วันนี้ (13 มี.ค. 2564) ผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมเดินทะลุฟ้า v.2 โดยรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพื่อเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล มีรายละเอียดดังนี้ 14.00 น. ผู้ชุมนุมที่จัดกิจกรรมเดินทะล
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม วิเคราะห์ยุทธวิธีกองทัพรัสเซีย-ยูเครน หลังเข้าสู่วันที่ 7 ของการสู้รบและการบุกยูเครน ท่ามกลางการวางกำลังทหารตามแนวชายแดนของรัสเซียอยู่ที่ เบลารุส และไครเมีย
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม วิเคราะห์ยุทธวิธีกองทัพรัสเซีย-ยูเครน หลังเข้าสู่วันที่ 7 ของการสู้รบและการบุกยูเครน ท่ามกลางการวางกำลังทหารตามแนวชายแดนของรัสเซียอยู่ที่ เบลารุส และไครเมีย เหมือนคีมที่ล้อมรอบยูเครนอยู่ หากย้อนไปช่วง 3 วันแรก สะท้อนให้เห็นภาพว่ารัสเซียเดินหน้าบุกยูเครนจากฝั่งเบราลุสเป็นหลัก คู่ขนานกับการมุ่งเข้าเคียฟจากอีก 2 ฟากฝั่ง ก่อนที่ 3 วันต่อมาจะพบว่า "การบุufa game168กเข้าเคียฟไม่เป็นผล" จากภาวะความเป็นผู้นำของ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของกำลังรบส่วนหน้าของยูเครนให้คว้าชัยชนะในศึกครั้งแรกไปได้ ล่าสุด รัสเซียเตรียมกองกำลังทหารก๊อกสองด้วยกระบวนรถทหารรัสเซียที่เคลื่อนพลด้วยความยาวกว่า 60 กิโลเมตร จะเข้ามาแก้ปัญหาก๊อกแรกที่ติดขัด เพื่อพิชิตเคียฟและเมืองอื่น ๆ ซึ่งวันนี้กองทัพรัสเซียยึดเมือง "เคอร์สัน" ทางใต้ของยูเครนได้เพิ่ม แต่การรุกเข้าเมือง "เคียฟ" ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของรัสเซีย "เพราะเมืองหลวงคือสัญลักษณ์ของการทำสงคราม และชัยชนะ" พล.อ.นิพัทธ์ มองว่า แม้กองทัพยูเครนจะถูกดูแคลนจากสายตาคนทั่วโลก ขณะเดียวกันรัสเซียยังประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป ส่งผลให้การปฏิบัติการของรัสเซียไม่เป็นไปตามแผน และรถยานเกราะของกองทัพรัสเซียกำลังตกอยู่ในวงล้อมของยูเครนแทน ด้วยสมรภูมิรบในเมืองใหญ่ทำให้รถถังกลายเป็นข้อจำกัด เพราะคนในรถมองไม่เห็นสภาพแวดล้อม ยุทธวิธีกองโจรของยูเครนกับการโจมตีของประชาชนในซอกซอยจึง "สอยรถถัง" สร้างความเสียหายให้รัสเซียเป็นอย่างมาก ไม่ต่างจากอากาศยานที่ถูกจรวดทำลายไปแล้วหลายลำ ก้าวต่อไปในสนามรบของรัสเซีย อาจจะแก้เกมด้วยการยกระดับเป็นการทำลายล้างอย่างหนัก จากสัญญาณที่รัสเซียส่งไปยังชาวเมืองเคียฟว่าให้อพยพออกจากพื้นที่ ก่อนจะปฏิบัติการทำลายอาคารครั้งใหญ่ เริ่มจากการถล่มสถานีโทรทัศน์ในยูเครน ก่อนจะไล่เรียงไปตามสถานที่ต่าง ๆ พล.อ.นิพัทธ์ วิเคราะห์ว่า จุดเปลี่ยนของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เริ่มเกิดขึ้นช่วง 09.00 น. วันนี้ตามเวลาประเทศไทย หลัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศถ้อยแถลงโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็ม และในช่วงเวลาเดียวกันได้พูดถึงแนวทางการช่วยเหลือยูเครนถึง 20 นาที โดยย้ำว่า จะเดินหน้าสร้างเอกภาพทั้งนาโต้และสหภาพยุโรป พร้อมกับการเชิญเอกอัครราชทูตยูเครนร่วมรับฟังการแถลงด้วย พล.อ.นิพัทธ์ มองว่า ไบเดน ได้เอ่ยคำพูดที่ไม่ต้องถอดรหัสว่า พร้อมจะสนับสนุนการสู้รบของยูเครน ซึ่งวันนี้ถือว่ายังไม่สายเกินไปที่สหรัฐฯ จะเข้ามาฟื้นยูเครนให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.ปีก่อน สหรัฐฯ สนับสนุนยูเครนในการโจมตีรัสเซียมาโดยตลอดด้วยภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลข่าวสาร เปรียบเหมือนสปายชั้นดี และเมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวของรัสเซียก็ถูกโจมตีด้วยไซเบอร์ แอทแทค (Cyber attacks) จากกลุ่มที่ประกาศตัวว่าเป็นบุคคลนิรนามอีกด้วย ส่วนข่าวประกาศรับสมัครอาสาต่างชาติร่วมรบนั้น พล.อ.นิพัทธ์ มองว่า ประการแรก ยูเครนต้องการเล่นข่าวให้คนทั่วโลกหันมามองและเห็นใจ อีกประการ คือ เป็นวิธีทำให้กองกำลังต่างชาติเข้ามาร่วมรบได้ ซึ่งวันนี้มีรายงานข่าวว่าอดีตหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (Seal) หรือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ (SAS) ของอังกฤษ สามารถเข้ามาร่วมรบผ่านช่องทางนี้ได้ ขณะเดียวกัน ก็ไม่สามารถดูแคลนกำลังรบของยูเครนในลักษณะกองโจรได้ โดยเฉพาะ "โมโลตอฟ" ซึ่งทำจากขวดน้ำมันและชนวนที่เป็นผ้า โจมตีด้วยการขว้างเข้าไปในช่องระบายอากาศของเครื่องยนต์รถถัง รถเกราะ เพื่อให้ขวดแตก แล้วน้ำมันจะไหลซึมลงไปก่อนที่ไฟจะตามเข้าไปด้วย อาวุธจากภูมิปัญญานี้กลายเป็นอาวุธที่ชาวโลกต่างยกย่องยูเครน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ย้ำว่า เป้าหมายปลายทางของปูติน คือการทำให้ยูเครนและรัสเซียกลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะยูเครนเปรียบเสมือนยุ้งฉางของรัสเซีย การันตีด้วยยอดส่งออกข้าวสาลีอันดับต้น ๆ ของโลก ขณะเดียวกันปูติน ยังติดอยู่ในภาพเก่าสงครามเย็นและคิดว่า "เราเคยเป็นทองแผ่นเดียวกัน จึงควรอยู่ด้วยกันเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ซึ่งต่างจากมุมมองของยูเครนที่ประกาศเอกราชมาตั้งแต่ปี 1991 แล้ว และท่าทีของผู้นำยูเครนคนปัจจุบันก็พยายามนำยูเครนเดินหน้ากระชับสัมพันธ์กับชาติฝั่งยุโรป ทำให้รัสเซียมองว่าเป็นการตีตัวออกห่าง ทั้งนี้ การเจรจาหรือพูดคุยระหว่างสองฝ่ายที่จัดขึ้นที่ชายแดน แม้จะมีข่าวออกมาว่าไม่มีความคืบหน้า แต่แท้จริงแล้วมีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกัน ซึ่งตีความได้ว่า ไมตรีต่าง ๆ ของทั้งรัสเซียและยูเครนยังหลงเหลืออยู่ ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครน ก็ได้ออกมาขอให้จีนเป็นตัวช่วยเจรจากับปูติน ซึ่งจุดนี้อาจกลายเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การยุติสงครามได้
กลุ่มต่อต้านบุกบ้านเกิด กองกำลังของสภาเพื่อการถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติหรือ เอ็นทีซี ของลิเบีย บุกเมืองเซิร์ตบ้านเกิดของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบียที่ถูกขับออกจากตำแหน่ง กลุ่มต่อต้านบุกบ้านเกิด
วันนี้ (2 ก.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลายพื้นที่ของจ.ภูเก็ต เกิดฝนตกลงมาอ