Home
|
488365 betM98joker123auto เครดิต ฟรี

วันนี้ (2 พ.ย.2566) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บัง

488365 betM98joker123auto เครดิต ฟรี

สงกรานต์ 2567 แพลนไปเที่ยวไหนดี เตรียมตัวให้พร้อม เช็กสถานที่ท่องเที่ยว และจุดสาดน้ำ ทั้งเหนือ กลาง ใต้ ตะวันออกออก และตะวันตก มีที่ไหนบ้าง 1.งาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า ม

วันนี้ (8 ก.ค.2567) ตัวแทนผู้เสียหาย นำภาพและข้อมูลการลงทุนออมทองคำ มาร้องเรียนผ่านกองบังคับการปราบปราม หลังร่วมลงทุนบ้านออมทองณัชปภา กับนางสาวกระแต (ผู้ถูกกล่าวหา) แต่ไม่ได้รับผลตอบแทน น.ส.เอ ผู้เสีย

7 ส.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น "พระบิดาแห่งกฎหมายไทย" เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นนักนิติศาสตร์ และทรงวางระบบแบบแผน ศาลยุติธรรม รวมถึงทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอันเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งแก่ประเทศชาติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติเมื่อวันพุธที่ 21 ต.ค.2417 มีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระองค์ที่ 2 ในเจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อเจริญวัยขึ้นทรงเป็น 1 ใน 4 พระราชโอรสกลุ่มแรกที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป เมื่อปี 2428 อันได้แก่ 4 พระราชโอรสกลุ่มแรกในรัชกาลที่ 5 ที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป เมื่อปี 2428 4 พระราชโอรสกลุ่มแรกในรัชกาลที่ 5 ที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป เมื่อปี 2428 โดยพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เสด็จไปศึกษาที่กรุงเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ ทรงศึกษาวิชาภาษาละติน วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาภาษาฝรั่งเศสอยู่ 2 ปี ต่อมาปี 2431 เสด็จไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 2434 ทรงเลือกศึกษาวิชากฎหมายต่อที่วิทยาลัยไครส์ตเชิร์ช ในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด จนกระทั่งปี 2437 ทรงสามารถสอบไล่ได้ตามหลักสูตรชั้นปริญญาเกียรตินิยม แล้วจึงเสด็จนิวัติประเทศไทย ด้วยพระอัจฉริยภาพที่มีมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จึงได้รับพระสมญาว่า เฉลียวฉลาดรพี หลังจากเสด็จนิวัติประเทศไทยแล้ว พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเริ่มรับราชการในสำนักราชเลขาธิการ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรี ประกอบพระกรณียกิจ อันเป็นคุณประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อวงการกฎหมายไทยและศาลสถิตยุติธรรม ได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ร.ศ. 115 หรือตรงกับ พ.ศ.2439 ในปี 2439-2453 ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม และมีพระอิสส488365 betM98joker123auto เครดิต ฟรีริยยศ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิรูปการศาล ซึ่งปัญหาสำคัญสำหรับศาลไทยในเวลานั้น คือ เรื่องของศาลกงสุลต่างชาติ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในยุคนั้น โดยเป็นที่รู้กันว่าชาวต่างชาติเหล่านั้นมีอำนาจอิทธิพลมาก เมื่อเกิดคดีความหรือข้อโต้แย้ง ชาวไทยมักตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะชาวต่างชาติมักจะอ้างว่ากฎหมายไทยยังล้าหลัง ไม่ทันสมัย เพื่อเป็นข้ออ้างเอาเปรียบชาวไทย ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาลของไทย ยังไม่พร้อมที่จะรับข้อกฎหมายใหม่ๆ ในเวลานั้น พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยการจ้างชาวต่างชาติมาเป็นผู้พิพากษา เป็นเหตุให้ผู้พิพากษาศาลไทยเกิดความกระตือรือร้นเร่งศึกษากฎหมายไทยและต่างประเทศ ทำให้ศาลไทยมีความเชื่อถือมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ ถึงกับยกเลิกศาลกงสุล ยอมให้คนชาติตัวเองมาขึ้นศาลไทย นอกจากนั้น ยังทรงปฏิรูปการศาลในด้านอื่นอีกมากมาย อาทิ ในปี 2440 พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้น โดยมีเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ (โรลังยัคมินส์) เป็นที่ปรึกษา และพระองค์ทรงเข้าสอนเป็นประจำ ต่อมาได้จัดให้มีการสอบไล่ ผลปรากฏว่ามีผู้สอบผ่านเพียง 9 คนจากจำนวนกว่าร้อยคน และใน 14 ปีแรกก็มีผู้สอบผ่านเพียง 129 คนเท่านั้น แต่ก็ถือเป็นการผลิตนักกฎหมายที่มีคุณภาพให้สังคมเป็นอย่างมาก ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และ พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ในเวลาถัดมา โรงเรียนกฎหมายในสมัยสภานิติศึกษา พ.ศ.2469 ภาพ : เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนกฎหมายในสมัยสภานิติศึกษา พ.ศ.2469 ภาพ : เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขณะที่พระองค์ทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม พระองค์ทรงทุ่มเทให้กับงานราชการอย่างเต็มความสามารถ มิได้ทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย พระยามานวราชเสวี ผู้บังคับการโรงเรียนกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม จึงทูลว่า "ไม่เคยเห็นใครทำงานมากอย่างใต้ฝ่าพระบาท ใต้ฝ่าพระบาทมีพระประสงค์อย่างไร" ทรงตอบว่า กระทั่งในปี 2462 พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประชวรด้วยพระโรคที่ต่อมลูกหมากและมีการแทรกซ้อนต่อไปยังพระวักกะ (ไต) จึงทรงขอลาพักราชการในวันที่ 24 ก.ค.2462 เพื่อรักษาพระองค์ แต่อาการยังไม่ทุเลา ต่อมาจึงเสด็จไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่พระโรคที่พระวักกะก็ยังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเกินที่แพทย์จะเยียวยาได้ จนกระทั่งถึงวันที่ 7 ส.ค.2463 เวลาประมาณ 21.00 น. จึงสิ้นพระชนม์ สิริพระชันษา 45 ปี 9 เดือน 17 วัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดให้เอกอัครราชทูตสยามประจำประเทศฝรั่งเศสจัดการถวายพระเพลิง ณ กรุงปารีส ตามที่ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ รับสั่งไว้ จากนั้นหม่อมเจ้าไขแสงรพี รพีพัฒน์ เสด็จไปรับและอัญเชิญพระอัฐิของ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มาถึงประเทศไทยในวันที่ 1 ธ.ค.2463 ในคราวนั้นเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) หวนระลึกถึงรับสั่งของกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ได้ตรัสไว้ก่อนที่เสด็จไปรักษาพระองค์ที่ประเทศฝรั่งเศสว่า ภายหลังสิ้นพระชนม์ ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (10 ก.ค.2478) นักกฎหมายได้ถือเอาวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ คือวันที่ 7 ส.ค.ของทุกปี เป็น "วันรพี" เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ที่มีต่อวงการกฎหมายไทย โดยจะมีการจัดกิจกรรมวันรพีที่อนุสาวรีย์พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าสำนักงานศาลยุติธรรม โดยมีการจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2507 ซึ่งมีการจัดสร้างโดยคณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภาเสร็จสิ้นในปี 2506 อนุสาวรีย์พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าสำนักงานศาลยุติธรรม อนุสาวรีย์พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าสำนักงานศาลยุติธรรม อ่านข่าวอื่น : ปลูกถ่ายข้อเข่าใหม่ด้วย "เนื้อเยื่อเอ็นจิงโจ้" คาดพร้อมทดลองจริงในปี 2024 ยานโอไซริส-เร็กซ์ ปรับวงโคจร เตรียมยิงตัวอย่างดาวเคราะห์น้อยกลับโลก

7 ส.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุ

วันนี้ (14 เม.ย.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) แ

เป็นข่าวใหญ่สะเทือนไปทั้งโลก ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศ

7 ส.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น "พระบิดาแห่งกฎหมายไทย" เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นนักนิติศาสตร์ และทรงวางระบบแบบแผน ศาลยุติธรรม รวมถึงทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอันเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งแก่ประเทศชาติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประสูติเมื่อวันพุธที่ 21 ต.ค.2417 มีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระองค์ที่ 2 ในเจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อเจริญวัยขึ้นทรงเป็น 1 ใน 4 พระราชโอรสกลุ่มแรกที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป เมื่อปี 2428 อันได้แก่ 4 พระราชโอรสกลุ่มแรกในรัชกาลที่ 5 ที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป เมื่อปี 2428 4 พระราชโอรสกลุ่มแรกในรัชกาลที่ 5 ที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป เมื่อปี 2428 โดยพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เสด็จไปศึกษาที่กรุงเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ ทรงศึกษาวิชาภาษาละติน วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาภาษาฝรั่งเศสอยู่ 2 ปี ต่อมาปี 2431 เสด็จไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 2434 ทรงเลือกศึกษาวิชากฎหมายต่อที่วิทยาลัยไครส์ตเชิร์ช ในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด จนกระทั่งปี 2437 ทรงสามารถสอบไล่ได้ตามหลักสูตรชั้นปริญญาเกียรตินิยม แล้วจึงเสด็จนิวัติประเทศไทย ด้วยพระอัจฉริยภาพที่มีมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จึงได้รับพระสมญาว่า เฉลียวฉลาดรพี หลังจากเสด็จนิวัติประเทศไทยแล้ว พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเริ่มรับราชการในสำนักราชเลขาธิการ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรี ประกอบพระกรณียกิจ อันเป็นคุณประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อวงการกฎหมายไทยและศาลสถิตยุติธรรม ได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ร.ศ. 115 หรือตรงกับ พ.ศ.2439 ในปี 2439-2453 ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม และมีพระอิสส488365 betM98joker123auto เครดิต ฟรีริยยศ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิรูปการศาล ซึ่งปัญหาสำคัญสำหรับศาลไทยในเวลานั้น คือ เรื่องของศาลกงสุลต่างชาติ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในยุคนั้น โดยเป็นที่รู้กันว่าชาวต่างชาติเหล่านั้นมีอำนาจอิทธิพลมาก เมื่อเกิดคดีความหรือข้อโต้แย้ง ชาวไทยมักตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะชาวต่างชาติมักจะอ้างว่ากฎหมายไทยยังล้าหลัง ไม่ทันสมัย เพื่อเป็นข้ออ้างเอาเปรียบชาวไทย ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาลของไทย ยังไม่พร้อมที่จะรับข้อกฎหมายใหม่ๆ ในเวลานั้น พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยการจ้างชาวต่างชาติมาเป็นผู้พิพากษา เป็นเหตุให้ผู้พิพากษาศาลไทยเกิดความกระตือรือร้นเร่งศึกษากฎหมายไทยและต่างประเทศ ทำให้ศาลไทยมีความเชื่อถือมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ ถึงกับยกเลิกศาลกงสุล ยอมให้คนชาติตัวเองมาขึ้นศาลไทย นอกจากนั้น ยังทรงปฏิรูปการศาลในด้านอื่นอีกมากมาย อาทิ ในปี 2440 พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้น โดยมีเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ (โรลังยัคมินส์) เป็นที่ปรึกษา และพระองค์ทรงเข้าสอนเป็นประจำ ต่อมาได้จัดให้มีการสอบไล่ ผลปรากฏว่ามีผู้สอบผ่านเพียง 9 คนจากจำนวนกว่าร้อยคน และใน 14 ปีแรกก็มีผู้สอบผ่านเพียง 129 คนเท่านั้น แต่ก็ถือเป็นการผลิตนักกฎหมายที่มีคุณภาพให้สังคมเป็นอย่างมาก ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และ พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ในเวลาถัดมา โรงเรียนกฎหมายในสมัยสภานิติศึกษา พ.ศ.2469 ภาพ : เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนกฎหมายในสมัยสภานิติศึกษา พ.ศ.2469 ภาพ : เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขณะที่พระองค์ทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม พระองค์ทรงทุ่มเทให้กับงานราชการอย่างเต็มความสามารถ มิได้ทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย พระยามานวราชเสวี ผู้บังคับการโรงเรียนกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม จึงทูลว่า "ไม่เคยเห็นใครทำงานมากอย่างใต้ฝ่าพระบาท ใต้ฝ่าพระบาทมีพระประสงค์อย่างไร" ทรงตอบว่า กระทั่งในปี 2462 พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ประชวรด้วยพระโรคที่ต่อมลูกหมากและมีการแทรกซ้อนต่อไปยังพระวักกะ (ไต) จึงทรงขอลาพักราชการในวันที่ 24 ก.ค.2462 เพื่อรักษาพระองค์ แต่อาการยังไม่ทุเลา ต่อมาจึงเสด็จไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่พระโรคที่พระวักกะก็ยังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเกินที่แพทย์จะเยียวยาได้ จนกระทั่งถึงวันที่ 7 ส.ค.2463 เวลาประมาณ 21.00 น. จึงสิ้นพระชนม์ สิริพระชันษา 45 ปี 9 เดือน 17 วัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดให้เอกอัครราชทูตสยามประจำประเทศฝรั่งเศสจัดการถวายพระเพลิง ณ กรุงปารีส ตามที่ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ รับสั่งไว้ จากนั้นหม่อมเจ้าไขแสงรพี รพีพัฒน์ เสด็จไปรับและอัญเชิญพระอัฐิของ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มาถึงประเทศไทยในวันที่ 1 ธ.ค.2463 ในคราวนั้นเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) หวนระลึกถึงรับสั่งของกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ได้ตรัสไว้ก่อนที่เสด็จไปรักษาพระองค์ที่ประเทศฝรั่งเศสว่า ภายหลังสิ้นพระชนม์ ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (10 ก.ค.2478) นักกฎหมายได้ถือเอาวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ คือวันที่ 7 ส.ค.ของทุกปี เป็น "วันรพี" เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ที่มีต่อวงการกฎหมายไทย โดยจะมีการจัดกิจกรรมวันรพีที่อนุสาวรีย์พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าสำนักงานศาลยุติธรรม โดยมีการจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2507 ซึ่งมีการจัดสร้างโดยคณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภาเสร็จสิ้นในปี 2506 อนุสาวรีย์พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าสำนักงานศาลยุติธรรม อนุสาวรีย์พระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หน้าสำนักงานศาลยุติธรรม อ่านข่าวอื่น : ปลูกถ่ายข้อเข่าใหม่ด้วย "เนื้อเยื่อเอ็นจิงโจ้" คาดพร้อมทดลองจริงในปี 2024 ยานโอไซริส-เร็กซ์ ปรับวงโคจร เตรียมยิงตัวอย่างดาวเคราะห์น้อยกลับโลก

วันนี้ (5 มิ.ย.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประชาชนกว่า 500 คน ในกรุงไทเปร่วมกันจุดเทียนและวา