"รัสเซีย" ขัดแย้งกับ "ยูเครน" เพราะอะไร

ดูเหมือนว่า เศรษฐกิจโลกจะค่อนข้างผันผวนทีเดียว นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะมาตรการด้านภาษีและท่าทีที่ไม่แน่นอน คาดเดาได้ยากของทรัมป์ ทำให้ตลาดไม่รู้ว่าจะปรับตั

“ไทเกอร์ วู้ดส์” เตรียมกลับมาลงแข่ง พีจีเอ ทัวร์ “ไทเกอร์ วู้ดส์” เตรียมกลับมาลงแข่งขันกอล์ฟ พีจีเอ

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2564 นายปิยพงษ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และนายพีระพงษ์ ชีพเหล็ก สาธารณสุขอำเภอกะทู้ ร่วมกันชี้แจงข้อเ

จับตาหนังจีนแย่งพื้นที่ทำเงินจากฮอลลีวูด หลังจากจีนพยายามกระตุ้นการผลิตหนังภายในประเทศอย่างหนัก ทั้งจำกัดโควตาห้ามหนังจากตะวันตกเข้าไปฉายและอุดหนุนทุนสร้าง ปีนี้ก็แสดงให้เห็นดอกผลของการลงแรงอย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหนังทำเงิน 10 อันดับแรกของโลก เป็นของภาพยนตร์ที่ผลิตจากจีนไปกว่าครึ่งนึง จับตาหนังจีนแย่งพื้นที่ทำเงินจากฮอลลีวูด ในโลกที่มีทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์อาศัยอยู่ร่วมกัน ชายคนหนึ่งได้ให้กำเนิดสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายหัวไชเท้าท่ามกลางความงุนงง โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายตัวน้อยคือผู้กุมอนาคตแห่งโลกมอนสเตอร์เอาไว้ เรื่องราวแฟนตาซีใน Monster Hunt ภาพยนตร์สามมิติคนแสดงร่วมกับตัวละคร CGI จากประเทศจีน สร้างความประหลาดใจให้กับวงการภาพยนตร์ทั่วโลกด้วยการเปิดตัวแบบทุบสถิติของหนัง IMAX สถิติรายได้วันแรกสูงสุด และรายได้วันเดียวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีน กลายเป็นหนังที่ไปถึงหลักพันล้านหยวนได้เร็วที่สุดเพียง 8 วัน และพุ่งเข้าสู่อันดับหนึ่งในชาร์ตหนังทำเงินของโลกอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัว ยังมีหนังจากแดนมังกรอีกหลายเรื่องที่สองสัปดาวิเคราะห์บอลไทย u23w88 เครดิตฟรี 50 ไม่ต้องฝาก 2021ห์ที่ผ่านมาติดเข้าไปใน 10 อันดับหนังทำเงินของโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Pancake Man หนังเบาสมองล้อเลียนซูเปอร์ฮีโร่ที่ตามมาเป็นอันดับสอง ตามมาด้วย Monkey King: Hero Is Back ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มีหงอคงเป็นตัวเอกในอันดับสาม และกำลังจ่อทำลายสถิติเดิมของ Kung Fu Panda 2 สำหรับหนังอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดในจีน ยังไม่นับอีกหลายเรื่องเช่นหนังแนวดราม่าอย่าง Forever Young หรือภาคต่อโรแมนติกคอเมดี้ Tiny Times 4.0 ที่แม้จะไม่ได้เปิดตัวหวือหวา แต่ก็ยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำบ่งบอกถึงระดับคุณภาพหนังภายในวงการภาพยนตร์จีนที่กำลังพัฒนาศักยภาพตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อลงแข่งขันตลาดกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ทุกปีในช่วงเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นฤดูร้อนของประเทศจีน เป็นที่รู้กันภายในว่าทางการจะห้ามฉายภาพยนตร์สหรัฐฯ เพื่อเปิดทางให้หนังในประเทศเข้าทำเงินอย่างเต็มที่ แต่ที่ผ่านมามาตรการนี้กลับไม่ค่อยได้ผลเนื่องจากหนังที่เข้าฉายไม่ดึงดูดใจเท่าฮอลลีวูด ในปีนี้จึงเป็นปีแรกที่ภาพยนตร์จีนทำเงินได้อย่างคึกคักจนติดอันดับโลกหลายเรื่อง ด้าน Rob Cain นักวิเคราะห์ตลาดภาพยนตร์จีนและอินเดียจาก Forbes มองว่าเป็นเพราะความหลากหลายของเนื้อหาที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งหนังครอบครัว แอ็คชั่นเบาสมอง ตลอดจนโรแมนติกดราม่า ทำให้คนสนใจไปดูหนังที่ตัวเนื้อหา ต่างจากโปรแกรมในช่วงตรุษจีนที่ชาวจีนหลายร้อยล้านคนมักจะยกกันไปดูทั้งครอบครัว โดยทางการจีนประเมินตัวเลขว่าปรากฏการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังในประเทศทำรายได้ไปถึง 54% ของรายได้ตั๋วตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นแม้ว่าหลังจากนี้ฮอลลีวูดจะทำเงินได้ดีมากแค่ไหนก็จะได้ส่วนแบ่งตลอดทั้งปีไม่เกิน 45% เท่านั้น ขณะที่หนังจีนทำเงินได้ดีมากในบ้านเกิด แต่ดูเหมือนสำหรับต่างประเทศแล้วจะไปได้ไม่ค่อยสวยนัก สาเหตุก็น่าจะมาจากหนังส่วนใหญ่เป็นหนังเบาสมอง ซึ่งความตลกนั้นดูเหมือนจะไม่ถูกรสนิยมของต่างชาติมากนัก แถมคนภายนอกก็ยังมีภาพจำของหนังจีนในแนวกังฟูมากกว่าด้วย ในโลกที่มีทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์อาศัยอยู่ร่วมกัน ชายคนหนึ่งได้ให้กำเนิดสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายหัวไชเท้าท่ามกลางความงุนงง โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายตัวน้อยคือผู้กุมอนาคตแห่งโลกมอนสเตอร์เอาไว้ เรื่องราวแฟนตาซีใน Monster Hunt ภาพยนตร์สามมิติคนแสดงร่วมกับตัวละคร CGI จากประเทศจีน สร้างความประหลาดใจให้กับวงการภาพยนตร์ทั่วโลกด้วยการเปิดตัวแบบทุบสถิติของหนัง IMAX สถิติรายได้วันแรกสูงสุด และรายได้วันเดียวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีน กลายเป็นหนังที่ไปถึงหลักพันล้านหยวนได้เร็วที่สุดเพียง 8 วัน และพุ่งเข้าสู่อันดับหนึ่งในชาร์ตหนังทำเงินของโลกอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัว ยังมีหนังจากแดนมังกรอีกหลายเรื่องที่สองสัปดาห์ที่ผ่านมาติดเข้าไปใน 10 อันดับหนังทำเงินของโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Pancake Man หนังเบาสมองล้อเลียนซูเปอร์ฮีโร่ที่ตามมาเป็นอันดับสอง ตามมาด้วย Monkey King: Hero Is Back ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มีหงอคงเป็นตัวเอกในอันดับสาม และกำลังจ่อทำลายสถิติเดิมของ Kung Fu Panda 2 สำหรับหนังอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดในจีน ยังไม่นับอีกหลายเรื่องเช่นหนังแนวดราม่าอย่าง Forever Young หรือภาคต่อโรแมนติกคอเมดี้ Tiny Times 4.0 ที่แม้จะไม่ได้เปิดตัวหวือหวา แต่ก็ยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำบ่งบอกถึงระดับคุณภาพหนังภายในวงการภาพยนตร์จีนที่กำลังพัฒนาศักยภาพตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อลงแข่งขันตลาดกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ทุกปีในช่วงเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นฤดูร้อนของประเทศจีน เป็นที่รู้กันภายในว่าทางการจะห้ามฉายภาพยนตร์สหรัฐฯ เพื่อเปิดทางให้หนังในประเทศเข้าทำเงินอย่างเต็มที่ แต่ที่ผ่านมามาตรการนี้กลับไม่ค่อยได้ผลเนื่องจากหนังที่เข้าฉายไม่ดึงดูดใจเท่าฮอลลีวูด ในปีนี้จึงเป็นปีแรกที่ภาพยนตร์จีนทำเงินได้อย่างคึกคักจนติดอันดับโลกหลายเรื่อง ด้าน Rob Cain นักวิเคราะห์ตลาดภาพยนตร์จีนและอินเดียจาก Forbes มองว่าเป็นเพราะความหลากหลายของเนื้อหาที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งหนังครอบครัว แอ็คชั่นเบาสมอง ตลอดจนโรแมนติกดราม่า ทำให้คนสนใจไปดูหนังที่ตัวเนื้อหา ต่างจากโปรแกรมในช่วงตรุษจีนที่ชาวจีนหลายร้อยล้านคนมักจะยกกันไปดูทั้งครอบครัว โดยทางการจีนประเมินตัวเลขว่าปรากฏการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังในประเทศทำรายได้ไปถึง 54% ของรายได้ตั๋วตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นแม้ว่าหลังจากนี้ฮอลลีวูดจะทำเงินได้ดีมากแค่ไหนก็จะได้ส่วนแบ่งตลอดทั้งปีไม่เกิน 45% เท่านั้น ขณะที่หนังจีนทำเงินได้ดีมากในบ้านเกิด แต่ดูเหมือนสำหรับต่างประเทศแล้วจะไปได้ไม่ค่อยสวยนัก สาเหตุก็น่าจะมาจากหนังส่วนใหญ่เป็นหนังเบาสมอง ซึ่งความตลกนั้นดูเหมือนจะไม่ถูกรสนิยมของต่างชาติมากนัก แถมคนภายนอกก็ยังมีภาพจำของหนังจีนในแนวกังฟูมากกว่าด้วย

จับตาหนังจีนแย่งพื้นที่ทำเงินจากฮอลลีวูด หลังจากจีนพยายามกระตุ้นการผลิตหนังภายในประเทศอย่างหนัก ทั้งจำกัดโควตาห้ามหนังจากตะวันตกเข้าไปฉายและอุดหนุนทุนสร้าง ปีนี้ก็แสดงให้เห็นดอกผลของการลงแรงอย่างชัดเจ