การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ที่เปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ผ่า
วันนี้ (10 พ.ค.2567) ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับตำรวจ สภ.ช้างกลาง ติดตามจับกลุ่มผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุอุ้มฆ่า น.ส.สุดารัตน์ สามารถจับผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุได้ 6 คน ทั้งยังขยายผล พบจุดท
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ที่เปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ผ่านมาแล้ว 3 วัน คอการเมืองที่นั่งฟังมาเกือบ 40 ชั่วโมงไม่ผิดหวัง ทั้งวิวาทะที่ทั้งพรรคฝ่ายค้าน ผู้ถูกอภิปราย และพรรคร่วมรัฐบาล ต่างงัดขึ้นมาฟาดฟันกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน หนีไม่พ้นสีสันการเตรียมพร็อพมาเรียกเสียงฮาทั้งในและนอกสภา คู่แรกใช้ “ภาษากาย” เรียกเสียงหัวเราะและลดโทนความตึงเครียดในสภา แต่กลับแฝงไว้ด้วยร่องรอยคำถาม เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงฝ่ายค้านปมนาฬิกายืมเพื่อน และตอบโต้หลังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวของกับการรัฐประหาร เมื่อปี 2557 พร้อมผายมือไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่นั่งอยู่ข้างๆ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยกมือขึ้นรับทันที ส่วนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าไฮ ไล ท์ ประตู บอล เมื่อ คืนพรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ไม่แผ่วมาตั้งแต่วันแรก นอกสภา 2 วันก่อน พกไม้เรียวกับแส้มาโบย เพื่อลงโทษนายกรัฐมนตรี เมื่อถึงคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ได้นำ “พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร” ขึ้นมาโชว์กลางสภา พร้อมระบุว่า ในฐานะ ส.ส.ที่ประชาชนเลือกมาและไม่ซื้อเสียง ขอพูดแทนคนไทย 60 ล้านคน อีกหนึ่งสีสันคือการอภิปรายของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งช่วงหนึ่งของการอภิปรายได้ยก “กระจก” ขึ้นมา พร้อมระบุว่า เป็นสิ่งที่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะการปิดคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิสะท้อนความรู้สึก อ่านข่าวอื่นๆ “ผมต้องรับผิดชอบ ผมเป็นคนทำ" นายกฯ ยกมือรับปฏิวัติเอง "มงคลกิตติ์” อุ้มพระกลางสภาขอบิณทบาตให้ "ประยุทธ์" ลาออก "ประวิตร" ยันไม่เกี่ยวปฏิวัติ ไม่ได้แทรกแซง ป.ป.ช.ปิดคดี "นาฬิกายืมเพื่อน"
แน่นอนว่าหลาย ๆ คนจะต้องเคยเผชิญกับความวิตกกังวลในการสัมภาษณ์งาน นัดเดต หรือการพูดในที่สาธารณะ แต่ความก้าวหน้าครั้งใหม่ของเทคโนโลยี AI จะเข้ามาช่วยทำให้สถานการณ์เหล่านั้น ตึงเครียดน้อยลง เทคโนโลยีใหม่