วันนี้ (9 ส.ค.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ

เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานพระรูปและลายพระหัตถ์เชิญพุทธศาสนสุภาษิต เป็นพระคติธรรมสำหรับความสุขปีใหม่
วันนี้ (18 ก.ย.2564) นายนาวี ช้างภิรมย์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ประกาศขายผีเสื้อ และนัดรับส่งสินค้าซาก
ปี 2022 เป็นอีกหนึ่งปีที่ปัญหามลพิษทางอากาศทั่วโลกอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศโลกฉบับล่าสุดที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทติดตามคุณภาพอากาศ IQAir พบว่า เมื่อปี 2022 มีประเทศและดินแดนที่มีคุณภาพอากาศตรงตามเกณฑ์แนะนำขององค์การอนามัยโลกเพียงแค่ 13 จากทั้งหมด 131 แห่งเท่านั้น มลพิษทางอากาศยังเป็นภัยคุกคามหลักต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลก แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากคุณภาพอากาศย่ำแย่กว่า 6 ล้านคน และมีต้นทุนทางเศรษฐกิจสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 270 ล้านล้านบาท คิดเป็นมากกว่า 6% ของ GDP โลก หลายพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินเกณฑ์แนะนำคุณภาพอากาศ โดยพื้นที่ที่เผชิญปัญหาหนักๆ กระจุกตัวอยู่ในแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจีนและเอเชียใต้ "ละฮอร์" ขเปลี่ยนหน้าไพ่ บา ค่า ร่าองปากีสถานกลายเป็นเมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2022 กระโดดขึ้นมามากกว่า 10 อันดับจากปีก่อนหน้า วัดความเข้มข้นของ PM2.5 ได้มากกว่า 97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) หรือเกือบ 20 เท่าของเกณฑ์แนะนำ ซึ่งอยู่ที่ไม่เกิน 5 มคก./ลบ.ม. ขณะที่ 50 อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของโลก เป็นเมืองที่อยู่ในอินเดียมากถึง 39 เมือง ตามมาด้วยปากีสถาน 4 เมือง จีน 2 เมือง และในอีก 5 ประเทศ ประเทศละ 1 เมือง ส่วนสถานการณ์มลพิษในระดับประเทศ รายงานคุณภาพอากาศโลกปี 2022 ระบุว่า "ชาด" เป็นประเทศในแอฟริกาที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ขึ้นแท่นประเทศที่มีคุณภาพอากาศย่ำแย่ที่สุดของโลก ตามมาด้วยอิรักและปากีสถาน ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนา สาเหตุหลักๆ ของปัญหามลพิษทั่วโลกมาจากปัญหาไฟป่า และการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลจากการคมนาคมขนส่งและการผลิตพลังงานต่างๆ แม้ภาพรวมของปัญหาทั้งโลกจะดีขึ้นเล็กน้อยจากความพยายามของภาครัฐและประชาชน แต่สิ่งหนึ่งที่น่ากังวล คือ โลกอาจยังไม่เห็นถึงสถานการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตถึงวิกฤตหมอกควันที่เกิดขึ้นในอเมริกาใต้ ตะวันออกกลางและโดยเฉพาะอย่างยิ่งแอฟริกา ว่าอาจมีการเก็บข้อมูลปัญหามลพิษไม่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันภูมิภาคเหล่านี้ยังขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องมือ โดยเฉพาะสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ความกังวลนี้สอดคล้องกับรายงานสถานการณ์ของ IQAir ที่ทุกๆ ครั้งที่มีการเก็บข้อมูลในประเทศใหม่ๆ ประเทศเหล่านั้นมักจะมีมลพิษในปริมาณสูงจนติดอันดับต้นๆ ของตาราง ส่วนสถานการณ์ในอาเซียน อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีมลพิษทางอากาศรุนแรงเป็นอันดับ 26 ของโลก ซึ่งถือว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดในบรรดาชาติสมาชิกอาเซียน ตามมาด้วยลาว เวียดนาม เมียนมาและไทย นับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาด เป็นเรื่องธรรมดาที่มลพิษจะน้อยลง เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆ แต่ที่น่าสังเกต คือ อินโดนีเซีย เมียนมาและไทย ค่าความเข้มข้นของ PM2.5 ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้วก็ตาม ต้นตอของปัญหามลพิษในภูมิภาคนี้ หลักๆ เป็นผลพวงมาจากการทำอุตสาหกรรม ผลิตไฟฟ้า การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะต่างๆ ไปจนถึงการเผาป่า รายงานคุณภาพอากาศโลก ระบุว่า เมื่อปี 2022 มีเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพียงแค่ 8 เมืองจากทั้งหมด 296 เมืองเท่านั้น ที่มีคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี-ตรงกับเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด หรือคิดเป็นเพียงแค่ 2.7% ของทั้งภูมิภาค ขณะที่ประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์ มีทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เอสโตเนีย ฟินแลนด์ เกรเนดา ไอซ์แลนด์ และอีก 7 ดินแดนในแปซิฟิกและแคริบเบียน ซึ่งจากนี้ต้องจับตาว่ายุคหลังโควิด-19 จะทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศกลับมาเลวร้ายเหมือนเดิมหรือไม่ วิเคราะห์โดย ทิพย์ตะวัน ธีรนัยพงศ์ อ่านข่าวอื่นๆ IQAir เปิดเผย "ชาด" ขึ้นอันดับ 1 ประเทศคุณภาพอากาศเฉลี่ยแย่ที่สุดในโลกปี 2565 ทะลุ100% ! อาร์เจนตินาเผชิญวิกฤตเงินเฟ้อรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี บราซิลพบ "หินพลาสติก" สะท้อนมลภาวะฝีมือมนุษย์
วันนี้ (21 ธ.ค.2566) นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษาจำ
วันนี้ (5 มิ.ย.2567) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์การเลือกสมาชิกว
วันนี้ (17 มี.ค.2564) นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ เฟซบุ๊ก Priny
ปี 2022 เป็นอีกหนึ่งปีที่ปัญหามลพิษทางอากาศทั่วโลกอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศโลกฉบับล่าสุดที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทติดตามคุณภาพอากาศ IQAir พบว่า เมื่อปี 2022 มีประเทศและดินแดนที่มีคุณภาพอากาศตรงตามเกณฑ์แนะนำขององค์การอนามัยโลกเพียงแค่ 13 จากทั้งหมด 131 แห่งเท่านั้น มลพิษทางอากาศยังเป็นภัยคุกคามหลักต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลก แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากคุณภาพอากาศย่ำแย่กว่า 6 ล้านคน และมีต้นทุนทางเศรษฐกิจสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 270 ล้านล้านบาท คิดเป็นมากกว่า 6% ของ GDP โลก หลายพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินเกณฑ์แนะนำคุณภาพอากาศ โดยพื้นที่ที่เผชิญปัญหาหนักๆ กระจุกตัวอยู่ในแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจีนและเอเชียใต้ "ละฮอร์" ขเปลี่ยนหน้าไพ่ บา ค่า ร่าองปากีสถานกลายเป็นเมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2022 กระโดดขึ้นมามากกว่า 10 อันดับจากปีก่อนหน้า วัดความเข้มข้นของ PM2.5 ได้มากกว่า 97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) หรือเกือบ 20 เท่าของเกณฑ์แนะนำ ซึ่งอยู่ที่ไม่เกิน 5 มคก./ลบ.ม. ขณะที่ 50 อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของโลก เป็นเมืองที่อยู่ในอินเดียมากถึง 39 เมือง ตามมาด้วยปากีสถาน 4 เมือง จีน 2 เมือง และในอีก 5 ประเทศ ประเทศละ 1 เมือง ส่วนสถานการณ์มลพิษในระดับประเทศ รายงานคุณภาพอากาศโลกปี 2022 ระบุว่า "ชาด" เป็นประเทศในแอฟริกาที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ขึ้นแท่นประเทศที่มีคุณภาพอากาศย่ำแย่ที่สุดของโลก ตามมาด้วยอิรักและปากีสถาน ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนา สาเหตุหลักๆ ของปัญหามลพิษทั่วโลกมาจากปัญหาไฟป่า และการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลจากการคมนาคมขนส่งและการผลิตพลังงานต่างๆ แม้ภาพรวมของปัญหาทั้งโลกจะดีขึ้นเล็กน้อยจากความพยายามของภาครัฐและประชาชน แต่สิ่งหนึ่งที่น่ากังวล คือ โลกอาจยังไม่เห็นถึงสถานการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตถึงวิกฤตหมอกควันที่เกิดขึ้นในอเมริกาใต้ ตะวันออกกลางและโดยเฉพาะอย่างยิ่งแอฟริกา ว่าอาจมีการเก็บข้อมูลปัญหามลพิษไม่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันภูมิภาคเหล่านี้ยังขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องมือ โดยเฉพาะสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ความกังวลนี้สอดคล้องกับรายงานสถานการณ์ของ IQAir ที่ทุกๆ ครั้งที่มีการเก็บข้อมูลในประเทศใหม่ๆ ประเทศเหล่านั้นมักจะมีมลพิษในปริมาณสูงจนติดอันดับต้นๆ ของตาราง ส่วนสถานการณ์ในอาเซียน อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีมลพิษทางอากาศรุนแรงเป็นอันดับ 26 ของโลก ซึ่งถือว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดในบรรดาชาติสมาชิกอาเซียน ตามมาด้วยลาว เวียดนาม เมียนมาและไทย นับตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาด เป็นเรื่องธรรมดาที่มลพิษจะน้อยลง เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆ แต่ที่น่าสังเกต คือ อินโดนีเซีย เมียนมาและไทย ค่าความเข้มข้นของ PM2.5 ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้วก็ตาม ต้นตอของปัญหามลพิษในภูมิภาคนี้ หลักๆ เป็นผลพวงมาจากการทำอุตสาหกรรม ผลิตไฟฟ้า การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะต่างๆ ไปจนถึงการเผาป่า รายงานคุณภาพอากาศโลก ระบุว่า เมื่อปี 2022 มีเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพียงแค่ 8 เมืองจากทั้งหมด 296 เมืองเท่านั้น ที่มีคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี-ตรงกับเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด หรือคิดเป็นเพียงแค่ 2.7% ของทั้งภูมิภาค ขณะที่ประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์ มีทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เอสโตเนีย ฟินแลนด์ เกรเนดา ไอซ์แลนด์ และอีก 7 ดินแดนในแปซิฟิกและแคริบเบียน ซึ่งจากนี้ต้องจับตาว่ายุคหลังโควิด-19 จะทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศกลับมาเลวร้ายเหมือนเดิมหรือไม่ วิเคราะห์โดย ทิพย์ตะวัน ธีรนัยพงศ์ อ่านข่าวอื่นๆ IQAir เปิดเผย "ชาด" ขึ้นอันดับ 1 ประเทศคุณภาพอากาศเฉลี่ยแย่ที่สุดในโลกปี 2565 ทะลุ100% ! อาร์เจนตินาเผชิญวิกฤตเงินเฟ้อรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี บราซิลพบ "หินพลาสติก" สะท้อนมลภาวะฝีมือมนุษย์
ปี 2022 เป็นอีกหนึ่งปีที่ปัญหามลพิษทางอากาศทั่วโลกอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศโลกฉบับล่าสุด