เศรษฐกิจโตต่ำ กกร.คงเป้า GDP ไทย จี้รัฐบาลรับมือ เร่งเบิกจ่ายงบ

วันนี้ (10 ต.ค.2564) ที่ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมด้วยตัวแทนครอบครัวและอดีตนักศึกษาที

วันนี้ (19 ส.ค.2566) จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ระบุว่า กล่าวถึงการกลับไทยของ ทักษิณ

วันนี้ (19 พ.ย.2564) การหยิบยกประเด็นเรื่องการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.ที่จะมีขึ้นวันที่ 28 พ.ย.นี้ มาพูดคุยในวงสนทนา เป็นสิ่งที่กลุ่มเด็กและเยาวชนใน จ.ลำพูน มักทำกันบ่อยครั้ง ก่อนตัดสิ

วันที่ 10 ธ.ค.2565 ที่สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปาฐกถาเรื่อง “โเครดิต ยิง ปลาลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ประเทศไทยจะเปลี่ยนไหม” ในงาน “วันธรรมศาสตร์ 10 ธันวาคม 2565 งานคืนสู่เหย้า” นายสมคิด ปาฐกถาตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจปีหน้ามีสัญญาณแนวโน้มการเติบโต แต่ไม่ใช่แบบก้าวกระโดด เป็นการเติบโตอย่างช้า ๆ เนื่องจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก จากปัญหาสถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครน วิกฤตราคาพลังงานแพง สินค้าแพง เกิดการแข่งขันการสร้างจีดีพีระหว่างท้องถิ่น ทำให้จีดีพี ประเทศอินโดนีเซียโตอย่างมีเสถียรภาพเฉลี่ย 7 เปอร์เซ็นต์มาหลายปี ส่งผลให้อินโดนีเซียกลายเป็นดาวจรัสแสงในขณะนี้ ซึ่งเกิดจากวิสัยทัศน์ และการเอาจริงเอาจังของผู้นำประเทศ ขณะที่ประเทศไทยก็เริ่มทำพร้อม ๆ กับอินโดนีเซีย แต่หยุดอยู่แค่ในรัฐธรรมนูญไม่ใช่การปฏิบัติ นายสมคิด กล่าวว่า ขณะที่เวียดนามก็เป็นประเทศที่น่าจับตา ก่อนหน้านี้ 3 ปี ตนเคยบอกว่าเวียดนามกำลังหายใจรดต้นคอประเทศไทย แต่มาวันนี้เวียดนามแซงหน้าไปแล้ว มีการเตรียมพร้อมเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล มีการปฏิรูปการศึกษา โดยมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาการศึกษาให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต นอกเหนือจากนี้ สิ่งที่ทำให้ทั้ง 2 ประเทศ เป็นดาวจรัสแสงของอาเซียนก็คือการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจนับร้อยฉบับ และการออกใบอนุญาตให้ง่ายต่อการลงทุนทำธุรกิจและเอื้อต่อการเจริญเติบโตของประเทศอีกด้วย นายสมคิดมองว่า อาเซียนยังเป็นภูมิภาคที่สำคัญ ท่ามกลางการแข่งขันระหว่างจีนกับอเมริกา ซึ่งจะกลายเป็นโอกาสสูงสุดของอาเซียน ในการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ โอกาสสำคัญอยู่ที่ 2 ประเทศ คืออินโดนีเซีย และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าประเทศไทยยังมีโอกาส ซึ่งหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสคือต้องกระจายอำนาจ กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่แค่กระทรวง และส่วนกลาง ต้องสร้างผู้นำใหม่ ๆ ในท้องถิ่น หากไม่จริงจังกับการปฏิรูปนี้ก็ยากที่จะเห็นโอกาส และความเปลี่ยนแปลง อยากให้นายกรัฐมนตรีจริงจัง ใช้เวลาที่มีทำให้ดีที่สุด เพราะประเทศไทยเสียเวลาไปมากแล้ว ให้ลืมเรื่องเลือกตั้งไปก่อน อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมไม่ได้มาว่าใคร ไม่มีประเด็นการเมือง ขอให้กำลังใจทุกพรรคการเมืองให้ทำประชาธิปไตยให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง

วันที่ 10 ธ.ค.2565 ที่สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปาฐกถาเรื่อง “โเครดิต ยิง ปลาลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ประเทศ