เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมน

"ผมไม่อยากแยกพ่อแยกลูกกัน ลืมเรื่องกฎระเบียบ เพิ่มความเป็นมนุษย์" นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ รพ.มหาราชนครราชสีมา โพสต์เฟซบุ๊ก "อนุชิต นิยมปัทมะ" เล่าเรื่องราวของเด็กวัย 3 ขวบ พ
ความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้ Mountain B จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตในขณะนี้รวมแล้ว 20 คน วันนี้ (25 ส.ค.2565) นายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติ
ความคืบหน้ากรณีตำรวจจราจร 7 คน รุมทำร้ายร่างกายประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในบริเวณ ถ.เกษตร-นวมินทร์ โดยอ้างว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บขับรถฝ่าด่านตรวจ ทั้งที่จำผิดคัน วันนี้ (5 ธ.ค.2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง กองบังคับการตำรวจจราจร พบว่ามีมูล สอดคล้องกับที่ญาติของผู้เสียหายให้ข้อมูล นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุทั้ง 7 คน รับสารภาพว่า ร่วมกันกระทำการดังกล่าวจริง โดยช่วงเย็นวันนี้ ผู้บังคับบัญชาของทั้ง 7 คน ได้ควบคุมตัวไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นจะดำเนินคดีกับกลุ่มนายตำรวจทั้ง 7 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายและใจ ส่วนข้อหาอื่น ๆ หากตรวจสอบพบเข้าข่ายครบองค์ประกอบข้อหาใดก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม รอง ผบช.น.ยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะไม่ปกป้องหรือให้ความช่วยเหลือ หรือทำให้คดีบิดเบี้ยวอย่างที่สังคมตั้งข้อสังเกต โดยจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะข้อเท็จจริงมีเพียงอย่างเดียว ประกอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ไม่มีการตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบว่ารถที่แหกด่านเป็นรถของผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่ และแม้ผู้ได้รับบาดเจ็บจะเป็นผู้ที่ขับรถฝ่าด่านจริง ตำรวจก็ไม่มีสิทธิกระทำการในลักษณะดังกล่าว ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าเหตุใด 4 ใน 7 นายตำรวจแต่งชุดนอกเครื่องแบบนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ อธิบายว่า ช่วงเวลาดังกล่าว มีการตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจรของตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร ขณะนั้นมีตำรวจประจำด่านทั้งหมด 15 นาย ระหว่างนั้นพบรถเมาแล้วขับ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวเข้าด่าน แต่ปรากฏว่าคนขับรถได้ขับรถฝ่าด่านออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียง 5 นาที ผู้บาดเจ็บได้เข้าด่านตรวจ เพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ 3 ครั้ง ตามขั้นตอน และพบว่าไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด แต่รถไม่ติดแผ่นป้ายภาษีจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวไป หลังจากผู้ต้องสงสัยเมาแล้วขับ ซึ่งขับรถยนต์ที่มีลักษณะเหมือนกันกับผู้เสียหาย ได้ขับรถแหกด่านออกไป ตำรวจในด่านจึงตะโกนว่า มีรถแหกด่าน เป็นรุ่นและสีเดียวกันกับรถของผู้เสียหาย ต่อมาตำรวผล บา ส หญิงจ 4 ใน 7 นาย ซึ่งออกเวรแล้ว แต่ยังคงประจำอยู่ในจุดดังกล่าว และตำรวจในเครื่องแบบ 3 นายที่ยังอยู่ในเวลาเวร ได้สมัครใจขับรถตามรถคันของผู้ต้องสงสัยไป จากนั้นก็เป็นไปตามข้อมูลที่ญาติผู้เสียหายระบุ ทั้งนี้ ตามหลักแล้วตำรวจมียุทธวิธีในการดำเนินการ โดยจะเริ่มจากการพูดคุยด้วยวาจา และหากพบพฤติการณ์ของฝ่ายตรงข้ามมีแนวโน้มจะใช้กำลัง ก็จะพิจารณาตามสัดส่วน รอง ผบช.น.ยังได้แสดงความเสียใจ และฝากไปถึงครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างเต็มที่ อีกทั้งเพิ่งทราบว่าผู้เสียหายก็เป็นลูกของตำรวจเช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกตำรวจ หรือประชาชน ก็ไม่ควรเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น อ่านข่าว : สั่งย้าย 7 ตร.จราจรรุมซ้อมน่วม "จับผิดคัน"
จากกรณียูทูบช่อง Pigkaploy ของ น.ส.พลอยไพลิน ตั้งประภาพร ซึ่งปล่อยเนื้อหาตอนล่าสุด ชื่อ "ทหารมีไว้ทำ
ความคืบหน้ากรณีตำรวจจราจร 7 คน รุมทำร้ายร่างกายประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในบริเวณ ถ.เกษตร-นวมินทร์ โ
วันนี้ (9 พ.ค.2567) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข
ความคืบหน้ากรณีตำรวจจราจร 7 คน รุมทำร้ายร่างกายประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในบริเวณ ถ.เกษตร-นวมินทร์ โดยอ้างว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บขับรถฝ่าด่านตรวจ ทั้งที่จำผิดคัน วันนี้ (5 ธ.ค.2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง กองบังคับการตำรวจจราจร พบว่ามีมูล สอดคล้องกับที่ญาติของผู้เสียหายให้ข้อมูล นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุทั้ง 7 คน รับสารภาพว่า ร่วมกันกระทำการดังกล่าวจริง โดยช่วงเย็นวันนี้ ผู้บังคับบัญชาของทั้ง 7 คน ได้ควบคุมตัวไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นจะดำเนินคดีกับกลุ่มนายตำรวจทั้ง 7 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายและใจ ส่วนข้อหาอื่น ๆ หากตรวจสอบพบเข้าข่ายครบองค์ประกอบข้อหาใดก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม รอง ผบช.น.ยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะไม่ปกป้องหรือให้ความช่วยเหลือ หรือทำให้คดีบิดเบี้ยวอย่างที่สังคมตั้งข้อสังเกต โดยจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะข้อเท็จจริงมีเพียงอย่างเดียว ประกอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ไม่มีการตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบว่ารถที่แหกด่านเป็นรถของผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่ และแม้ผู้ได้รับบาดเจ็บจะเป็นผู้ที่ขับรถฝ่าด่านจริง ตำรวจก็ไม่มีสิทธิกระทำการในลักษณะดังกล่าว ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าเหตุใด 4 ใน 7 นายตำรวจแต่งชุดนอกเครื่องแบบนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ อธิบายว่า ช่วงเวลาดังกล่าว มีการตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจรของตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร ขณะนั้นมีตำรวจประจำด่านทั้งหมด 15 นาย ระหว่างนั้นพบรถเมาแล้วขับ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวเข้าด่าน แต่ปรากฏว่าคนขับรถได้ขับรถฝ่าด่านออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียง 5 นาที ผู้บาดเจ็บได้เข้าด่านตรวจ เพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ 3 ครั้ง ตามขั้นตอน และพบว่าไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด แต่รถไม่ติดแผ่นป้ายภาษีจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวไป หลังจากผู้ต้องสงสัยเมาแล้วขับ ซึ่งขับรถยนต์ที่มีลักษณะเหมือนกันกับผู้เสียหาย ได้ขับรถแหกด่านออกไป ตำรวจในด่านจึงตะโกนว่า มีรถแหกด่าน เป็นรุ่นและสีเดียวกันกับรถของผู้เสียหาย ต่อมาตำรวผล บา ส หญิงจ 4 ใน 7 นาย ซึ่งออกเวรแล้ว แต่ยังคงประจำอยู่ในจุดดังกล่าว และตำรวจในเครื่องแบบ 3 นายที่ยังอยู่ในเวลาเวร ได้สมัครใจขับรถตามรถคันของผู้ต้องสงสัยไป จากนั้นก็เป็นไปตามข้อมูลที่ญาติผู้เสียหายระบุ ทั้งนี้ ตามหลักแล้วตำรวจมียุทธวิธีในการดำเนินการ โดยจะเริ่มจากการพูดคุยด้วยวาจา และหากพบพฤติการณ์ของฝ่ายตรงข้ามมีแนวโน้มจะใช้กำลัง ก็จะพิจารณาตามสัดส่วน รอง ผบช.น.ยังได้แสดงความเสียใจ และฝากไปถึงครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างเต็มที่ อีกทั้งเพิ่งทราบว่าผู้เสียหายก็เป็นลูกของตำรวจเช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกตำรวจ หรือประชาชน ก็ไม่ควรเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น อ่านข่าว : สั่งย้าย 7 ตร.จราจรรุมซ้อมน่วม "จับผิดคัน"
ส.ประมงพื้นบ้านฯ จัดเวทีถอดบทเรียน 2 ปีน้ำมันดิบรั่วไหลใกล้ชายฝั่งระยอง สมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระ