วันนี้ (6 พ.ค.2566) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกร
3 สิงหาคม 2025 - 23:55
วันนี้ (16 ก.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่อ
3 สิงหาคม 2025 - 23:55

วานนี้ (6 พ.ย.2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันหลังเหตุชุลมุนงานดนตรีแอนโทรเวิลด์ เฟสติวัล ซึ่งจัดขึ้นที่เอ็นอาร์จี พาร์ค (NRG Park) ในเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส ของสหรัฐอเมริกา เม

วันนี้ (28 ก.ค.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมควบคุมโรคว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2จากโรงพ

แนวโน้มการส่งออกช่วงที่เหลือของปี 2554 อาจขยายตัวชะลอลงมาที่ 13% ภาพรวมปี 2554 ประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกของไทยอยู่ที่ร้อยละ 20 โดยมีกรอบประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 17.0-22.0 มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 7 ล้านล้านบาท แนวโน้มการส่งออกช่วงที่เหลือของปี 2554 อาจขยายตัวชะลอลงมาที่ 13% การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2554 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 13 เดือนที่อัตราร้อยละ 38.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year) และมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21,521 ล้านดอลลาร์ฯ โดยการเติบโตสูงดังกล่าวเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่น การส่งออกทองคำที่ขยายตัวถึงกว่าร้อยละ 3,900 การส่งออกสินค้าเกษตรที่ยังเติบโตสูง ความต้องการนำเข้าสินค้าจากจีนที่เร่งตัวขึ้นอย่างมาก รวมทั้งผลของฐานเปรียบเทียบที่มีระดับต่ำในปีก่อนหน้า         ทั้งนี้ หากประเมินถึงปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตในเดือนกรกฎาคม ส่วนใหญ่อาจเป็นผลเพียงชั่วคราว โดยระดับการส่งออกในเดือนกรกฎาคมที่ไม่รวมทองคำ เมื่อขจัดผลของฤดูกาลแล้วพบว่าปรับตัวลดลงจากเดือนมิถุนายน (การส่งออกที่ไม่รวมทองคำในเดือนกรกฎาคมขยายตัวร้อยละ 32.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) นอกจากนี้ การส่งออกไปยังจีนมักมีความผันผวนรายเดือนค่อนข้างสูง ซึ่งการเติบโตสูงอย่างมากของการส่งออกไปยังจีนในเดือนนี้อาจสะท้อนการสะสมสินค้าคงคลังของธุรกิจในจีน ซึ่งเมื่อระดับสต็อกขึ้นไปถึงจุดหนึ่งความต้องการน่าจะชะลอลงในช่วงระยะต่อไป   นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยูโรโซนมีแนวโน้มอ่อนแรงลง ขณะที่หลายฝ่ายเริ่มกังวลต่อโอกาสที่สหรัฐฯ และยูโรโซนอาจถลำลงสู่ภาวะถดถอยรอบสอง หรือ Double-Dip Recession พร้อมๆ กัน แม้ว่าโอกาสความเป็นไปได้ของกรณีเลวร้ายที่สุดดังกล่าวอาจยังไม่สูงมากนักก็ตาม อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยน่าจะยังมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากญี่ปุ่น ความต้องการและราคาสินค้าเกษตรที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และทิศทางเศรษฐกิจเอเชียที่น่าจะยังเติบโตได้ค่อนข้างดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนี้น่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้พอสมควร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2554 อาจขยายตัวประมาณร้อยละ 13.0 โดยกรอบคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 6.0-17.5 แม้ว่าชะลอลงจากที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 25.7 ในช่วง 7 เดือนแรกของปี แต่ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ก็มีความเสี่ยงที่ความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนอาจกดดันให้ตัวเลขส่งออกในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้เติบโตต่ำลงเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียว   โดยภาพรวมทั้งปี 2554 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกของไทยอยู่ที่ร้อยละ 20 โดยมีกรอบประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 17.0-22.0 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 226,000 ถึง 236,000 ล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท แต่ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกนับว่าเป็นจุดที่เปราะบางและยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2554 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 13 เดือนที่อัตราร้อยละ 38.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year) และมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21,521 ล้านดอลลาร์ฯ โดยการเติบโตสูงดังกล่าวเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่น การส่งออกทองคำที่ขยายตัวถึงกว่าร้อยละ 3,900 การส่งออกสินค้าเกษตรที่ยังเติบโตสูง ความต้องการนำเข้าสินค้าจากจีนที่เร่งตัวขึ้นอย่างมาก รวมทั้งผลของฐานเปรียบเทียบที่มีระดับต่ำในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ หากประเมินถึงปัจจัยที่ผลักดันการเติบโตในเดือนกรกฎาคม ส่วนใหญ่อาจเป็นผลเพียงชั่วคราว โดยระดับการส่งออกในเดือนกรกฎาคมที่ไม่รวมทองคำ เมื่อขจัดผลของฤดูกาลแล้วพบว่าปรับตัวลดลงจากเดือนมิถุนายน (การส่งออกที่ไม่รวมทองคำในเดือนกรกฎาคมขยายตัวร้อยละ 32.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) นอกจากนี้ การส่งออกไปยังจีนมักมีความผันผวนรายเดือนค่อนข้างสูง ซึ่งการเติบโตสูงอย่างมากของการส่งออกไปยังจีนในเดือนนี้อาจสะท้อนการสะสมสินค้าคงคลังของธุรกิจในจีน ซึ่งเมื่อระดับสต็อกขึ้นไปถึงจุดหนึ่งความต้องการน่าจะชะลอลงในช่วงระยะต่อไป   นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยูโรโซนมีแนวโน้มอ่อนแรงลง ขณะที่หลายฝ่ายเริ่มกังวลต่อโอกาสที่สหรัฐฯ และยูโรโซนอาจถลำลงสู่ภาวะถดถอยรอบสอง หรือ Double-Dip Recession พร้อมๆ กัน แม้ว่าโอกาสความเป็นไปได้ของกรณีเลวร้ายที่สุดดังกล่าวอาจยังไม่สูงมากนักก็ตาม อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยน่าจะยังมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากญี่ปุ่น ความต้องการและราคาสินค้าเกษตรที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และทิศทางเศรษฐกิจเอเชียที่น่าจะยังเติบโตได้ค่อนข้างดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนี้น่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้พอสมควร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2554 อาจขยายตัวประมาณร้อยละ 13.0 โดยกรอบคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 6.0-17.5 แม้ว่าชะลอลงจากที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 25.7 ในช่วง 7 เดือนแรกของปี แต่ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ก็มีความเสี่ยงที่ความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนอาจกดดันให้ตัวเลขส่งออกในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้เติบโตต่ำลงเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียว   โดยภาพรวมทั้งปี 2554 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกของไทยอยู่ที่ร้อยละ 20 โดยมีกรอบประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 17.0-22.0 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 226บอลสด บุรีรัม,000 ถึง 236,000 ล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท แต่ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกนับว่าเป็นจุดที่เปราะบางและยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

แนวโน้มการส่งออกช่วงที่เหลือของปี 2554 อาจขยายตัวชะลอลงมาที่ 13% ภาพรวมปี 2554 ประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกของไทยอยู่ที่ร้อยละ 20 โดยมีกรอบประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 17.0-22.0 มีมูลค่าการส่งออกประ

วันนี้ (17 ธ.ค.2566) พิพิธภัณฑ์เดอะเมทโทรโพลิทัล มิวเซียม กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เตรียมส่งคืนโบรา