วันนี้ (2 ก.ย.65) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ ครั้งแรกหลังจากศาลสั่งให้ห

วันนี้ (16 พ.ค.2567) พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกุล ผกก.3 บก.ปคบ.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กต.3 สมอ. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.3 บก.ปคบ.และตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการคุ

วันนี้ (3 ก.พ.2568) การเลือกตั้งนายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ.เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา พรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยสามารถชิงเก้าอี้ไปได้ 10 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 9 ที่นั่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ 3 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 2 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 2 ที่นั่ง พรรคกล้าธรรม 1 ที่นั่ง และพรรคประชาชน 1 ที่นั่ง รศ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมือง และยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์  ได้กล่าวถึงภาพรวมสนามการเลือกตั้ง นายก อบจ. ว่ากำแพงของบ้านใหญ่ที่แน่นหนา เริ่มเกิดรอยรั่วรอยร้าว 1 จุด คือที่ จ.ลำพูน ถือว่าเป็นจุดที่อาจจะส่งผลกระทบต่อไปในอนาคตที่ทำให้กำแพงบ้านใหญ่ในจังหวัดอื่นๆ เกิดรอยร้าวขึ้นหนัก และขยายตัวในการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป ซึ่งถือว่าเป็นจุดความสำเร็จและเป็นจุดเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะเป็นจุดเล็กๆ และวิธีการบริหารของพรรคประชาชน ตั้งแต่มีการเลือกตั้งเสร็จได้ประกาศแนวทางการบริหาร ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารที่เรียกได้ว่าทำลายประเพณีการบริหารแบบบ้านใหญ่ แบบเดิมโดยสิ้นเชิง คือเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน และให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งจะส่งผลสะเทือนต่อการบริหารของ นายก อบจ.กลุ่มบ้านใหญ่ทั้งหลาย ถ้าเฉพาะเจาะจงที่พรรคประชาชน ครั้งนี้ถือว่าพรรคประชาชนไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งจังหวัดเป้าหมายเป็นจังหวัดที่พรรคประชาชนแพ้การเลือกตั้งโดยคะแนนห่างกันไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็นตราด เชียงใหม่ สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ซึ่งจังหวัดเหล่านี้พรรคประชาชนหมายมั่นปั้นมือ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดจากปัจจัยวันเลือกตั้งที่เป็นวันเสาร์ ทำให้ผู้มาใช้สิทธิลดลงเฉลี่ย 10% จากครั้งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2563 ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. 65% ซึ่งครั้งนี้ประมาณ 55% สำหรับคะแนนที่หายไปเรียกได้ว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคประชาชนไม่สามารถที่จะเอาชนะได้ ประกอบกับพรรคประชาชนเองอาจยังไม่มีพลังมากเพียงพอในแง่ของทีม อบจ.ที่จะไปกระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิและเปลี่ยนใจเลือกพรรคประชาชนจนทำให้ชนะในพื้นที่เป้าหมายหลัก อ่านข่าว : สรุปเลือกตั้ง อบจ.58.45% บัตรเสีย 5.69% เช็ก 5 จังหวัดใช้สิทธิมากสุด สำหรับเป้าหมายหลักขอเกม สล็อต ทุก ค่ายมา ส คา ร่า คิ้ว ได โซะงนายทักษิณ ชินวัตร คือการทวงคืนที่นั่งและทวงคืนความนิยมกลับคืนมาเหมือนในอดีต เพื่อก้าวไปสู่ 200 ที่นั่ง หรือมากกว่านั้นในการเลือกตั้งปี 2570 แต่การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ แพ้การเลือกตั้งอย่างน้อย 5 สนามใหญ่ที่เป็นสนามสำคัญ และเกือบแพ้ใน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย พรรคเพื่อไทยแพ้ไปด้วยคะแนนที่ไม่ห่างกันมากนัก ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างกลยุทธ์บ้านใหญ่ของพรรคเพื่อไทย และค่ายสีน้ำเงิน ซึ่งพลังสีน้ำเงินก็ยังมีความเข้มแข็งมากกว่า ส่วนตัวนายทักษิณเองไม่สามารถที่จะไปจุดกระแสให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกพรรคเพื่อไทยได้จึงเกิดความพ่ายแพ้ กรณีของ จ.เชียงใหม่ ลำพูน นายทักษิณได้ลงพื้นที่หลายครั้งและคะแนนที่ได้มาอาจจะไม่ได้เท่ากับที่คาดหวัง ซึ่งได้คะแนนใกล้เคียงกับปี 2563 เป็นการตอกย้ำที่ชัดเจนว่านายทักษิณไม่สามารถสร้างกระแสเพิ่มขึ้นได้ อย่างมากแค่ตรึงสถานะเดิมเอาไว้ และกรณี จังหวัดเล็กๆ อย่างลำพูน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เขตเมือง จะเห็นได้ว่าประสบความล้มเหลวซึ่ง จ.เชียงใหม่ ยังมีพื้นที่ชนบทห่างไกลหลายพื้นที่ เครือข่ายเดิมยังมีพลังอยู่พอสมควรจึงชนะได้อย่างเฉียดฉิว จ.ศรีสะเกษซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักที่นายทักษิณ หมายมั่นปั้นมือว่าจะช่วงชิงตำแหน่งคืน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่สามารถสู้เครือข่ายของค่ายสีน้ำเงินได้ ส่วนในแง่ของกระแส และนโยบาย ก็เช่นเดียวกัน การเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนให้เห็นชัดว่า ทักษิณไม่สามารถปลุกกระแสผู้คนให้มาสนับสนุนได้ดั่งเดิมแล้ว รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองว่าการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ไม่สามารถที่จะระบุได้ว่านายทักษิณ ชินวัตร สิ้นมนต์ขลัง หรือ ใครจะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือเลือกตั้งทั่วไป เพราะการเลือกตั้งในแต่ละครั้งมีปัจจัยที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกฎกติกาการเลือกตั้ง หรือการตัดสินใจเลือกผู้สมัครของประชาชน มองในมุมการเมืองท้องถิ่นกับระดับชาติแตกต่างกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไปเกี่ยวข้องกับบริบทสังคม และการเมืองในช่วงที่มีการเลือกตั้งด้วย จะเห็นได้ว่าหลายพื้นที่ เช่น จ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยมี สส.มากที่สุด ถึง 7 คน แต่ก็แพ้อย่างขาดลอยในสนามการเลือกตั้ง อบจ. หรือ จ.นนทบุรี สมุทรปราการ พรรคประชาชนก็กวาดยกจังหวัดในการเลือกตั้งปี 2566 แต่ก็ไม่ได้นายก อบจ.เช่นเดียวกัน ซึ่งในแต่ละครั้งมีเกมการเล่น ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีที่ต่างกัน จ.เชียงราย หลายคนคาดการณ์ว่าเพื่อไทยจะได้รับชัยชนะ แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ ซึ่งก่อนหน้านี้บริบทใน จ.เชียงราย เกิดน้ำท่วมใหญ่ และกระทรวงที่ลงพื้นที่ไปดูแล ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีบทบาทที่โดดเด่น หลังจากนี้แต่ละพรรคการเมือง มีโจทย์ที่ต้องกลับไปทำการบ้านกันต่อ เช่นเพื่อไทยต้องกลับไปทบทวนว่า หลายพื้นที่ที่เคยชนะ ว่ายุทธศาสตร์ที่ใช้นายทักษิณ ชินวัตร เป็นบทบาทนำในการหาเสียงจะต้องมีการไปปรับเช่นกัน หรือกรณีของพรรคประชาชน วันนี้ประสบความสำเร็จมากแล้ว 1 พื้นที่ คือ จ.ลำพูน และต้องใช้ลำพูนเป็นแซนด์บ็อกซ์เพื่อจะทำให้เห็นว่ามีการลงมือทำตามนโยบายจริงๆ ซึ่งจุดอ่อนของพรรคประชาชนที่ถูกตั้งคำถาม คือ ยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรม ซึ่งลำพูนจะเป็นโอกาสของพรรคประชาชน เพื่อเป็นบทพิสูจน์ เพื่อนำไปสู่ระดับชาติ พรรคภูมิใจไทย ที่หลายคนมองว่า "มาเงียบ แต่กินเรียบหมด" จะเห็นได้ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร แต่เป็นพรรคเป็นพวกกัน แต่โจทย์ของพรรคภูมิใจไทยวันนี้จะทำงานการเมืองในสไตล์เครือข่ายในระดับพื้นที่อย่างเดียวไม่พอ ต้องไปสู่การเมืองระดับชาติ หรือการเปิดพื้นที่การเมืองใน กรุงเทพด้วย ถ้ามีความต้องการเป็นแกนนำรัฐบาลในอนาคต รศ.ดร.ยุทธพร มองว่าสนามเลือกตั้งนายก อบจ. บ้านใหญ่ยังเป็นแชมป์อยู่ ซึ่งสะท้อนว่าการเมืองระดับท้องถิ่น มีความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เป็นเรื่องสำคัญ โจทย์ที่น่าสนใจประการหนึ่งคือหลายพื้นที่โหวตโนหรือไม่ประสงค์จะลงคะแนนเสียง และบัตรเสียสูงมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น จ.นครราชสีมา นั่นเป็นเพราะว่าตัวเลือกทางการเมืองของประชาชนไม่ค่อยมีหรือไม่ ถึงแม้ว่าบ้านใหญ่ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีจุดที่อยากจะเปลี่ยน ซึ่งสะท้อนออกมาจากบัตรโหวตโน และบัตรเสียเหล่านี้ สำหรับ ส.อบจ.บทบาทบ้านใหญ่ลดลงไปเยอะ หลายจังหวัดเลือกฝั่งตรงข้ามกับนายก อบจ. อาจจะเป็นเพราะเรื่องของกลไกถ่วงดุล พรรคประชาชน เสนอการเลือกตั้งวันเสาร์ทำให้คนเลือกตั้งลดลงไปเยอะ เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งสะท้อนว่า Saturday Effects มีผล แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะกาให้กับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นสมมุติฐานว่าคนที่ไม่ไปใช้สิทธิอาจจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ การเมืองท้องถิ่น กับระดับชาติมีความเกี่ยวพันกันอยู่แล้ว บางคนต้องการใช้ต่อยอดไปสู่การเมืองระดับชาติ หรือการเมืองระดับชาติลงสู่การเมืองท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้เป็นผลพรรคการเมืองส่งผู้สมัครและจะเกิดการครอบงำ ถ้าจะสร้างความเข้มแข็งการเมืองท้องถิ่นนั้น การเลือกตั้งเป็นเพียงมิติหนึ่ง ทั้งนี้จะต้องพูดถึงการกระจายอำนาจ ปฏิรูประบบราชการ รวมไปถึงการสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องประชาชนในทางเศรษฐกิจทางวัฒนธรรม อัตลักษณ์ชุมชนท้องถิ่นด้วย อ่านข่าว : ถอดรหัส ผลเลือกตั้ง อบจ. สมรภูมิ " 2 พรรค 1 ค่ายสีน้ำเงิน" ปชน.ชนะ ส.อบจ.132 คน เมินแดงกินส้ม จ่อร้องสอบปมบัตรเสียพุ่ง เลือกตั้ง อบจ. พบบัตรเสีย-โหวตโนยอดพุ่ง โคราช 1.1 แสนใบ

วันนี้ (3 ก.พ.2568) การเลือกตั้งนายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ.เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา พรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยสามารถชิงเก้าอี้ไปได้ 10 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 9 ที่นั่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ 3