ฝ่ายค้านซีเรีย ประชุมผลักดันสร้างประชาธิปไตยในซีเร

ปี 2558 ประเทศไทยได้รับการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมาธิการยุโรป ฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป ถึงแนวโน้มที่อาจถูกระบุว่าเป็น “ประเทศที่สามที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรา
วันนี้ (5 ธ.ค.2564) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ หลังมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ "โอมิครอน" ว่า ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข
ปี 2558 ประเทศไทยได้รับการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมาธิการยุโรป ฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป ถึงแนวโน้มที่อาจถูกระบุว่าเป็น “ประเทศที่สามที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม” หรือ IUU Fishing หากประเทศไทยไม่เร่งแก้ไขจะส่งผลต่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังสหภาพยุโรปและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก คาดการณ์ว่า อาจทำให้ไทย สูญเสียรายได้ปีละกว่า 17,000 ล้านบาท ช่วงเวลานั้น รัฐบาลภายใต้การนำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เร่งแก้ปัญหาด้วยการออกกฎหมาย และ คำสั่งตามมาตรา 44 หลายฉบับ รวมถึงยกเลิกทะเบียนเรือประมงพาณิชย์ 8,024 ลำ ในจำนวนนี้มีทั้งเรือที่ตรวจสอบไม่พบ เรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำประมงหรือใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย รวมถึง เรือที่ต้องการเลิกทำการประมง มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาขณะนั้นช่วยให้ประเทศไทยได้รับการปลด “ใบเหลือง” จากสหภาพยุโรปในปี 2562 แต่ก็สร้างรอยแผลให้กับธุรกิจประมงไทยในหลายภาคส่วน หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ คือ ลูกเรือประมงไทยที่ทำงานบนเรือประมงผิดกฎหมาย หรือ เรือผี ภาพ : อดีตแรงงานประมง จ.กาฬสินธุ์ ได้พบครอบครัวเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี อดีตแรงงานประมงอายุ 39 ปี จาก จ.กาฬสินธุ์ เปิดใจกับ The EXIT หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ LPN ได้กลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2565 พร้อมกับแรงงานประมงไทยอีก 3 คน ทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือ หลังถูกนายจ้างลอยแพอยู่ที่เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย นานกว่า 4 ปี ปี วิเคราะห์ บา ส สกอร์ สูง ต่ำ2558 ชายจาก จ.กาฬสินธุ์ ต้องจากภรรยาและลูกชายซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 2 ขวบมาลงเรือประมงเข้าสู่น่านน้ำมาเลเซีย ไม่มีใครคาดคิดว่า การเดินทางครั้งนั้นจะทำให้เขาต้องจากครอบครัวนานถึง 7 ปี เขา เล่าขั้นตอนก่อนลงเรือว่า เถ้าแก่ให้เซ็นเอกสารบางอย่างซึ่งเขาไม่ได้อ่านรายละเอียด มีการเบิกเงินล่วงหน้าก่อนออกเรือ รวมถึงทำหนังสือเดินทางก่อนขึ้นเรือ โดยไต้ก๋งเป็นผู้เก็บไว้ เรือประมงนำเขาออกจากไทยมายังตันหยงมานิส ( Tanjung Manis ) ประเทศมาเลเซีย เขาบอกว่า ช่วง 2 ปีแรก ( 2559 – 2560 ) การทำประมงเป็นไปตามปกติ แต่เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ( ปี 2561 ) รัฐบาลไทยเริ่มเข้มงวดกวดขันเรื่องเรือ ทำให้เรือประมงเริ่มทยอยจอดจนหมด เรือประมงลำที่เขาทำงานอยู่ถูกจอดเทียบท่าไว้ที่ตันหยงมานิส และ ไม่ได้รับการติดต่อจากเถ้าแก่ที่ประเทศไทยอีกเลย สิ่งที่เกิดขึ้นกับแรงงานประมงคนนี้ ก็คือ เมื่อรัฐบาลเข้มงวดเรื่องการทำประมง เรือที่เขาทำงานอยู่จึงกลับประเทศไทยไม่ได้ เพราะเป็นเรือไม่มีทะเบียน และอาจถูดดำเนินคดีจากการใช้แรงงานผิดกฎหมาย เจ้าของเรือจึงตัดสินใจจอดเรือทิ้งไว้ที่ท่าเรือตันหยงมานิสในประเทศมาเลเซีย ไต้ก๋งหนีออกจากประเทศมาเลเซียกลับประเทศไทย โดยไม่พาลูกเรือกลับมาด้วยทิ้งไว้ให้เพียงหนังสือเดินทาง ทั้งหมดกินนอนอยู่บนเรือประมงที่ถูกทิ้ง ขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มีรวมทั้งโทรศัพท์ การติดต่อนายจ้างรวมถึงครอบครัว เป็นไปด้วยความยากลำบาก พวกเขาผันตัวไปเป็นแรงงานรับจ้างทั่วไปเพื่อหาเลี้ยงชีพ หลายคนรวมถึงชายชาวกาฬสินธุ์ย้ายจากตันหยงมานิสไปเมืองกูชิง 3 ปี หลังออกจากประเทศไทยโดยหวังว่าจะมีรายได้จากการทำประมงในต่างประเทศ ชีวิตของเขาพลิกผันกลายเป็นคนเร่ร่อนไร้งานทำเพราะหนังสือเดินทางหมดอายุ ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บเศษขยะขาย ใช้ห้องแถวร้างในเมืองกูชิงเป็นที่พักอาศัย ที่นั่นเอง เขาได้พบกับอดีตแรงงานประมงไทยอีก 3 คนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน หนึ่งในนั้นบอกว่า ตัวเองถูกนายจ้างกักขังก่อนส่งลงเรือประมงจนกระทั่งมาถูกลอยแพที่ประเทศมาเลเซีย และอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
วันนี้ (19 ต.ค.2564) ตำรวจ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ควบคุมตัวนายอมรเทพ สว่างดาว อายุ 24 ปี มาสอบสวน หลัง
วันนี้ (13 ธ.ค.2565) นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตามกำหนดการที่จะเปิดตั
การมอบดอกกุหลาบ แม้จะทำในวันวาเลนไทน์ เมื่อ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ไม่ได้มอบให้คู่รัก แต่มอบเพื
ปี 2558 ประเทศไทยได้รับการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมาธิการยุโรป ฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป ถึงแนวโน้มที่อาจถูกระบุว่าเป็น “ประเทศที่สามที่ไม่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม” หรือ IUU Fishing หากประเทศไทยไม่เร่งแก้ไขจะส่งผลต่อการส่งออกสัตว์น้ำไปยังสหภาพยุโรปและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก คาดการณ์ว่า อาจทำให้ไทย สูญเสียรายได้ปีละกว่า 17,000 ล้านบาท ช่วงเวลานั้น รัฐบาลภายใต้การนำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เร่งแก้ปัญหาด้วยการออกกฎหมาย และ คำสั่งตามมาตรา 44 หลายฉบับ รวมถึงยกเลิกทะเบียนเรือประมงพาณิชย์ 8,024 ลำ ในจำนวนนี้มีทั้งเรือที่ตรวจสอบไม่พบ เรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำประมงหรือใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย รวมถึง เรือที่ต้องการเลิกทำการประมง มาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาขณะนั้นช่วยให้ประเทศไทยได้รับการปลด “ใบเหลือง” จากสหภาพยุโรปในปี 2562 แต่ก็สร้างรอยแผลให้กับธุรกิจประมงไทยในหลายภาคส่วน หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ คือ ลูกเรือประมงไทยที่ทำงานบนเรือประมงผิดกฎหมาย หรือ เรือผี ภาพ : อดีตแรงงานประมง จ.กาฬสินธุ์ ได้พบครอบครัวเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี อดีตแรงงานประมงอายุ 39 ปี จาก จ.กาฬสินธุ์ เปิดใจกับ The EXIT หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ LPN ได้กลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2565 พร้อมกับแรงงานประมงไทยอีก 3 คน ทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือ หลังถูกนายจ้างลอยแพอยู่ที่เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย นานกว่า 4 ปี ปี วิเคราะห์ บา ส สกอร์ สูง ต่ำ2558 ชายจาก จ.กาฬสินธุ์ ต้องจากภรรยาและลูกชายซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 2 ขวบมาลงเรือประมงเข้าสู่น่านน้ำมาเลเซีย ไม่มีใครคาดคิดว่า การเดินทางครั้งนั้นจะทำให้เขาต้องจากครอบครัวนานถึง 7 ปี เขา เล่าขั้นตอนก่อนลงเรือว่า เถ้าแก่ให้เซ็นเอกสารบางอย่างซึ่งเขาไม่ได้อ่านรายละเอียด มีการเบิกเงินล่วงหน้าก่อนออกเรือ รวมถึงทำหนังสือเดินทางก่อนขึ้นเรือ โดยไต้ก๋งเป็นผู้เก็บไว้ เรือประมงนำเขาออกจากไทยมายังตันหยงมานิส ( Tanjung Manis ) ประเทศมาเลเซีย เขาบอกว่า ช่วง 2 ปีแรก ( 2559 – 2560 ) การทำประมงเป็นไปตามปกติ แต่เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ( ปี 2561 ) รัฐบาลไทยเริ่มเข้มงวดกวดขันเรื่องเรือ ทำให้เรือประมงเริ่มทยอยจอดจนหมด เรือประมงลำที่เขาทำงานอยู่ถูกจอดเทียบท่าไว้ที่ตันหยงมานิส และ ไม่ได้รับการติดต่อจากเถ้าแก่ที่ประเทศไทยอีกเลย สิ่งที่เกิดขึ้นกับแรงงานประมงคนนี้ ก็คือ เมื่อรัฐบาลเข้มงวดเรื่องการทำประมง เรือที่เขาทำงานอยู่จึงกลับประเทศไทยไม่ได้ เพราะเป็นเรือไม่มีทะเบียน และอาจถูดดำเนินคดีจากการใช้แรงงานผิดกฎหมาย เจ้าของเรือจึงตัดสินใจจอดเรือทิ้งไว้ที่ท่าเรือตันหยงมานิสในประเทศมาเลเซีย ไต้ก๋งหนีออกจากประเทศมาเลเซียกลับประเทศไทย โดยไม่พาลูกเรือกลับมาด้วยทิ้งไว้ให้เพียงหนังสือเดินทาง ทั้งหมดกินนอนอยู่บนเรือประมงที่ถูกทิ้ง ขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มีรวมทั้งโทรศัพท์ การติดต่อนายจ้างรวมถึงครอบครัว เป็นไปด้วยความยากลำบาก พวกเขาผันตัวไปเป็นแรงงานรับจ้างทั่วไปเพื่อหาเลี้ยงชีพ หลายคนรวมถึงชายชาวกาฬสินธุ์ย้ายจากตันหยงมานิสไปเมืองกูชิง 3 ปี หลังออกจากประเทศไทยโดยหวังว่าจะมีรายได้จากการทำประมงในต่างประเทศ ชีวิตของเขาพลิกผันกลายเป็นคนเร่ร่อนไร้งานทำเพราะหนังสือเดินทางหมดอายุ ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บเศษขยะขาย ใช้ห้องแถวร้างในเมืองกูชิงเป็นที่พักอาศัย ที่นั่นเอง เขาได้พบกับอดีตแรงงานประมงไทยอีก 3 คนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน หนึ่งในนั้นบอกว่า ตัวเองถูกนายจ้างกักขังก่อนส่งลงเรือประมงจนกระทั่งมาถูกลอยแพที่ประเทศมาเลเซีย และอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
วันที่ 23 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือเด็กชายวัย 5 ปี ออกจากบ้านที่พังเส