นักศึกษากว่า 60 คนนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังจ่ายค่าเทอม แต่กลับไม่ได้รับใบจบการศึกษา หนึ่งใน
วันนี้ (4 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อเวลา 22.40 ของคืนวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่ามา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าตรวจสอบเหตุการณ์ พร้อมเปิดเผยว่า พื้นที่เก
นักศึกษากว่า 60 คนนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังจ่ายค่าเทอม แต่กลับไม่ได้รับใบจบการศึกษา หนึ่งในผู้เสียหายให้ข้อจัดสเปคคอม จัดสเปคคอมมูลกับไทยพีบีเอสว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปี ต้องจ่ายค่าหน่วยกิต และค่ารักษาสภาพนักศึกษารวมกว่า 20,000 บาท ให้บุคคลที่ระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผู้เสียหายเล่าว่า มารดาเป็นผู้จ่ายค่าเทอม โดยทุก ๆ เทอม เจ้าหน้าที่คนนี้ จะเป็นคนเดียว ที่ติดต่อให้จ่ายค่าเทอม ซึ่งหลักฐานการโอนเงินไปปลายทาง ระบุชื่อบัญชี "อลิสา" ทุกใบ ความสูญเสียที่เกิดขึ้น นอกจากมูลค่าที่โอนจ่ายไป ความกังวลมากที่สุด ตอนนี้ คือ ไม่แน่ใจว่ามหาวิทยาลัยจะออกใบรับรองการจบการศึกษาให้หรือไม่ ในฐานะนักศึกษาที่ทำถูกต้องทุกขั้นตอน ตลอดการศึกษา 4 ปี การเข้าแจ้งความในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาผู้เสียหายได้เข้าพบนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อปรึกษาแนวทางดำเนินคดี หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการนักศึกษาของทางมหาวิทยาลัย รับดำเนินจ่ายค่าเทอมแทน มีพฤติการณ์รับเงินไปแล้วกลับไม่นำเงินมาส่งให้กับทางมหาวิทยาลัย โดยจ่ายไปคนละประมาณ 20,000 บาท ส่งผลให้นักศึกษาบางคนเรียนไม่จบ และบางคนพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ความเสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท ขณะที่ทีมข่าวไทยพีบีเอส พยายามติดต่อทางมหาวิทยาลัยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นทราบว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และพบว่า บุคลากรที่รับเงินมีความผิดจริง โดยนำเงินที่นักศึกษาจ่ายไปใช้จ่ายส่วนตัว และได้มีคำสั่งให้ออกจากการเป็นพนักงานแล้ว
วันนี้ (20 ก.ค.2564) เปิดแนวทาง "อู่ฮั่น โมเดล" ว่าทำอย่างไร จึงสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ย้อนกลับไปช่วงแรกของการระบาด อู่ฮั่น ประกาศล็อกดาวน์ โดยเริ่มวันที่ 23 ม.ค.2563 ทางการอู่ฮั่นแจ้
