วันนี้ (21 ก.ค.2566) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า

ผบ.ตร.ยันไม่ลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ยืนยันไม่ลาออกจากตำแหน่งตามที่มีกระแสข่าว ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานำแจกันดอกไม้เข้าไปอวยพร “พล.อ.เปรม”ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านพัก ผบ.ตร.ยันไม่ลาออกจากตำ
"น้องหมูเด้ง" หรือ ฮิปโปแคระ ที่กำลังเป็นดาวเด่นในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ปัจจุบันจัดเป็นอีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจแห่เข้าชมอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงขณะนี้ ยังสร้างมูล
"น้องอ้อม" น.ส.นันทพร ก้อนรัมย์ ตามฝันสำเร็จเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สาขาวิชาการสอนภาษาจีน กลายเป็นบัณฑิตพิการทางการมองเห็น คนแรกของประเทศไทยที่เรียนภาษาจีนโดยใช้อักษรเบรลล์ภาษาจีน เป็นสื่อหลักในการเรียนการสอนตลอดหลักสูตร ไทยพีบีเอสออนไลน์ชวน "น้องอ้อม นันทพร" พูดคุยถึงชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลย เพราะต้องผ่านหลายบททดสอบกับชีวิต "นันทพร" เล่าย้อนไปก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ว่า ตนเองมีความสนใจในเรียนภาษาอยู่แล้ว โดยในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย ตนมีความสนใจในเรื่องการร้องเพลง และเพลงที่ชอบจะเป็นเพลงภาษาจีน และเพลงลูกทุ่ง ในขณะนั้นโรงเรียนมัธยมปลายที่จะศึกษาต่อได้เปิดหลักสูตร ศิลป์ - ภาษาจีน จึงเลือกเรียนและเริ่มสนใจภาษาจีนตั้งแต่นั้นมา "เป็นคนแรก ๆ เหมือนกัน สำหรับผู้พิการทางสายตา ที่เรียนภาษาจีนในระดับมัธยมปลาย ส่วนใหญ่เพื่อนจะเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศส และเยอรมันมากกว่า" "นันทพร" ยังเล่าถึงเส้นทางการเข้ามหาวิทยาลัยว่า "ไม่ง่ายนัก" เธอต้องสอบสัมภาษณ์ และต้องใช้ความพยายามหลายอย่าง เพื่อพิสูจน์ว่าความพิการทางสายตาไม่เป็นอุปสรรคในการเรียน จนในที่สุดเธอได้รับโอกาสให้เข้าเรียนสาขาวิชาการสอนภาษาจีน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้สำเร็จ "การเรียนก็ได้รับความสนุบสนุนจากครอบครัวในทุกด้าน รวมไปถึง อาจารย์ เพื่อน ๆ ซึ่งทำให้รู้สึกมีความสุขกับการเรียนมาก และรู้สึกภูมิใจที่ได้เข้ามาเรียนในสาขาภาษาจีน" "นันทพร" ยังบอกว่า ด้วยตนเองมีพื้นฐานในการเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่มัธยมปลาย เมื่อเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก สิ่งที่ตนเองทำได้ดีที่สุด คือ การพูดภาษาจีน อาจมาจากความชื่นชอบร้องเพลงด้วย ส่สล็อต คือวนการออกเสียงไม่ค่อยมีปัญหา แต่มีจุดที่ยาก คือ การเขียนและการอ่าน ช่วงปีแรก เทอม 1 เข้ามาเรียนภาษาจีน เริ่มจากการฟังแผ่นซีดีที่มีติดมาจากในหนังสือก่อน เทอมถัดไปจึงได้เรียนใช้อักษรเบรลล์ภาษาจีนอย่างจริงจัง โดยมีเพื่อน ๆ ช่วยติว และอาจารย์คอยให้คำปรึกษาตลอดหลักสูตร ทำให้การเรียนเป็นด้วยความสนุกและราบรื่น "นันทพร" บอกว่า ตนเองมีพื้นฐานอักษรเบรลล์อยู่แล้ว ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทำให้การเรียนพอไปได้ แต่ก็มีติดขัดเหมือนกัน เช่น ภาษาจีนบางคำที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายคนละอย่างเป็นอะไรที่แยกยากมาก ต้องอาศัยเพื่อนที่สายตาปกติในการถามตอบข้อสงสัย การจดจำอักษรเบรลล์ภาษาจีนค่อนข้างยากในช่วงแรก ๆ ภาษาจีนพยัญชนะมีมากกว่า มีทั้งสระเดี่ยว และสระผสม กว่า 20 ตัว ขณะที่การเขียนภาษาจีนปัจจุบันก็ไม่ใช้ปัญหา เพราะมีเทคโนโลยี ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ลงโปรแกรมสามารถอ่านภาษาจีนและพิมพ์ไปที่เครื่องได้เลย แต่บ้างครั้งโปรแกรมที่แปลงคำอาจมีผิดเพี้ยนบ้าง ก็ต้องให้คนที่มองเห็นช่วยดูด้วย ในส่วนของการเรียนสาขาภาษาจีน สิ่งที่ชอบที่สุดคือ การได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรมของประเทศจีน เพราะยังมีหลายอย่างที่ยังไม่รู้ และชอบที่จะเรียนรู้เสมอ ความพิการทางสายตา ถือว่ามีอุปรรคอยู่บ้าง แต่ด้วยความชื่นชอบในภาษาจีน "นันทพร" จึงไม่เคยย่อท้อกับอุปสรรคที่เข้ามา หลังจบการศึกษา "นันทพร" ได้รับบทบาทใหม่ในการเป็น "ครู" ที่โรงเรียนคนตาบอดกรุงเทพฯ ต่อยอดทักษะด้านภาษาจีนให้เด็กรุ่นต่อไปได้เรียนรู้ต่อไป "นันทพร" บอกว่า อยากเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ รุ่นต่อไป มองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาเรียน เมื่อเห็นว่าตนเองทำได้ เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน ไม่อยากให้ยอมแพ้กับการเรียน ส่วนในอนาคตหากมีโอกาส ก็อยากที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ และท้าทาย ทั้งการแปล โดยเฉพาะนิยายจีน ที่ตนเองชื่นชอบ
แม้ความนิยมระดับเขตในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะสำคัญ (สัดส่วน ส
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความของ "อากู๋" และหลาน แถลงข่าว จากการเสียชีวิตของ 1 ใน 5 ผู้ต้อ
"น้องอ้อม" น.ส.นันทพร ก้อนรัมย์ ตามฝันสำเร็จเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สาขาวิ
"น้องอ้อม" น.ส.นันทพร ก้อนรัมย์ ตามฝันสำเร็จเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สาขาวิชาการสอนภาษาจีน กลายเป็นบัณฑิตพิการทางการมองเห็น คนแรกของประเทศไทยที่เรียนภาษาจีนโดยใช้อักษรเบรลล์ภาษาจีน เป็นสื่อหลักในการเรียนการสอนตลอดหลักสูตร ไทยพีบีเอสออนไลน์ชวน "น้องอ้อม นันทพร" พูดคุยถึงชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลย เพราะต้องผ่านหลายบททดสอบกับชีวิต "นันทพร" เล่าย้อนไปก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ว่า ตนเองมีความสนใจในเรียนภาษาอยู่แล้ว โดยในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย ตนมีความสนใจในเรื่องการร้องเพลง และเพลงที่ชอบจะเป็นเพลงภาษาจีน และเพลงลูกทุ่ง ในขณะนั้นโรงเรียนมัธยมปลายที่จะศึกษาต่อได้เปิดหลักสูตร ศิลป์ - ภาษาจีน จึงเลือกเรียนและเริ่มสนใจภาษาจีนตั้งแต่นั้นมา "เป็นคนแรก ๆ เหมือนกัน สำหรับผู้พิการทางสายตา ที่เรียนภาษาจีนในระดับมัธยมปลาย ส่วนใหญ่เพื่อนจะเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศส และเยอรมันมากกว่า" "นันทพร" ยังเล่าถึงเส้นทางการเข้ามหาวิทยาลัยว่า "ไม่ง่ายนัก" เธอต้องสอบสัมภาษณ์ และต้องใช้ความพยายามหลายอย่าง เพื่อพิสูจน์ว่าความพิการทางสายตาไม่เป็นอุปสรรคในการเรียน จนในที่สุดเธอได้รับโอกาสให้เข้าเรียนสาขาวิชาการสอนภาษาจีน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้สำเร็จ "การเรียนก็ได้รับความสนุบสนุนจากครอบครัวในทุกด้าน รวมไปถึง อาจารย์ เพื่อน ๆ ซึ่งทำให้รู้สึกมีความสุขกับการเรียนมาก และรู้สึกภูมิใจที่ได้เข้ามาเรียนในสาขาภาษาจีน" "นันทพร" ยังบอกว่า ด้วยตนเองมีพื้นฐานในการเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่มัธยมปลาย เมื่อเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก สิ่งที่ตนเองทำได้ดีที่สุด คือ การพูดภาษาจีน อาจมาจากความชื่นชอบร้องเพลงด้วย ส่สล็อต คือวนการออกเสียงไม่ค่อยมีปัญหา แต่มีจุดที่ยาก คือ การเขียนและการอ่าน ช่วงปีแรก เทอม 1 เข้ามาเรียนภาษาจีน เริ่มจากการฟังแผ่นซีดีที่มีติดมาจากในหนังสือก่อน เทอมถัดไปจึงได้เรียนใช้อักษรเบรลล์ภาษาจีนอย่างจริงจัง โดยมีเพื่อน ๆ ช่วยติว และอาจารย์คอยให้คำปรึกษาตลอดหลักสูตร ทำให้การเรียนเป็นด้วยความสนุกและราบรื่น "นันทพร" บอกว่า ตนเองมีพื้นฐานอักษรเบรลล์อยู่แล้ว ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทำให้การเรียนพอไปได้ แต่ก็มีติดขัดเหมือนกัน เช่น ภาษาจีนบางคำที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายคนละอย่างเป็นอะไรที่แยกยากมาก ต้องอาศัยเพื่อนที่สายตาปกติในการถามตอบข้อสงสัย การจดจำอักษรเบรลล์ภาษาจีนค่อนข้างยากในช่วงแรก ๆ ภาษาจีนพยัญชนะมีมากกว่า มีทั้งสระเดี่ยว และสระผสม กว่า 20 ตัว ขณะที่การเขียนภาษาจีนปัจจุบันก็ไม่ใช้ปัญหา เพราะมีเทคโนโลยี ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ลงโปรแกรมสามารถอ่านภาษาจีนและพิมพ์ไปที่เครื่องได้เลย แต่บ้างครั้งโปรแกรมที่แปลงคำอาจมีผิดเพี้ยนบ้าง ก็ต้องให้คนที่มองเห็นช่วยดูด้วย ในส่วนของการเรียนสาขาภาษาจีน สิ่งที่ชอบที่สุดคือ การได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรมของประเทศจีน เพราะยังมีหลายอย่างที่ยังไม่รู้ และชอบที่จะเรียนรู้เสมอ ความพิการทางสายตา ถือว่ามีอุปรรคอยู่บ้าง แต่ด้วยความชื่นชอบในภาษาจีน "นันทพร" จึงไม่เคยย่อท้อกับอุปสรรคที่เข้ามา หลังจบการศึกษา "นันทพร" ได้รับบทบาทใหม่ในการเป็น "ครู" ที่โรงเรียนคนตาบอดกรุงเทพฯ ต่อยอดทักษะด้านภาษาจีนให้เด็กรุ่นต่อไปได้เรียนรู้ต่อไป "นันทพร" บอกว่า อยากเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ รุ่นต่อไป มองเห็นโอกาสที่จะเข้ามาเรียน เมื่อเห็นว่าตนเองทำได้ เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน ไม่อยากให้ยอมแพ้กับการเรียน ส่วนในอนาคตหากมีโอกาส ก็อยากที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ และท้าทาย ทั้งการแปล โดยเฉพาะนิยายจีน ที่ตนเองชื่นชอบ
จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ ข่าวสํานักงานรัฐมนตรี ศธ. ได้โพสต์รูปภาพของ "กนกวรรณ วิลาวัลย์" รมช.ศึกษาธิการ