วันนี้ (23 มิ.ย.2565) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รายงานสถิติการเข้าใช้งานแอป ปลูกกัญ ล่าสุดม

กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงชี้แจงชี้มูลความผิดกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีการบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมู่ 6 ต

วันนี้ (23 มิ.ย.2565) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รายงานสถิติการเข้าใช้งานแอป ปลูกกัญ ล่าสุดมีจำนวนการลงทะเบียน 918,342 คน ออกใบรับจดแจ้งกัญชา 889,859 ใบ ออกใบรับจดแจ้งกัญชง 28,483 ใบ จำนวนเข้าใช้งานระบบ 41,250,114 ครั้ง ขณะที่ นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า หลังจากปลดล็อกกัญชา จากยาเสพติดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามผลกระทบจากการใช้กัญชา โดยข้อมูลจาก 3 โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ คือ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลเลิดสิน และ โรงพยาบาลราชวิถี ระหว่างวันที่ 13-21 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบรวม 9 คน โดยวันที่ 16 มิ.ย.พบสูงสุด 4 คน อยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี 2 คน และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี 2 คน อาการที่พบมากมี 3 ระบบ คือ ระบบหลอดเลือดและหัวใจ หลอดเลือดสมอง อาการหัวใจเต้นเร็ว ความดันขึ้นลงๆ ชีพจรเต้นไม่เป็นจังหวะ ระบบประสาท อาการวิงเวียน มึน และพบประปรายในระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน ซึ่งรูปแบบการรับกัญชาเข้าร่างกาย สำหรับกลุ่มที่ใช้ทางการแพทย์ได้รับข้อมูลการใช้ที่ถูกต้อง ยังไม่พบปัญหา นพ.มานัส ระบุว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวัง โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ควรบริโภคเลยคือ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้มีที่โรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคระบบประสาท และผู้ป่วยจิตเวช หรือครอบครัวมีประวัติป่วยจิตเวช ผู้ที่ต้องขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท ผู้ที่ตsa1688 บา คา ร่า้องทำงานกับเครื่องจักร ที่สำคัญขอให้ร้านค้าพึงระวังและติดป้ายแจ้งลูกค้าถึงส่วนผสมของเมนูกัญชา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ นอกจากนี้ถ้าได้รับกัญชาไปเเล้วมีอาการไม่พึงประสงค์ สามารถสังเกตได้เบื้องต้น คือ การหายใจผิดปกติ ชีพจรผิดปกติ หากเริ่มไม่รู้สึกตัว ผู้ใกล้ชิดต้องเรียกรถฉุกเฉินทันที โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวจะต้องระวัง ขอย้ำว่า การพบอาการหลังใช้กัญชา ไม่ว่าจะรูปแบบใด หากมาพบแพทย์แล้วจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมาย เพื่อให้แพทย์รักษาได้ทันท่วงที ขณะเดียวกัน มีข้อมูลที่น่าสนใจ ขณะนี้มีคนที่เสพกัญชาเเละเข้าบำบัดต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มที่ใช้สันทนาการ และบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งแม้การหยดน้ำมันกัญชาก็เกิดการเสพติดได้ ทั้งนี้ทางกรมการแพทย์จึงเปิดไลน์บัญชีทางการ (Line OA) ว่า "ห่วงกัญ" เพื่อให้ประชาชนสามารถคัดกรองอาการสงสัยมีภาวะติดกัญชา แต่เบื้องต้นสามารถสังเกตได้ว่า หากใช้กัญชาในปริมาณเพิ่มขึ้น ถี่ขึ้น เริ่มมีอาการอยากยา อาการขาดยา แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อบำบัดรักษา ขณะที่จากข้อมูลพบว่าข้อมูลที่มีรายงานผ่านสื่อมวลชน ผลกระทบจากการใช้กัญชามีรายงานหลายแห่ง เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โพสต์ข้อความผ่านเพจเพซบุ๊ก Royal Thai Embassy, Jakarta แจ้งเตือนคนไทย ระบุว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอแจ้งเตือนคนไทยมิให้นำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้ามาในประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้สถานทูตไทย ระบุเพิ่มเติมว่า ข้อห้ามนำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว เข้ามาในประเทศอินโดนีเซีย หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายอินโดนีเซีย ปรับขั้นต่ำ 1 พันล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 2,392,400 บาท จำคุก 5 ปีถึงตลอดชีวิต หรือโทษสูงสุดประหารชีวิต นอกจากนี้ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการรับฝากสิ่งของจากผู้อื่นมายังประเทศอินโดนีเซีย อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เช็กอาการแบบไหน? แพ้กัญชา โฆษณาขายผลิตภัณฑ์ที่มี "กัญชา-กัญชง" เกินจริง โทษถึงจำคุก รามาฯ พบป่วย 14 คน จาก "กัญชา" มีเคสใช้ร่วมไอซ์-เห็ดเมา

ยอดสะสมการตรวจเชื้อตั้งแต่ 1 ม.ค.63 - 4 ก.ย.64 ดำเนินการไปแล้ว 12,575,261 คน พบเชื้อ 1,026,043 คน ตั้งแต่เข้าสู่การระบาดระลอก 3 อย่างเป็นทางการ จำนวนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มากก็ขึ้นจากการเร่งตรวจเชิงร