กองปราบฯ ค้นบ้าน ตำรวจกองปราบปูพรมค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.อุทัยธานี 12 จุด รวมทั้งบ้านของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.จังหวัดอุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา โยงคดียิงผู้กำกับ สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เมื่อปี 255
“ในสมัยน้าชาติ (พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ) เป็นนายกรัฐมนตรี เคยพูดว่า เราต้องทำให้ประเทศกลุ่มอินโดจีน พ้นจากความยากจน ก็สงสัยว่า ทำไม ท่านก็อธิบายว่า การค้าขาย ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าแตะ เสื้อยืด หรือ อาหาร ค
กองปราบฯ ค้นบ้าน ตำรวจกองปราบปูพรมค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.อุทัยธานี 12 จุด รวมทั้งบ้านของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.จังหวัดอุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา โยงคดียิงผู้กำกับ สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เมื่อปี 2554 กองปราบฯ ค้นบ้าน ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดกองปราบปราม นำกำลังจำนวน 1 กองร้อย กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.อุทัยธานี รวม 12 จุด แบ่งเป็น เขตอำเภอเมือง 4 จุด และอำเภอสว่างอารมณ์ 8 จุด พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่าหลังได้รับร้องเรียนว่าในพื้นที่ จ.อุทัยธานี เกิดเหตุอาชญากรรม โดยเฉพาะการใช้อาวุธปืนบ่อยครั้ง รวมถึงคดีสำคัญอย่างคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผู้กำกับกับสถานีตำรวจภูธรไทรงาม จ.กำแพงเพชร ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตหน้าบ้านพักใน จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 หนึ่งในจุดสำคัญที่ตำรวจเข้าตรวจค้น คือ บ้านพักของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งทางการสืบสวนของตำรวจคาดว่าอาจเป็นที่หลบซ่อนตัวของ นายนิรันดร์ พึ่งสำเภา ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ และมีข้อมูลว่ารู้จักกับนายชาดา จากการเข้าตรวจค้นไม่พบนายชาดาและนายนิรันดร์ภายในบ้านพัก พบเพียง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี น้องสาวนายชาดาที่พักอยู่บ้านหลังนี้ แต่พบปืนและเครื่องกระสุนที่มีทะเบียนถูกต้อง จำนวน 1 กระบอก น.ส.มนัญญา เปิดเผยว่าไม่เคยพบเห็นและรู้จักนายนิรันดร์เข้ามาที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่ทราบว่าจะรู้จักกับนายชาดาหรือไม่ แต่เนื่องจากนายชาดาเคยเป็น ส.ส. อาจจะรู้จักคนเป็นจำนวนมาก ส่วนที่หลายคนมองว่าตระกูลไทยเศรษฐ์เป็นผู้มีอิทธิพลใน จ.อุทัยธานี ก็เชื่อว่าคนที่รู้จักครอบครัวจะไม่มองเช่นนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกที่เห็นว่าเป็นคนมีอิทธิพล สำหรับจังหวัดอุทัยธานีนั้น พบว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลประมาณ 2-3 กลุ่ม ซึ่งวันนี้ตำรวจกองปราบปรามได้ปิดล้อมตรวจค้นทั้งหมด และจะนำผลการตรวจค้นมาแถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานีในช่วงสายวันนี้ (23 ก.ค.2558) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดกองปราบปราม นำกำลังจำนวน 1 กองร้อย กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน จ.อุทัยธานี รวม 12 จุด แบ่งเป็น เขตอำเภอเมือง 4 จุด และอำเภอสว่างอารมณ์ 8 จุด พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่าหลังได้รับร้องเรียนว่าในพื้นที่ จ.อุทัยธานี เกิดเหตุอาชญากรรม โดยเฉพาะการใช้อาวุธปืนบ่อยครั้ง รวมถึงคดีสำคัญอย่างคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผู้กำกับกับสถานีตำรวจภูธรไทรงาม จ.กำแพงเพชร ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตหน้าบ้านพักใน จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 หนึ่งในจุดสำคัญที่ตำรวจเข้าตรวจค้น คือ บ้านพักของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งทางการสืบสวนของตำรวจคาดว่าอาจเป็นที่หลบซ่อนตัวของ นายนิรันดร์ พึ่งสำเภา ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุยิง พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ และมีข้อมูลว่ารู้จักกับนายชาดา จากการเข้าตรวจค้นไม่พบนายชาดาและนายนิรันดร์ภายในบ้านพัก พบเพียง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี น้องสาวนายชาดาที่พักอยู่บ้านหลังนี้ แต่พบปืนและเครื่องกระสุนที่มีทะเบียนถูกต้อง จำนวน 1 กระบอก น.ส.มนัญญา เปิดเผยว่าไม่เคยพบเห็นและรู้จักนายนิรันดร์เข้ามาที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่ทราบว่าจะรู้จักกับนายชาดาหรือไม่ แต่เนื่องจากนายชาดาเคยเป็น ส.ส. อาจจะรู้จักคนเป็นจำนวนมาก ส่วนที่หลายคนมองว่าตระกูลไทยเศรษฐ์เป็ฝาก 10 รับ 100 บา คา ร่านผู้มีอิทธิพลใน จ.อุทัยธานี ก็เชื่อว่าคนที่รู้จักครอบครัวจะไม่มองเช่นนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกที่เห็นว่าเป็นคนมีอิทธิพล สำหรับจังหวัดอุทัยธานีนั้น พบว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลประมาณ 2-3 กลุ่ม ซึ่งวันนี้ตำรวจกองปราบปรามได้ปิดล้อมตรวจค้นทั้งหมด และจะนำผลการตรวจค้นมาแถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานีในช่วงสายวันนี้ (23 ก.ค.2558)
หากกล่าวถึงความมั่นคงที่ส่งผลกระทบไทย จุดที่เด่นชัดในขณะนี้น่าจะอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่สอด, อำเภอท่าสองยางและอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เป็นหลัก เนื่องจากฝั่งตรงข้ามคือรัฐกะเหรี่ยง จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียน
วันนี้ (16 ก.ย.2567) นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแบ่งงาน "รองนาย
