วันนี้ (26 ม.ค.2565) ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายกฟ้อง
วันนี้ (24 ต.ค.2567) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 สระบุรีได้พิพากษาจำคุก 6 ปี 18 เดือน นายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวกรวม 7 คน คดีทุจริตในการจัดซื้อถุงยังชีพในโครงการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอุทกภัยใน จ.ปทุ
จากกรณีอดีตพระกาโตะ หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ยอมรับว่า เบิกเงินวัดเพ็ญญาติ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 600,000 บาทในในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อนำเงินไปให้ "คนกลาง" จ่ายสีกาตอง และสื่อเพื่อ
จากกรณีอดีตพระกาโตะ หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ยอมรับว่า เบิกเงินวัดเพ็ญญาติ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 600,000 บาทในในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อนำเงินไปให้ "คนกลาง" จ่ายสีกาตอง และสื่อเพื่อเคลียร์ปัญหา เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตพระกาโตะ ได้คืนเงินวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไปทำเรื่องคืนเงินที่วัดมังคลาราม อ.พิปูน เพื่อคืนให้กับวัดเพ็ญญาติต่อไป โดยมีพยานรับทราบ 5 คน และจะนำเงินเข้าบัญชีวัดในวันนี้ (5 พ.ค.) ขณะที่มีการสอบถามว่าการเบิกเงินวัดที่อ้างว่ายืม แล้วนำเงินมาคืนแล้วเรื่องจบหรือไม่ อาจจะได้คำตอบว่า "ยังไม่จบ" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดแล้ว เพราะหากนำเงินวัดไปจ่ายให้กับคนกลางจริง จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอีก ขณะที่บรรยากาศที่วัดเพ็ญญาติ มีช่างเข้ารื้อถอนอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากเข้า ts191าศออกจากกุฏิ ของอดีตพระกาโตะ และเก็บทรัพย์สินที่ถูกระบุว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของอดีตพระกาโตะขึ้นรถกระบะเคลื่อนย้ายออกไปจากวัด ไปเก็บยังสถานที่แห่งหนึ่งโดยไม่เป็นที่เปิดเผย พระครูสิริธรรมาภิรัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) ได้ออกคำสั่งให้เจ้าคณะอำเภอฉวางเข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดอย่างละเอียด โดยติดตามการเบิกจ่ายบัญชีวัด รวมทั้งทรัพย์สินภายในวัดเพื่อความถูกต้องและชัดเจน ดูว่ามีทรัพย์สินใดที่ถูกนำออกไป และเข้าข่ายเป็นทรัพย์สินวัดหรือไม่ ส่วนเงิน 600,000 บาท ที่อดีตพระกาโตะ ได้เบิกไป โดยอ้างว่า จะนำไปปรับปรุงอาสนะของวัด แต่กลับนำไปให้หญิงคนหนึ่ง และนักข่าวเพื่อยุติเรื่องไวยาวัจกรวัดเพ็ญญาติ เป็นเงินที่ยืมไป คืนแล้วก็จบ เช่นเดียวกับความเห็นของ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ ระบุว่า กรณีกาโตะ ระวังถูกดำเนินคดียักยอกทรัพย์สินของวัด เพราะเงินวัด 600,000 บาทเอาไปใช้ส่วนตัวไม่ได้โดนข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดโทษจำคุก 3 ปี แต่ถ้าเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์และยักยอกทรัพย์มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปีหรือจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ 100,000- 400,000 บาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ยอมความไม่ได้ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "กาโตะ" ยอมรับเบิกเงินวัด 6 แสนบาท ปิดเรื่องฉาว "กาโตะ" แฉกลาง "โหนกระแส" อ้างถูกแบล็กเมล์-รับคลิปเสียงจริง ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง "พระกาโตะ" ปัดปมคลิปเสียงว่อนโซเชียล
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2568 เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับการประส
นายหวาน หนุ่มชาติพันธุุ์จากหมู่บ้านปิล๊อกคี่ ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เล่านาทีที่ถูกเสือโคร่
กรณีพบเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เสียชีวิตในแอ่งน้ำบริเวณทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์บ้านใหม่ ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือ
จากกรณีอดีตพระกาโตะ หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ยอมรับว่า เบิกเงินวัดเพ็ญญาติ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 600,000 บาทในในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อนำเงินไปให้ "คนกลาง" จ่ายสีกาตอง และสื่อเพื่อเคลียร์ปัญหา เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตพระกาโตะ ได้คืนเงินวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไปทำเรื่องคืนเงินที่วัดมังคลาราม อ.พิปูน เพื่อคืนให้กับวัดเพ็ญญาติต่อไป โดยมีพยานรับทราบ 5 คน และจะนำเงินเข้าบัญชีวัดในวันนี้ (5 พ.ค.) ขณะที่มีการสอบถามว่าการเบิกเงินวัดที่อ้างว่ายืม แล้วนำเงินมาคืนแล้วเรื่องจบหรือไม่ อาจจะได้คำตอบว่า "ยังไม่จบ" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดแล้ว เพราะหากนำเงินวัดไปจ่ายให้กับคนกลางจริง จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอีก ขณะที่บรรยากาศที่วัดเพ็ญญาติ มีช่างเข้ารื้อถอนอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากเข้า ts191าศออกจากกุฏิ ของอดีตพระกาโตะ และเก็บทรัพย์สินที่ถูกระบุว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของอดีตพระกาโตะขึ้นรถกระบะเคลื่อนย้ายออกไปจากวัด ไปเก็บยังสถานที่แห่งหนึ่งโดยไม่เป็นที่เปิดเผย พระครูสิริธรรมาภิรัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) ได้ออกคำสั่งให้เจ้าคณะอำเภอฉวางเข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดอย่างละเอียด โดยติดตามการเบิกจ่ายบัญชีวัด รวมทั้งทรัพย์สินภายในวัดเพื่อความถูกต้องและชัดเจน ดูว่ามีทรัพย์สินใดที่ถูกนำออกไป และเข้าข่ายเป็นทรัพย์สินวัดหรือไม่ ส่วนเงิน 600,000 บาท ที่อดีตพระกาโตะ ได้เบิกไป โดยอ้างว่า จะนำไปปรับปรุงอาสนะของวัด แต่กลับนำไปให้หญิงคนหนึ่ง และนักข่าวเพื่อยุติเรื่องไวยาวัจกรวัดเพ็ญญาติ เป็นเงินที่ยืมไป คืนแล้วก็จบ เช่นเดียวกับความเห็นของ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ ระบุว่า กรณีกาโตะ ระวังถูกดำเนินคดียักยอกทรัพย์สินของวัด เพราะเงินวัด 600,000 บาทเอาไปใช้ส่วนตัวไม่ได้โดนข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดโทษจำคุก 3 ปี แต่ถ้าเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์และยักยอกทรัพย์มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปีหรือจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ 100,000- 400,000 บาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ยอมความไม่ได้ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "กาโตะ" ยอมรับเบิกเงินวัด 6 แสนบาท ปิดเรื่องฉาว "กาโตะ" แฉกลาง "โหนกระแส" อ้างถูกแบล็กเมล์-รับคลิปเสียงจริง ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง "พระกาโตะ" ปัดปมคลิปเสียงว่อนโซเชียล
วันนี้ (7 เม.ย.2567) ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานสถานการณ์ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเ