กรณีอดีต สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทยปัจจุบัน 2 คน นา
กรณีนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรชื่อดังซึ่งอยู่ระหว่างการรักษา COVID-19 ในสถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ณวัฒน์ อิสรไกรศีล - Mr.Nawat Itsaragrisil ซึ่งช่วงหนึ่ง ระบุว่ามีแพทย์โทรมาบอกว่า ให้ย
วันนี้ (23 เม.ย.2568) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า ถ้านายกฯ พูด
การประกาศวางมือทางการเมืองของ “นริศ ขำนุรักษ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีต ส.ส.พัทลุง ในสาย “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยครั้งนี้ นริศ เป็นผู้เลือกลำดับ ส.ส.บัญชีรายรายชื่ออยู่ที่ 98 ซึ่งไกลเกินกว่าจะได้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา จ.พัทลุง มี 3 เขตเลือก ประกอบด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1 มี อ.เมือง, เขาชัยสน เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.ศรีนครินทร์, ควนขนุน, ศรีบรรพต และป่าพะยอม และเขตเลือกตั้งที่ 3 อ.กงหรา, ตะโหมด, บางแก้ว อำป่าบอน และปากพะยูน แม้ “นริศ” วางมือทางเมืองจากปัญหาสุขภาพ แต่ยังไม่วางพื้นที่ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ส่ง “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” ลูกชายคนเล็กลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคฯเพื่อรักษาพื้นที่และฐานเสียงเดิมไว้ ด้วยว่าการเลือกตั้งปี 2562 เกิดปรากฎการณ์ล้มแชมป์ เมื่อพรรคประชาธิดู บอล ย ดู บอล ยปัตย์เสียเก้าอี้ให้กับพรรคภูมิใจไทยไป 2 เขต ขณะที่ “สุพัชรี ธรรมเพชร” บ้านใหญ่ธรรมเพชร สอบตกในพื้นที่เขต 1 และนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สอบตกในเขต 2 และเหลือรอด “นริศ ขำนุรักษ์” เขต 3 คนเดียว ครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยภายใต้การนำของ “เจ๊ะเปี๊ยะ“ นาที รัชกิจประการ แม่ทัพใต้ของพรรคฯ ซึ่งฐานที่มั่นอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง ส่ง “ภุชงค์ วรศ” ลงเขต 1 ต้องไปสู้กับ “สุพัชรี ธรรมเพชร” จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจ้องทวงคืนพื้นที่ และยังมี “เอกภัทร ภักร์รัศมี” นักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรงจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวสอดแทรก ส่วนเขต 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ “ฉลอง เทอดวีระพงศ์ “ซึ่งครั้งที่แล้วสามารถเอาชนะ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส. 8 สมัยของประชาธิปัตย์มาได้ แต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่นาน ก็ถูกเว้นวรรคการเมืองคดีถูกกล่าวหากระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ครั้งนี้เขาส่ง “วรท เทอดวีระพงศ์” หรือ “ปลัดเม่น” ลูกชายลง ส.ส.เขตแทน ขณะที่ นิพิฏฐ์ เจ้าของพื้นที่เก่าโบกมือลาประชาธิปัตย์เข้าพรรคพลังประชารัฐ อยู่กับ ”ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ โดยมีชื่อในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 18 โดยพลังประชารัฐสู้กลับส่ง “พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร” มาทวงแชมป์คืน เช่นเดียวกับค่ายประชาธิปัตย์ส่ง “ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี” ลูกสาว “สานันท์ สุพรรณชนะบุรี” อดีต ส.ส. 2 สมัย และอดีตนายกฯ อบจ. 2 สมัยลุยสู้ศึก ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติก็สู้ไม่ถอย เมื่อบ้านใหญ่ ”ธรรมเพชร” ส่ง “นิติศักดิ์ ธรรมเพชร” ลูกชายของ วิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาลงชิงชัยด้วย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 ประชาธิปัตย์ส่ง “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” ลูกชายคนเล็กของนายนริศ ชิงเก้าอี้กับ “ประเทือง มนตรี” พี่ชายของ “นาที รัชกิจประการ” จากค่ายภูมิใจไทย และมีค่ายพลังประชารัฐส่ง “วัฒนา เรืองแก้ว” เข้าท้าชิง แม้จะเป็นสนามเล็ก แค่สามเขตเลือกตั้ง แต่ประมวลผลแล้ว เดือดไม่แพ้สนามใหญ่
ไทยพีบีเอส จัดมหกรรม “ปลุกกรุงเทพฯ เปลี่ยนเมืองใหญ่ เลือกตั้งผู้ว่าฯ 65” ด้วยการประชันวิสัยทัศน์ ของ
ทุกคนจะพ้นความจนได้ ถ้ามีความพยายาม ซึ่งผลของการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาด้วยงานวิจัยในพื้นที่ถ้าจะพูดว่
การประกาศวางมือทางการเมืองของ “นริศ ขำนุรักษ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีต ส.ส.พัทลุง ใ
การประกาศวางมือทางการเมืองของ “นริศ ขำนุรักษ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีต ส.ส.พัทลุง ในสาย “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยครั้งนี้ นริศ เป็นผู้เลือกลำดับ ส.ส.บัญชีรายรายชื่ออยู่ที่ 98 ซึ่งไกลเกินกว่าจะได้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา จ.พัทลุง มี 3 เขตเลือก ประกอบด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1 มี อ.เมือง, เขาชัยสน เขตเลือกตั้งที่ 2 อ.ศรีนครินทร์, ควนขนุน, ศรีบรรพต และป่าพะยอม และเขตเลือกตั้งที่ 3 อ.กงหรา, ตะโหมด, บางแก้ว อำป่าบอน และปากพะยูน แม้ “นริศ” วางมือทางเมืองจากปัญหาสุขภาพ แต่ยังไม่วางพื้นที่ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ส่ง “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” ลูกชายคนเล็กลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคฯเพื่อรักษาพื้นที่และฐานเสียงเดิมไว้ ด้วยว่าการเลือกตั้งปี 2562 เกิดปรากฎการณ์ล้มแชมป์ เมื่อพรรคประชาธิดู บอล ย ดู บอล ยปัตย์เสียเก้าอี้ให้กับพรรคภูมิใจไทยไป 2 เขต ขณะที่ “สุพัชรี ธรรมเพชร” บ้านใหญ่ธรรมเพชร สอบตกในพื้นที่เขต 1 และนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สอบตกในเขต 2 และเหลือรอด “นริศ ขำนุรักษ์” เขต 3 คนเดียว ครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยภายใต้การนำของ “เจ๊ะเปี๊ยะ“ นาที รัชกิจประการ แม่ทัพใต้ของพรรคฯ ซึ่งฐานที่มั่นอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง ส่ง “ภุชงค์ วรศ” ลงเขต 1 ต้องไปสู้กับ “สุพัชรี ธรรมเพชร” จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจ้องทวงคืนพื้นที่ และยังมี “เอกภัทร ภักร์รัศมี” นักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรงจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวสอดแทรก ส่วนเขต 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ “ฉลอง เทอดวีระพงศ์ “ซึ่งครั้งที่แล้วสามารถเอาชนะ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส. 8 สมัยของประชาธิปัตย์มาได้ แต่ปฏิบัติหน้าที่ไม่นาน ก็ถูกเว้นวรรคการเมืองคดีถูกกล่าวหากระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กรณีเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ครั้งนี้เขาส่ง “วรท เทอดวีระพงศ์” หรือ “ปลัดเม่น” ลูกชายลง ส.ส.เขตแทน ขณะที่ นิพิฏฐ์ เจ้าของพื้นที่เก่าโบกมือลาประชาธิปัตย์เข้าพรรคพลังประชารัฐ อยู่กับ ”ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ โดยมีชื่อในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 18 โดยพลังประชารัฐสู้กลับส่ง “พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร” มาทวงแชมป์คืน เช่นเดียวกับค่ายประชาธิปัตย์ส่ง “ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี” ลูกสาว “สานันท์ สุพรรณชนะบุรี” อดีต ส.ส. 2 สมัย และอดีตนายกฯ อบจ. 2 สมัยลุยสู้ศึก ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติก็สู้ไม่ถอย เมื่อบ้านใหญ่ ”ธรรมเพชร” ส่ง “นิติศักดิ์ ธรรมเพชร” ลูกชายของ วิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาลงชิงชัยด้วย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 ประชาธิปัตย์ส่ง “ร่มธรรม ขำนุรักษ์” ลูกชายคนเล็กของนายนริศ ชิงเก้าอี้กับ “ประเทือง มนตรี” พี่ชายของ “นาที รัชกิจประการ” จากค่ายภูมิใจไทย และมีค่ายพลังประชารัฐส่ง “วัฒนา เรืองแก้ว” เข้าท้าชิง แม้จะเป็นสนามเล็ก แค่สามเขตเลือกตั้ง แต่ประมวลผลแล้ว เดือดไม่แพ้สนามใหญ่
วันนี้ (9 มิ.ย.2564) พล.อ.ท.ตรีพล อ่องไพฑูรย์ รองเสนาธิการทหารอากาศ หัวหน้าคณะโครงการเชื่อมโยงสินค้า