UID: 94949

จากกรณีข้อเรียกร้องให้โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชชี้แจงความโปร่งใสกรณีบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลาก

ความคืบหน้าหลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1/1 ของนายเศรษา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดแรงกระเพ

จากกรณีข้อเรียกร้องให้โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชชี้แจงความโปร่งใสกรณีบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรการแพทย์ หลังมีการเปิดเผยรายชื่อที่มีความซ้ำซ้อนและผิดปกติเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค.2564) พล.อ.ต.หญิงอิศรญา สุขเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ แถลงชี้แจงว่า กรณีรายชื่อซ้ำซ้อนที่ปรากฏผ่านสื่อ ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้เป็นรายชื่อทางการที่มีการฉีดวันที่ 11 และ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยยังไม่ได้ผ่านการดูความเรียบร้อยของข้อมูล ทางโรงพยาบาลทบทวนข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่า ทั้ง 3 วันที่ผ่านมาได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรการแพทย์จริง ๆ ไม่มีคนอื่นเข้ามาแทรก แต่ลำดับการฉีดก็พยายามกระจายกันไปหลายหน่วยงาน เนื่องจากประเด็นผลข้างเคียงของวัคซีนซึ่งหากฉีดหน่วยงานเดียวกันทั้งหมด อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานได้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ยังได้ขอบคุณบุคลากรแพทย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวกรณีนี้ เพื่อให้โรงพยาบาลได้ปรับปรุงการจัดการข้อมูลภายใน รวมถึงแก้ไขการสื่อสารในองค์กรที่อาจไม่ทั่วถึงและไม่ครบถ้วน ซึ่งต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และจะเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด พล.อ.ต.หญิงอิศรญา ระบุอีกว่า ช่องทางรวบรวมรายชื่อผู้ขอรับวัคซีนไฟเซอร์เป็น Google Forms ซึ่งบุคลากรที่ส่งรายชื่ออาจไม่มั่นใจว่ารายชื่อตัวเองส่งไปถึงทีมวัคซีนหรือไม่ จึงได้ส่งรายชื่อให้หัวหน้าหน่วยงานอีกครั้ง โดยหัวหน้าหน่วยงานก็ได้มายื่นรายชื่อที่ทีมวัคซีน ส่งผลให้มีรายชื่อซ้ำซ้อนกัน เป็นปัญหาของการบริหารจัดการข้อมูล อย่างไรก็ตาม วัคซีนที่ได้รับจากกรมควบคุมโรค เมื่อฉีดเรียบร้อยแล้วทางโรงพยาบาลจะต้องส่งรายชื่อบุคลากรการแพทย์และเลขประกอบวิชาชีพกลับไปยังกรมควบคุมโรคเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง พล.อ.ต.หญิงอิศรญา ยังได้กล่าวถึงลำดับการรับวัคซีนไฟเซอร์ โดยระบุว่า ทุกคนที่ส่งชื่อไปต้องได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์แน่นอน ส่วนลำดับที่จะเข้ารับการฉีดนั้น แบ่งตามผู้ที่ดูแลใกล้ชิดผู้ป่วย ทั้งผู้ชปฏิบัติงานหอผู้ป่วย COVID-19 คนทำงานห้องตรวจทางเดินหายใจ ห้องสวอป เจ้าหน้าที่เวรเปล และเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย รวมถึงแม่บ้านวอร์ด COVID-19 เจ้าหน้าที่ที่จุดคัดกรอง ซึ่งเป็นแบ็กออฟฟิศ หรือเจ้าหน้าที่ธุรการที่วนลงไปช่วยงาน แต่กลุ่มนี้จะจัดอยู่ลำดับหลัง ขณะเดียวกันยังมีบุคลากรแพทย์บางส่วนที่ไปปฏิบัติหน้าที่โรงพยาบาลสนาม รวมถึงสอบสวนโรคที่อื่น และผู้ช่วยฉีดวัคซีนในแต่ละสถานที่ด้วย ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่เทคนิค ช่างซ่อมไฟฟ้า ประปา เหตุที่ต้องได้รับวัคซีนเนื่องจากเป็นฝ่ายสนับสนุนสมัคร รับ ฟรีวอร์ด COVID-19 ในกรณีที่เกิดปัญหาด้านสาธารณูปโภค จึงต้องเข้ามาซ่อม แซม - แก้ไข ขณะที่ พล.อ.ท.ธนวิตต สกุลแสงประภา เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ กล่าวเสริมว่า กรณีรายชื่อซ้ำซ้อนโรงพยาบาลต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาด้านการจัดการข้อมูล ซึ่งเกิดจาก Human error เนื่องจากมีการส่งรายชื่อทั้งส่วนบุคคลและส่วนหน่วยงาน แต่ทีมวัคซีนได้มีการคัดกรองข้อมูลหน้างานซ้ำอีกครั้ง ดังนั้น รายชื่อที่ซ้ำซ้อนกันจึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด และโรงพยาบาลยังได้ประกาศรายชื่อผู้ที่เข้ารับวัคซีนผ่านเฟซบุ๊กเพิ่มเติมเพื่อความโปร่งใสอีกด้วย "โดยหลักการป็นผู้บริหารหรือเจ้านาย ถ้าลูกน้องยังไม่ได้วัคซีนครบ ทุกคนก็คิดเหมือนกัน อย่างไรก็ต้องให้ลูกน้องได้ครบก่อน" พล.อ.ท.ธนวิตต กล่าวย้ำว่า ขอยืนยันด้วยเกียรติยศ หากวัคซีนไม่ครบก็ต้องตะลุยฉีดลูกน้องให้ได้ก่อน ไม่มีเหตุผลที่จะกักวัคซีนฉีดให้ VIP และไม่มีผู้ใหญ่โทรมาขอจะฉีดไฟเซอร์เช่นกัน พล.อ.ท.ธนวิตต ยังระบุอีกว่า เมื่อวานนี้ได้เรียกประชุมเพื่อทำความเข้าใจกับบุคลากรการแพทย์ราว 80 คน ยืนยันว่าไม่ได้เรียกมาคาดโทษ เพราะเห็นใจบุคลากรทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด เนื่องจากทุกคนทราบอยู่แล้วว่าซิโนแวค 2 เข็มไม่ครอบคลุมการป้องกันเชื้อเดลตาได้ดีเท่าใด จึงได้รับปากที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชได้รับการจัดสรรครั้งแรกมีประมาณ 1,800 โดส ขณะนี้ได้รับเพิ่มอีก 1,900 โดส รวมเป็น 3,700 โดส ขณะที่บุคลากรโรงพยาบาลมีอยู่ประมาณ 2,400 คน ซึ่งจะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนบุคลากรให้ครบทุกคนก่อน รวมถึงเก็บไว้สำหรับบุคลากรที่ติดเชื้อ COVID-19 ในขณะนี้ส่วนหนึ่งด้วย จึงจะจัดสรรให้บุคลากรส่วนอื่น ๆ ต่อไป อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง กังขาชื่อใครโผล่ฉีดไฟเซอร์-ทอ.แจงไม่มีสวมสิทธิ์ แย่งเข็ม 3 ด่านหน้า รพ.ภูมิพล

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกสาวและลูกเขยของนายอาคม ปรีดากุล หรือ น้าค่อม ชวนชื่