ปักหมุด สถานที่เวียนเทียน "วันวิสาขบูชา 2567"

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2564 เกิดเหตุชุลมุนในซอยรัชดา 32 หลังกลุ่ม REDEM ยุติชุมนุม แต่มีผู้ชุมนุมบางส่วนอยู่ต่อ เป็นเหตุให้ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ชี้ผู้ชุมนุมขว้างปาวัตถุคล้ายระเบ

"รัฐบาลชุดนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าเศรษฐกิจอวกาศมันอยู่ในสายตาที่พิจารณาอยู่แล้ว และน่าจะมี

วันนี้ (6 พ.ค.2568) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประชาสัมพันธ์การให้รางวัลแก่ผู้ชี้เบาะแสการกระทำที่ไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ตามระเบียบคณะกรรมการ

"รัฐบาลชุดนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าเศรษฐกิจอวกาศมันอยู่ในสายตาที่พิจารณาอยู่แล้ว และน่าจะมีโอกาสที่จะทำรายได้ให้กับประเทศไทย แต่ต้องกลับมาดูทำและความเข้าใจก่อนว่าเศรษฐกิจของโลกมันมีโครงสร้าง มีหน้าตา" รายการคุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น มีโอกาสมานั่งคุยสบายๆ กับ "ดร.พงศธร สายสุจริต" ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน - อวกาศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คนไทยคนแรกที่สร้างดาวเทียมสัญชาติไทย ซึ่งมีความมุ่งมั่นจะสร้างยานอวกาศไปสู่ดวงจันทร์ รวมทั้งมุมมองอนาคต ประเทศไทยที่รัฐบาลจะต้องเตรียมรับกับความท้าทายด้านนโยบายเศรษฐกิจอวกาศในอนาคตว่าจะมีทิศทางอย่างไร ดร.พงศธร เปิดประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง "อวกาศ" กับ "เศรษฐกิจ" ให้ฟังว่า เศรษฐกิจอวกาศโลก เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือที่เรียกว่า "Old Space" แต่ปัจจุบันเราจะได้ยินคำว่า "New Space" ซึ่งสามารถแบ่งตลาดเศรษฐกิจอวกาศเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ "สหรัฐอเมริกา" ที่มีระบบนิเวศอุตสาหกรรมอวกาศที่สร้างขึ้นมาหลังสงครามโลกแบบแข็งแรงมาก , กลุ่มที่ 2 "สหภาพยุโรป" เป็นระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศของตัวเองอย่างชัดเจน ,กลุ่มที่ 3 "รัสเซีย และ จีน" ที่จะต้องพยายามคานอำนาจสองฝ่าย และกลุ่มที่ 4 "the rest of the world" โดยไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ยังไม่พัฒนาทางด้านอวกาศ แต่หากดูในกลุ่มนี้จะมี อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ที่ถือเป็นประเทศเจริญแล้ว แต่มีคำถามว่า…ประเทศญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญและทุ่มเทกับอุตสาหกรรมอวกาศ มานานกว่า 60 กว่าปี ทำไมยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ 4 นั่นเป็นเพราะประเทศที่อยู่ใน 3 กลุ่มนั้น ได้มีอำนาจควบคุมตลาดเกือบทั้งหมดของโลกไปแล้ว (the rest of the world) ดังนั้นแม้ว่าญี่ปุ่น จะพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศเพื่อใช้ในประเทศ หรือส่งไปขายก็จะได้เพียงประเทศที่อยู่ในโซนใกล้กัน เช่น UAE เวียดนาม แต่จะไม่ใช่ประเทศใน 3 กลุ่ม ส่วนจะเข้าไปสู่ตลาดนี้ได้อย่างไร จะขายให้ใคร?...ดร.พงศธร บอกว่า "ถ้าเราจะขายเทคโนโลยีอวกาศ เป้าหมายของเราจะกลายเป็นกลุ่มที่ 4" ที่มีประเทศรุ่นพี่ยักษ์ใหญ่นำหน้าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย ,จีน และสิงคโปร์ หากให้วิเคราะห์ว่าเส้นทางไหนยากกว่า เส้นทางไหนเป็นไปได้มากกว่า ดร.พงศธร เห็นว่า หากประเทศไทยเลือกเส้นทางแรก...ที่เคยทำมา คือรับจ้างผลิต แต่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจะเป็นเหมือนอุตสาหกรรมรถยนต์หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ตอบได้ "ถ้าเราไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี เราจะไม่มีวันร่ำรวยจากสิ่งนี้ แต่เราจะมีเงินใช้ เป็นประเทศที่เป็นเหมือนเดิม เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง มีงานทำ จับจ่ายซื้อของได้ แต่ไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวย" ดร.พงศธร สายสุจริต ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน - อวกาศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดร.พงศธร สายสุจริต ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน - อวกาศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ….ทางเลือกที่สอง เป็นทางเลือกที่ยาก เหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ท้ายที่สุดเราจะเป็นประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่ร่ำรวย "ถ้าเรามีกินท้องอิ่มวันนี้ ก็เลือกเส้นทางเก่า แต่ถ้าจะเลือกอดทน เพื่ออนาคตที่ดี ก็เลือกเส้นทางที่สอง แต่มันก็จะยากลำบาก แต่เชื่อว่าเราทำได้" ดร.พงศธร กล่าวว่า สิ่งที่คิดอยู่ไม่ได้เกินตัว สำหรับประเทศไทย ยกตัวอย่าง ประเทศอินเดีย ที่แม้จะเลือกเส้นทางแรก คือ รับจ้างผลิตชิ้นส่วน แต่ยังมีการวางแผนไปสู่เส้นทางที่สอง ด้วยการเป็นเจ้าของเทคโนโลยี การโชว์ศักยภาพบุคลากรของคนในประเทศที่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีขึ้นสูง ด้วยการส่งยานอวกาศไปสำรวจดวงจันทร์ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นประเทศที่ 4 ของโลก สหภาพโซเวียต ,สหรัฐอเมริกา, และจีน ด้วยความรู้ความสามารถด้านบุคลากร เทคโนโลยีขั้นสูง ค่าแรงที่ถูกกว่า จึงทำให้กลุ่มประเทศในยุโรปเลือกที่จะไปตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนดาวเทียมที่ประเทศอินเดีย "ไม่ง่ายสำหรับประเทศไทยหากจะเลือกแนวทางแรก เพราะเรามีคู่แข่ง เช่นเดียวกับเวียดนาม ก็มีการสร้างดาวเทียมภายในประเทศ ซื้อดาวเทียมใช้ และใช้เทคโนโลยีอวกาศกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นเราก็มีคู่แข่งอีกหลายที่" อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปดูนิยามของ "สนธิสัญญาอวกาศของโลก" ดร.พงศธร ระบุว่า เป็นดินแดนที่มนุษยชาติ หรือใครก็ได้สามารถไปหาประโยชน์ได้ ดังนั้นเมื่อกลายเป็นโลก "New Space" ที่ไม่ใช่แค่ประเทศมหาอำนาจแสวงหาผลประโยชน์จากอวกาศ แต่ประเทศอื่น ๆ เริ่มรู้สึกว่า หากตัวเองไม่ไปใช้ประโยชน์ถือว่าเสียเปรียบ จึงเป็นที่มาว่าหลายๆ ประเทศทำไมจึงพยายามที่จะไปสู่อวกาศเพื่อค้นหาโอกาสใหม่ๆ ถามว่า ทำไมถึงคิดแบบนั้น… ดร.พงศธร มองว่า หากเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คิดว่าประเทศไทยยังไม่ตกขบวน หรืออาจจะอยู่ในประเทศต้นๆ ของกลุ่มที่ 4 แต่วันนี้ ประเทศไทยรั้งท้ายและใกล้ตกขบวน ถ้าจะไม่ตกขบวน จะต้องตามให้ทันด้วยเวลาอันสั้น นั่นหมายความว่า มันมีสิ่งที่เราต้องเสียไปพอสมควร สอดคล้องกับทรัพยากรด้านการเงิน และบุคลากร เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ก็น่าเป็นห่วงเพราะอยู่ในสภาพ "Old Space" รวมถึงงบประมาณของรัฐก็มีแบบจำกัด ดังนั้นหากจะทำก็จะต้องวางแผนอย่างเป็นระบบ สิ่งที่น่าเป็นกังวลในขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่มีแนวทางขับเคลื่อนชัดเจน ส่งผลให้มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะ "นักวิศวะ" "นักฟิสิกส์" ไม่สามารถพัฒนาหลักสูตรสร้างคนให้สอด คล้องกับทิศทางนโยบายรัฐบาล หากประเทศไทยเลือกที่จะเดินตามแนวทางรับจ้างผลิต ก็จะต้องผลิตบุคลากรเพื่อมารองรับอุตสาหกรรมรูปแบบนี้ แต่หากเลือกจะเป็นเจ้าของเทคโนโลยี การพัฒนาคนก็จะเป็นไปอีกแบบ"ในขณะที่เรากำลังลังเลว่าเราจะไปแบบไหน เราจะทำหรือไม่ทำ เราก็สูญเสียโอกาสไปมากพอสมควร" แต่หากถามว่าจะต้องเลือกแนวทางไหน…มองว่าจะเลือกทั้งสองแนวทาง ต้องทำคู่กันในสัดส่วนที่เหมาะสม "ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเรามองไปในเรื่องของโครงสร้างวิศวกรรมขนาดใหญ่ ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่ดี เพราะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทำให้คนในชาติฮึกเหิม แต่สิ่งนั้นเป็นกรอบด้านนอก แต่เนื้อในถ้าเราไม่มาคิดถึงรายละเอียดว่าเราจะไปต่อยังไง สุดท้ายเราก็จะไม่มีอะไรเหมือนเดิม" ในฐานะที่เป็นคนทำดาวเทียมสัญชาติไทยรุ่นแรก ต่อมาก็พยายามฝันสร้างยานอวกาศไปดวงจันทร์ ในแง่ของการผลักดันประเทศไทยให้อยู่ในตำแหน่งไหนของเวทีโลก ถ้ารัฐบาลคุยด้วยจะเสนออย่างไร ดร.พงศธร บอกว่า ปัญหาของประเทศไทยไม่ใช่เรื่องเทคนิค แต่อยู่ที่การตัดสินใจ เราจะทำอะไร ทำอะไรให้ดีกว่า ทำอะไรให้สำเร็จก่อน หากประเทศไทยตั้งใจที่จะต้องมีอุตสาหกรรมอวกาศ ต้องมีกลุ่มคนที่พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศให้ได้ ต้องตัดสินใจอย่างมุ่งมั่น หรือหากต้องการเป็นศูนย์กลางในการสร้างดาวเทียมขาย ชิ้นส่วนจรวดขาย ไทยก็ต้องวางแนวทางอย่างจริงจัง ประเทศไทยจะทำหรือไม่ และจะทำอะไร คือโจทย์ของรัฐบาล ดร.พงศธร เชื่อว่า เอกชนพร้อมร่วมลงทุน หากรัฐบาลส่งเสริมผลักดัน พร้อมกำหนดแผนอย่างชัดเจน 10 ปี, 20 ปี, 30 ปี เพื่อเป็นแรงจูงใจสำหรับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ "พอทุกอย่างมันไม่ชัดเจน ไม่ได้ออกแบบมาเป็นระบบ เราจึงไม่สามารถดึงศักยภาพคนเก่ง ๆ ให้มาช่วยงานได้ อย่างเรื่องเศรษฐกิจอวกาศหากรัฐบาลการันตีว่า "ต่อไปนี่รัฐบาลจะเป็นลูกค้า จากนี้ไปอีก 25 ปี เราจะมีดาวเทียมปีละ 10 ดวง สมมุติเราจะใช้เงิน 1 หมื่นล้านบาท คิดต่อเนื่องไปถึง50 ปี พร้อมประกาศว่ารัฐบาลจะเป็นลูกค้า" "รัฐ" เป็นคนที่ใช้และได้ประโยชน์ เพราะเป็นคนกำหนดคุณสมบัติดาวเทียม เช่น ดาวเทียมดูน้ำท่วม ,ดาวเทียมดู PM 2.5 ,ดาวเทียมดูไฟป่า, ดาวเทียมสื่อสารความเร็วสูง ซึ่งจะทำให้คนเก่งๆ รวมตัวกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ จากนั้นจะเกิดผู้ประกอบการธุรกิจกลุ่มย่อย ๆ มีคำถามว่า เหตุใดไทยต้องไปดวงจันทร์? ทั้งที่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนยังไม่ดีขึ้นเลย ... ดร.พงศธร กล่าวว่า เมื่อครั้งที่มีนักวิชาการออกมาบอกว่า "คนไทยจะไปดวงจันทร์" ตนเองได้ติดตาม และอ่านหลายความเห็นว่า ทำไมไม่ทำถนนให้ดีก่อน ,โรงเรียนห้องน้ำยังไม่สะอาดเลย, ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชาติยังไม่ดีเลย" "ทำไมจะต้องเอาเงินไปทำในสิ่งที่ไม่รู้จะสำเร็จเมื่อไหร่" ส่วนตัวเข้าใจกับความคิดของทุกคน แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะบอกว่าตัวเองก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน ในสมัยที่เป็นนักเรียน ยังคิดเลยว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ประเทศร่ำรวยเท่านั้นที่จะทำ แต่พอผ่านมาระดับหนึ่ง ทำให้เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลประเทศเหล่านั้นถึงพยายามที่จะทุ่มเงิน ทุ่มเวลา ทุ่มทรัพยากรในการสร้าง เพราะสุดท้ายแล้วมันจะย้อนกลับมาในรูปแบบต่างๆ มากมาย ที่คืนทุน เศรษฐกิจจะดีขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เพียงแต่มันมองยาก เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันยังไม่เห็นทันที และอุปสรรคที่ยากไม่ใช่เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี แต่เป็นความเข้าใจของคนในชาติ ฉะนั้นต้องสร้างการรับรู้ เชื่อว่าทุกคนอยากได้ ทุกคนเห็นว่ามันคอร์ดเพลง ค้น สล็อตแมชชีนคาสิโน มาเก๊า ขั้นต่ำ เท่าไหร่คาสิโน มาเก๊า ขั้นต่ำ เท่าไหร่ ดู ผล หวย หุ้น ดาวโจนส์ วิธี สมัคร เล่น บา คา ร่า สล็อต สมาชิกใหม่ ฟรีเครดิตดี แต่ก็เข้าใจได้ว่าทำไมรัฐบาลจึงลังเล เนื่องด้วยทรัพยากร ภาษีประชาชนมีอย่างจำกัด ซึ่งก็ต้องอยู่ที่การจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณ เพราะ "อวกาศ"ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่ คือ อนาคต เศรษฐกิจ ปากท้องของประเทศไทย พบกับรายการ:คุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 21.30-22.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

วันนี้ (18 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เปิดให้บริการตรวจคัดกรอง COVID-19 ให้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ บุคลากรในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงประชาชนทั่วไป ที่มี