กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่องสำนักงานการบ

วันนี้ (9 ก.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ด.ต.ภูวเมศร์ ตำรวจสังกัดตำรวจท่องเที่ยว มีพฤติกรรมเรียกรับเงินผลประโยชน์จากผู้ประกอบการสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี ล่าสุด ภรรยาของ ด.ต.
จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพชายกลุ่มหนึ่งออกเรือตกปลาและใช้ปืนยิงฉลาม ก่อนโพสต์ลงในโซเชียลจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ วันที่ 14 มิ.ย.2564 ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจน้ำกระบี่ นำตัวนา
วันนี้ (7 พ.ย.2564) รศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทีมอาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย หรือ RUN (Research University Network) ดำเนินโครงการวิจัย "การพัฒนาและประเมินผลของการบริโภคเจลลี่ นาตา โพรไบโอติก ที่ส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจของผู้สูงวัยจากน้ำสับปะรด” รศ.ดร.ชาลีดา หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า เจลลี่ นาตา โพรไบโอติกส์ เป็นเจลลี่ธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการนำน้ำสับปะรด ไปหมักจุลินทรีย์ชนิดหนึ่ง แล้วเติมจุลินทรีย์ probiotics ชนิดที่เหมาะสมเข้าไป ในกระบวนการหมัก จุลินทรีย์จะสร้างวุ้นที่มีลักษณะเป็นใยอาหาร (Bacterial Cellulose) ขึ้นมา ซึ่งเป็นจุลินทรีย์กลุ่มเดียวกับที่ใช้ผลิตวุ้นมะพร้าว แบบที่เรียกว่า nata de coco ที่เกิดจากการหมักด้วยจุลินทรีย์กับน้ำมะพร้าว โดยไม่ใช้ผงวุ้น เราจึงหมักน้ำสับปะรดและคัดเลือกระยะการสร้างใยอาหารที่เหมาะสม กระบวนการนี้สามารถคงคุณค่าทางสารอาหารของสับปะรด และจุลินทรีย์ที่ดียังผลิตสารอาหารให้ไว้ในวุ้นที่ได้ด้วย ทั้งยังมีใยอาหารชนิดดี พรีไบโอติกส์ (prebiotics) ที่ช่วยในกระบวนการขับถ่าย และเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ รวมถึงโพรไบโอติกส์ (probiotics) ซึ่งช่วยผลิตสารสำคัญที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันและรักษาภูมิคุ้มกันในร่างกายให้เป็นปกติ รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้จุลินทรีย์บางกลุ่ม ผลิตสารที่ช่วยลดความเครียดสะสมในร่างกายได้ แม้จะเน้นวิจัยเพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเป็นหลัก แต่คุณประโยชน์ต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์ก็เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศและวัย รศ.ดร.ชาลีดา และทีมวิจัยได้ค้นคว้างานวิจัยต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางสร้างมูลค่าให้สับปะรดเพิ่มเติมจากรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ มีงานวิจัยหลายชิ้นก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า น้ำสับปะรดมีเอนไซม์ที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างน้ำสับปะรดสดกับน้ำสับปะรดที่หมักด้วยจุลินทรslotxo28ีย์ดี พบว่าน้ำสับปะรดหมัก มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น มากกว่าน้ำสับปะรดที่ไม่ผ่านการหมักหลายเท่า รศ.ดร.ชาลีดา อ้างอิงถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่งในต่างประเทศว่า กลุ่มอาสาสมัครที่เป็นทหารและมีภาวะความเครียดสะสมและความวิตกกังวล (anxiety disorder) รับประทานจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่มีประโยชน์ที่เลือกใช้ในงานวิจัยนี้ ผลงานวิจัยดังกล่าวพบว่า สภาวะจิตใจของอาสาสมัครดีขึ้น ความเครียดสะสมในร่างกายลดลง การนอนหลับก็ดีขึ้น จึงเป็นจุดที่ทำให้เราสนใจศึกษากระบวนการแปรรูปน้ำสับปะรดที่มีอยู่ล้นตลาด โดยวิธีการหมักร่วมกับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ที่อาจมีภาวะความเครียดสะสม เนื่องจากอายุที่มากขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายที่ช้าลง และความอยากอาหารที่น้อยลงจนมีผลต่อสุขภาพ ทีมวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ศึกษาทดลองผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการ (Lab scale) ภายในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จนกระทั่งได้กรรมวิธีในการผลิตที่เสถียร จึงขยายการผลิตไปยังศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านโรงงานต้นแบบแปรรูปอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬา ฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่พื้นที่จุฬาฯ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ครั้งละ 1,000 ขวด จากนั้นจึงส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ทีมวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปทดสอบกับอาสาสมัครผู้สูงวัย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ ทีมวิจัยได้ทดลองให้อาสาสมัคร รับประทานผลิตภัณฑ์วันละ 1 ขวด (ขนาดบรรจุ 30 กรัม – ขนาดเท่ากับขวดเครื่องดื่มรังนก) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านการชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ การลดความเครียด และอื่น ๆ โดยเก็บข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับเครื่องดื่ม "เจลลี่ นาตา โพรไบโอติกส์" และกลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่เป็นตัวหลอก (placebo) เบื้องต้นราคาน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับสินค้าประเภท functional drink อื่น ๆ และเครื่องดื่มประเภทนมเปรี้ยวและโยเกริ์ต ทั้งยังสามารถวางตำแหน่งของสินค้าในตลาดได้หลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้สูงวัย คนทำงาน วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา คนรักสุขภาพ และผู้ที่ต้องเผชิญกับภาวะเครียดสะสม รศ.ดร.ชาลีดา กล่าวเสริมถึงโอกาสทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ว่า ผู้ประกอบการยังสามารถใช้เครื่องดื่มชนิดนี้ เป็นฐานในการผลิต functional drink เพื่อผลลัพธ์อื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยการเปลี่ยนตัวโพรไบโอติกส์เป็นจุลินทรีย์ชนิดอื่น เช่น กลุ่มที่ช่วยชะลอและลดความเสี่ยงต่อโรคในช่องปาก หรือกลุ่มที่ช่วยเรื่องสุขภาพผิว หรือเสริมสารอาหารประเภทอื่นๆ ที่มีประโยชน์ลงไป ก็จะสามารถขยายไลน์ของผลิตภัณฑ์และกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น หลังการวิจัยและทดสอบซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ “เจลลี่ นาตา โพรไบโอติกส์” และกำลังดำเนินการจดสิทธิบัตร สำหรับภาคเอกชนที่สนใจต้องการลงทุนเพื่อต่อยอดหรือผลิตจำหน่าย สามารถติดต่อไปยังสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) ได้โดยตรง หลังจากโครงการเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งทางคณะวิจัยพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิตและจำหน่ายได้ทันที อ่านข่าวอื่น ๆ เริ่มปี' 65 ไฟเขียว "บัตรทอง" ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว สวนดุสิตโพล พบ "ข้าวต้มมัด" ยอดฮิตขนมมัดใจคนไทย
วันนี้ (7 พ.ย.2564) รศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ม
วันนี้ (2 ส.ค.2566) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนออกมาชุมนุมกดดันพรรค
นายวิชิต ไตรสรณกุล อดีตนายกองค์การบริหารบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ หลายสมัย ระบุว่า รู้สึกหนักใจกับกา
วันนี้ (7 พ.ย.2564) รศ.ดร.ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล ภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทีมอาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย หรือ RUN (Research University Network) ดำเนินโครงการวิจัย "การพัฒนาและประเมินผลของการบริโภคเจลลี่ นาตา โพรไบโอติก ที่ส่งเสริมสุขภาวะทางจิตใจของผู้สูงวัยจากน้ำสับปะรด” รศ.ดร.ชาลีดา หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า เจลลี่ นาตา โพรไบโอติกส์ เป็นเจลลี่ธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการนำน้ำสับปะรด ไปหมักจุลินทรีย์ชนิดหนึ่ง แล้วเติมจุลินทรีย์ probiotics ชนิดที่เหมาะสมเข้าไป ในกระบวนการหมัก จุลินทรีย์จะสร้างวุ้นที่มีลักษณะเป็นใยอาหาร (Bacterial Cellulose) ขึ้นมา ซึ่งเป็นจุลินทรีย์กลุ่มเดียวกับที่ใช้ผลิตวุ้นมะพร้าว แบบที่เรียกว่า nata de coco ที่เกิดจากการหมักด้วยจุลินทรีย์กับน้ำมะพร้าว โดยไม่ใช้ผงวุ้น เราจึงหมักน้ำสับปะรดและคัดเลือกระยะการสร้างใยอาหารที่เหมาะสม กระบวนการนี้สามารถคงคุณค่าทางสารอาหารของสับปะรด และจุลินทรีย์ที่ดียังผลิตสารอาหารให้ไว้ในวุ้นที่ได้ด้วย ทั้งยังมีใยอาหารชนิดดี พรีไบโอติกส์ (prebiotics) ที่ช่วยในกระบวนการขับถ่าย และเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ รวมถึงโพรไบโอติกส์ (probiotics) ซึ่งช่วยผลิตสารสำคัญที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันและรักษาภูมิคุ้มกันในร่างกายให้เป็นปกติ รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้จุลินทรีย์บางกลุ่ม ผลิตสารที่ช่วยลดความเครียดสะสมในร่างกายได้ แม้จะเน้นวิจัยเพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเป็นหลัก แต่คุณประโยชน์ต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์ก็เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศและวัย รศ.ดร.ชาลีดา และทีมวิจัยได้ค้นคว้างานวิจัยต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางสร้างมูลค่าให้สับปะรดเพิ่มเติมจากรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ มีงานวิจัยหลายชิ้นก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า น้ำสับปะรดมีเอนไซม์ที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างน้ำสับปะรดสดกับน้ำสับปะรดที่หมักด้วยจุลินทรslotxo28ีย์ดี พบว่าน้ำสับปะรดหมัก มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น มากกว่าน้ำสับปะรดที่ไม่ผ่านการหมักหลายเท่า รศ.ดร.ชาลีดา อ้างอิงถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่งในต่างประเทศว่า กลุ่มอาสาสมัครที่เป็นทหารและมีภาวะความเครียดสะสมและความวิตกกังวล (anxiety disorder) รับประทานจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่มีประโยชน์ที่เลือกใช้ในงานวิจัยนี้ ผลงานวิจัยดังกล่าวพบว่า สภาวะจิตใจของอาสาสมัครดีขึ้น ความเครียดสะสมในร่างกายลดลง การนอนหลับก็ดีขึ้น จึงเป็นจุดที่ทำให้เราสนใจศึกษากระบวนการแปรรูปน้ำสับปะรดที่มีอยู่ล้นตลาด โดยวิธีการหมักร่วมกับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ที่อาจมีภาวะความเครียดสะสม เนื่องจากอายุที่มากขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายที่ช้าลง และความอยากอาหารที่น้อยลงจนมีผลต่อสุขภาพ ทีมวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ศึกษาทดลองผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการ (Lab scale) ภายในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จนกระทั่งได้กรรมวิธีในการผลิตที่เสถียร จึงขยายการผลิตไปยังศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านโรงงานต้นแบบแปรรูปอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬา ฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่พื้นที่จุฬาฯ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ครั้งละ 1,000 ขวด จากนั้นจึงส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ทีมวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปทดสอบกับอาสาสมัครผู้สูงวัย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ ทีมวิจัยได้ทดลองให้อาสาสมัคร รับประทานผลิตภัณฑ์วันละ 1 ขวด (ขนาดบรรจุ 30 กรัม – ขนาดเท่ากับขวดเครื่องดื่มรังนก) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านการชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ การลดความเครียด และอื่น ๆ โดยเก็บข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มอาสาสมัครที่ได้รับเครื่องดื่ม "เจลลี่ นาตา โพรไบโอติกส์" และกลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่เป็นตัวหลอก (placebo) เบื้องต้นราคาน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับสินค้าประเภท functional drink อื่น ๆ และเครื่องดื่มประเภทนมเปรี้ยวและโยเกริ์ต ทั้งยังสามารถวางตำแหน่งของสินค้าในตลาดได้หลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้สูงวัย คนทำงาน วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา คนรักสุขภาพ และผู้ที่ต้องเผชิญกับภาวะเครียดสะสม รศ.ดร.ชาลีดา กล่าวเสริมถึงโอกาสทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ว่า ผู้ประกอบการยังสามารถใช้เครื่องดื่มชนิดนี้ เป็นฐานในการผลิต functional drink เพื่อผลลัพธ์อื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยการเปลี่ยนตัวโพรไบโอติกส์เป็นจุลินทรีย์ชนิดอื่น เช่น กลุ่มที่ช่วยชะลอและลดความเสี่ยงต่อโรคในช่องปาก หรือกลุ่มที่ช่วยเรื่องสุขภาพผิว หรือเสริมสารอาหารประเภทอื่นๆ ที่มีประโยชน์ลงไป ก็จะสามารถขยายไลน์ของผลิตภัณฑ์และกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น หลังการวิจัยและทดสอบซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ “เจลลี่ นาตา โพรไบโอติกส์” และกำลังดำเนินการจดสิทธิบัตร สำหรับภาคเอกชนที่สนใจต้องการลงทุนเพื่อต่อยอดหรือผลิตจำหน่าย สามารถติดต่อไปยังสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) ได้โดยตรง หลังจากโครงการเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งทางคณะวิจัยพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิตและจำหน่ายได้ทันที อ่านข่าวอื่น ๆ เริ่มปี' 65 ไฟเขียว "บัตรทอง" ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว สวนดุสิตโพล พบ "ข้าวต้มมัด" ยอดฮิตขนมมัดใจคนไทย
วันนี้ (2 มี.ค.2564) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์