามารถลดภาระงบประมาณประเทศในระยะยาวอีกด้วย สำหรับโครงการนี้จะใช้เงินงบประมาณของกระทรวงกลาโหมประมาณ 600 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2568 - 2670) หรือเฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี และแม้ที่ผ่านมากองทัพจะมีแผนปรับลดจำนวนนายพล “ระยะยาว” ปี 2551-2571 แต่นโยบายครั้งนี้ จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย รวดเร็วขึ้นภายใน 3 ปี โดยเน้นกลุ่ม พลตรี-พลโท-พลเอก ในตำแหน่ง ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ - ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทุกเหล่าทัพ ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่าในช่วงรัฐบาล คสช. ปี 2557-2561 เคยทำโครงการเกษียณก่อนกำหนดทุกชั้นยศทุกตำแหน่ง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 26,000ตำแหน่ง จึงเชื่อว่าโครงการลดนายพลครั้งนี้จะได้รับการตอบรับดีอย่างแน่นอน อ่านข่าวอื่นๆ "ชัชชาติ" โพสต์เคลียร์ปมผังเมืองใหม่กทม.-ยันรับฟังทุกฝ่าย หวั่นหลอน !เคี้ยวใบท่อมขณะขับขี่ หมอห่วงคนขับรถสาธารณะ “ศิริกัญญา” ลุ้นร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ทัน-ไม่ทัน ห่วงเหตุผลเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี
วันที่ 14 ก.ค.2566 เวลา 23.30 น. ร.ต.อ.วิเชน หอมสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าพระ รับแจ้งเหตุหญิงตกจา
วันนี้ (20 พ.ค.2564) กระทรวงการคลัง เริ่มโอนเงินเยียวยาโครงการ "เราชนะ" ให้กับผู้รับสิทธิผ่านแอปพลิเ
วันนี้ (7 ธ.ค.2565) พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยผลการจับกุมนายอภิชาต ในความผิดฐานประก
วันนี้ (11 ม.ค.2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง ระบุถึงความคืบหน้านโยบายปรับลดจำนวนนายพลทุกเหล่าทัพ ในตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ของนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ว่า นายสุทินได้กำชับให้แต่ละเหล่าทัพเร่งทำความเข้าใจกับกำลังพลในโครงการนี้อย่างต่อเนื่แอ พ เล่น บอลอง เพื่อลดจำนวนนายพล ที่เกินความจำเป็น ลงกว่าร้อยละ 50 ภายใน 3 ปี หรือเหลือน้อยกว่า 300 คน ในปี 2570 พร้อมทั้งให้นโยบายสร้างแรงจูงใจในการลดจำนวนชั้นยศ “พันเอก (พิเศษ)” ที่จะขึ้นไปเป็น “นายพล” ในอนาคต ให้ลดลงอีกกว่า 570 อัตรา เพื่อให้สอดรับกับตำแหน่งนายพลที่จะลดลงไปด้วย ทั้งหมดเป็นวิสัยทัศน์ของ รมว.กลาโหม ที่ให้นโยบายเหล่าทัพแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แก้ปัญหาการลดนายพลเพียงอย่างเดียว แต่ฐานระดับพันเอก (พิเศษ) ยังมีมาก ก็จะไปสร้างปัญหาใหม่ในอนาคต ตามนโยบายนี้กองทัพยังสามารถปฏิบัติงานได้ และอาชีพทหารยังมีโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าได้อีก รวมทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กองทัพ โดยมั่นใจโครงการเออร์รี่รีไทร์นายพลจะนำเข้าสภากลาโหมก่อนเสนอเข้า ครม.ได้ทันในปีงบประมาณนี้ รวมทั้งสิทธิบำเหน็จบำนาญ ก็จะได้รับตามปกติซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ และกำลังใจต่อกำลังพลของกองทัพ เมื่อตัดสินใจในช่วงนี้ ถือว่าได้สิทธิประโยชน์มากที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการที่ผ่าน ๆ และในการบริหารของรัฐบาลจะสามารถลดภาระงบประมาณประเทศในระยะยาวอีกด้วย สำหรับโครงการนี้จะใช้เงินงบประมาณของกระทรวงกลาโหมประมาณ 600 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2568 - 2670) หรือเฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี และแม้ที่ผ่านมากองทัพจะมีแผนปรับลดจำนวนนายพล “ระยะยาว” ปี 2551-2571 แต่นโยบายครั้งนี้ จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย รวดเร็วขึ้นภายใน 3 ปี โดยเน้นกลุ่ม พลตรี-พลโท-พลเอก ในตำแหน่ง ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ - ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทุกเหล่าทัพ ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่าในช่วงรัฐบาล คสช. ปี 2557-2561 เคยทำโครงการเกษียณก่อนกำหนดทุกชั้นยศทุกตำแหน่ง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 26,000ตำแหน่ง จึงเชื่อว่าโครงการลดนายพลครั้งนี้จะได้รับการตอบรับดีอย่างแน่นอน อ่านข่าวอื่นๆ "ชัชชาติ" โพสต์เคลียร์ปมผังเมืองใหม่กทม.-ยันรับฟังทุกฝ่าย หวั่นหลอน !เคี้ยวใบท่อมขณะขับขี่ หมอห่วงคนขับรถสาธารณะ “ศิริกัญญา” ลุ้นร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ทัน-ไม่ทัน ห่วงเหตุผลเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี
วันนี้ (11 ม.ค.2567) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง ระบุถึงความคืบหน้านโยบายปรั