วันนี้ (29 ต.ค.2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรั

วันนี้ (9 มี.ค.2564) ผู้วิเคราะห์ บอล วัน นี้ ฝสื่อข่าวรายงานว่า เพจไทยคู่ฟ้า รายงานว่า กรณีมีผู้แสดงความไม่เห็นด้วย หลังกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ออกหนังสือแจ้งภาคเอกชน หักเงินเดือนพนักงานที่กู้ยืมเ
พลันที่ "ภูมิธรรม เวชยชัย" รมว.กลาโหม ก็เป็นที่จับตามองทันที หลังจากย้ายจาก กระทรวงปากท้อง อย่าง ก.พาณิชย์ ไปนั่งดูแลกระทรวงกลาโหม ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์พิเศษ "ภูมิธรรม" หรือ "พี่อ้วน" ตามคำเรียกของบรรดา
วันนี้ (9 มี.ค.2564) ผู้วิเคราะห์ บอล วัน นี้ ฝสื่อข่าวรายงานว่า เพจไทยคู่ฟ้า รายงานว่า กรณีมีผู้แสดงความไม่เห็นด้วย หลังกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ออกหนังสือแจ้งภาคเอกชน หักเงินเดือนพนักงานที่กู้ยืมเงิน และนำส่งเงินชำระคืนกองทุนฯ หากไม่ดำเนินการจะต้องชดใช้เงินเพิ่มในอัตรา 2% ต่อเดือน ถือว่าผลักภาระความรับผิดชอบหนี้ให้ภาคเอกชนเรื่องนี้ กยศ. ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงให้นายจ้างได้ทราบถึงเหตุผล และความจำเป็นในการหักเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้เพื่อชำระเงินคืน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.61 เริ่มจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเอกชน มีหน่วยงานที่ต้องแจ้งหักเงินเดือนทั้งหมดราว 107,000 แห่ง และมีผู้กู้ยืมที่อยู่ในเกณฑ์หักเงินเดือน 1,735,000 ราย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นายจ้างทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สำหรับขั้นตอนการหักเงินเดือนลูกหนี้ กยศ.ผ่านองค์กรนายจ้างนั้น จะส่งหนังสือแจ้งหักเงินเดือนไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้กู้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน จากนั้นจะส่งหนังสือแจ้งให้นายจ้างทราบถึงข้อมูลของผู้กู้และจำนวนเงินที่ต้องหักนำส่งล่วงหน้าประมาณ 30 วัน นายจ้างสามารถตรวจสอบข้อมูลที่ต้องหักและนำส่ง ผ่านระบบรับชำระเงินกู้ยืมคืน กยศ.ผ่านกรมสรรพากร (e-PaySLF) โดยเข้าใช้งานได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ซึ่งกองทุนจะอัปเดตข้อมูลที่ต้องหักและนำส่งแจ้งให้นายจ้างทราบผ่านระบบดังกล่าวในทุกวันที่ 5 ของเดือนเมื่อพนักงานได้รับเงินเดือน ลำดับการหักเงินจะเริ่มจาก 1.หักภาษี ณ ที่จ่าย 2.หักจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนประกันสังคม และ 3.หักเงินกองทุน กยศ.ส่วนข้อกังวลว่า หากนายจ้างไม่หักเงินตามที่ได้รับแจ้ง จะต้องชดใช้เงินตามจำนวนที่กองทุนแจ้งให้ทราบ และต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตรา 2% ต่อเดือน ของเงินที่ไม่ได้นำส่ง กรณีนี้หากหน่วยงานแจ้งเหตุผลข้อขัดข้องที่ไม่สามารถดำเนินการหักเงินเดือนผู้กู้ยืมได้ สามารถขออนุโลมและผ่อนผันได้ โดยปัจจุบันยังไม่เคยเรียกชดใช้เงินหรือเรียกเงินเพิ่มจากนายจ้างแต่อย่างใด การคำนวณยอดหักเงินเดือน จะใช้ยอดหนี้ตามตารางชำระรายปี หารด้วย 12 เดือน หรือจำนวนเดือนที่เหลือก่อนถึงวันครบกำหนดชำระหนี้ (5 ก.ค. ของทุกปี) และในงวดปีถัดไปจะเริ่มหักเงินเดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของทุกปีจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น ปัจจุบัน กยศ. ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินมาตั้งแต่ปี 2561 โดยใช้เงินชำระหนี้ของผู้กู้ยืมของรุ่นพี่หมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้อง สำหรับปีการศึกษา 2564 นี้กองทุนได้เตรียมเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา จำนวน 38,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมจำนวน 624,000 รายไว้เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (11 มี.ค.2565) ที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ เวลา 12.00 น. น.ส.สุรัตนาวี สุวิพร หรือ โบ TK ให้สั
วันนี้ (11 ก.พ.2568) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( ผบช.
วันนี้ (27 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือ วาวา พริต
วันนี้ (9 มี.ค.2564) ผู้วิเคราะห์ บอล วัน นี้ ฝสื่อข่าวรายงานว่า เพจไทยคู่ฟ้า รายงานว่า กรณีมีผู้แสดงความไม่เห็นด้วย หลังกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ออกหนังสือแจ้งภาคเอกชน หักเงินเดือนพนักงานที่กู้ยืมเงิน และนำส่งเงินชำระคืนกองทุนฯ หากไม่ดำเนินการจะต้องชดใช้เงินเพิ่มในอัตรา 2% ต่อเดือน ถือว่าผลักภาระความรับผิดชอบหนี้ให้ภาคเอกชนเรื่องนี้ กยศ. ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงให้นายจ้างได้ทราบถึงเหตุผล และความจำเป็นในการหักเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้เพื่อชำระเงินคืน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.61 เริ่มจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเอกชน มีหน่วยงานที่ต้องแจ้งหักเงินเดือนทั้งหมดราว 107,000 แห่ง และมีผู้กู้ยืมที่อยู่ในเกณฑ์หักเงินเดือน 1,735,000 ราย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นายจ้างทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สำหรับขั้นตอนการหักเงินเดือนลูกหนี้ กยศ.ผ่านองค์กรนายจ้างนั้น จะส่งหนังสือแจ้งหักเงินเดือนไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้กู้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน จากนั้นจะส่งหนังสือแจ้งให้นายจ้างทราบถึงข้อมูลของผู้กู้และจำนวนเงินที่ต้องหักนำส่งล่วงหน้าประมาณ 30 วัน นายจ้างสามารถตรวจสอบข้อมูลที่ต้องหักและนำส่ง ผ่านระบบรับชำระเงินกู้ยืมคืน กยศ.ผ่านกรมสรรพากร (e-PaySLF) โดยเข้าใช้งานได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ซึ่งกองทุนจะอัปเดตข้อมูลที่ต้องหักและนำส่งแจ้งให้นายจ้างทราบผ่านระบบดังกล่าวในทุกวันที่ 5 ของเดือนเมื่อพนักงานได้รับเงินเดือน ลำดับการหักเงินจะเริ่มจาก 1.หักภาษี ณ ที่จ่าย 2.หักจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนประกันสังคม และ 3.หักเงินกองทุน กยศ.ส่วนข้อกังวลว่า หากนายจ้างไม่หักเงินตามที่ได้รับแจ้ง จะต้องชดใช้เงินตามจำนวนที่กองทุนแจ้งให้ทราบ และต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตรา 2% ต่อเดือน ของเงินที่ไม่ได้นำส่ง กรณีนี้หากหน่วยงานแจ้งเหตุผลข้อขัดข้องที่ไม่สามารถดำเนินการหักเงินเดือนผู้กู้ยืมได้ สามารถขออนุโลมและผ่อนผันได้ โดยปัจจุบันยังไม่เคยเรียกชดใช้เงินหรือเรียกเงินเพิ่มจากนายจ้างแต่อย่างใด การคำนวณยอดหักเงินเดือน จะใช้ยอดหนี้ตามตารางชำระรายปี หารด้วย 12 เดือน หรือจำนวนเดือนที่เหลือก่อนถึงวันครบกำหนดชำระหนี้ (5 ก.ค. ของทุกปี) และในงวดปีถัดไปจะเริ่มหักเงินเดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของทุกปีจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น ปัจจุบัน กยศ. ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินมาตั้งแต่ปี 2561 โดยใช้เงินชำระหนี้ของผู้กู้ยืมของรุ่นพี่หมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้อง สำหรับปีการศึกษา 2564 นี้กองทุนได้เตรียมเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา จำนวน 38,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมจำนวน 624,000 รายไว้เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (14 ก.ค.2565) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยแพร่คลิปความยาว 25 วินาที ระบุว่าเป็นค