วันนี้ (6 มี.ค.2568) ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีที่กร

เปิดโครงสร้าง ศาลทหารเป็นหน่วยงานยุติธรรมที่มีบทบาทมาตลอดตั้งแต่รัฐประหาร โดยเฉพาะการพิจารณาคดีความมั่นคงและท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินคดีกับพลเรือน จึงนำไปสู่ข้อสงสัยเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ

วันนี้ (6 มี.ค.2568) ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับการประสานจากนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ว่า จะนำกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ของกลุ่มคลื่นพลังบุญ ว่าสรวม โปร สล อ ตามารถรักษา เยียวยาได้สารพัดโรค เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคตับ โดยห้ามผู้ป่วยกินยา หรือพบแพทย์ แต่ให้รักษาตามวิธีของกลุ่มคลื่นพลังบุญ จนบางรายอาการทรุดลง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายต่อตัวผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดี สบส.จึงได้มอบหมายให้ตนนำทีมพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรม สบส. ร่วมคณะนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรมต.สาธารณสุข รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว ทพ.อาคม กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มคลื่นพลังบุญ เป็นการกระทำที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของผู้ป่วย เนื่องจากการรักษาพยาบาลไม่ว่าจะเป็นการแพทย์แผนปัจจุบัน หรือการแพทย์แผนไทย จะต้องกระทำโดยผู้ที่มีใบประกอบวิชาชีพ เพราะร่างกายมนุษย์มีความละเอียดอ่อน หากรักษาโดยบุคคลที่มิใช่แพทย์ ซึ่งขาดความเชี่ยวชาญ และมีกระบวนการรักษาที่ผิดจากมาตรฐานวิชาชีพ ย่อมก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายไม่มากก็น้อย นอกจากนี้ จะทำให้ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสที่จะได้รับการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง จนเป็นเหตุให้โรคลุกลาม หรืออาการกำเริบจนเป็นอันตรายต่อชีวิต อีกทั้งการกระทำดังกล่าวยังเข้าข่ายการเป็นหมอเถื่อน ซึ่งมีอัตราโทษทั้งจำคุกและปรับ ดังนั้นเพื่อคุ้มครองประชาชนจากหมอเถื่อนเหล่านี้ กรม สบส.จะดำเนินการออกหนังสือเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ถ้อยคำ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวอ้าง ก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ สบส.ย้ำเตือนให้ผู้ป่วยและญาติพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนรับบริการรักษาพยาบาล ไม่ว่ากรณีใดก็ตามขอให้เลือกรับบริการจากแพทย์ และสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น อย่าหลงเชื่อเพียงคำบอกเล่าปากต่อปาก หรือการโฆษณาอวดอ้าง ว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรค โดยเฉพาะการอวดอ้างว่า สามารถรักษาโรคติดต่อเรื้องรัง อย่างโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน หรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสามารถรักษาโรคเหล่านี้ให้หายขาดได้ หากพบเห็นขอให้ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง โอ้อวดเกินจริง ในพื้นที่ กทม.ให้แจ้งที่กรม สบส.โทร.02-193-7000 ในวันและเวลาราชการ แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการต่อไป อ่านข่าว : ค้านประกัน! ฝากขัง "มินนี่" พร้อมพวก พบผิดซ้ำซากไม่หลาบจำ โดน 3 ข้อหาหนัก! ครูชายอนาจารเด็กชายโพสต์รูปลงโซเชียล เปิดงบฯ ซื้อยา รพ.ทหารผ่านศึก - ป.ป.ท.เร่งสรุปคดีเอาผิด จนท.รัฐ

วันนี้ (30 ส.ค.2565) นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 48,432 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 64 ของความจุอ่าง ยังส