วันนี้ (28 พ.ค.2567) กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) โดย สำน

วันนี้ (24 ก.พ.2568) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเปิดประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อพิจารณาว่าจะรับคดีเกี่ยวกับการฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และร
วันนี้ (12 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมพยาบาลวิชาชีพหอผู้ป่วยแยกโรค โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ สวมชุดอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลแบบเต็มรูปแบบอย่างรัดกุม ทั้งชุด PPE และ อุปกรณ์ชุดพัดล
นับเป็นครั้งแรกของโลกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA ของมนุษย์ที่อยู่ในวัตถุอายุกว่า 20,000 ปี ได้สำเร็จ โดยวัตถุชิ้นนี้เป็นฟันของกวางขนาดใหญ่ที่มนุษย์ถ้ำยุคโบราณนำมาเจาะรูเพื่อสวมเป็นสร้อยคอ โดย DNA ที่นักวิทยาศาสตร์ได้มานั้น มีต้นกำเนิดมาจากเหงื่อไคลของผู้สวมใส่สร้อยที่ทำจากฟันกวางชิ้นนี้ ซึ่งได้ฝังอยู่ภายในถ้ำมาเป็นเวลากว่า 20,000 ปี ผลตรวจ DNA เผยว่าเจ้าของสร้อยนั้นเป็นมนุษย์สายพันธุ์โฮโมเซเปียนส์ (Homo Sapiens) จากกลุ่มคนยุคโบราณทางตอนเหนือของทวีปเอเชียและยุโรป (Ancient North Eurasian) ที่ได้อาศัยอยู่ในถ้ำเดนิโซวา (Denisova) เมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับยุคหินเก่า สมัยที่มนุษย์ยังคงล่าสัตว์หาของป่าและโยกย้ายถิ่นฐานไปเรื่อย ๆ กลุ่มจากนักวิจัยจากสถาบัน Max Planck ผู้ค้นพบ DNA โบราณนี้กล่าวว่า ปกติแล้วนักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA จากวัตถุที่มนุษย์สัมผัสได้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ตรวจสอบ DNA ของมนุษย์เก่าแก่ถึงได้มากขนาดนี้มาก่อน เนื่องจากถ้ำเดนิโซวานั้นตั้งอยู่ในแถบไซบีเรีย ทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ซึ่งค่อนข้างมีสภาพอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี ทำให้การย่อยสลายของสิ่งของภายในถ้ำนั้นเกิดขึคา สิ โน ช่องสะงํา pantip้นได้ยาก โดยกลุ่มนักวิจัยนี้ได้เปิดเผยผลงานครั้งสำคัญชิ้นนี้ในวารสาร Nature ฉบับเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเทคนิคการตรวจ DNA จากวัตถุโบราณโดยที่ไม่ต้องทำลายวัตถุชิ้นนั้นได้สำเร็จเป็นครั้งแรกอีกด้วย ที่มาข้อมูล: Max Planck Institute ที่มาภาพ: Max Planck Institute “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (23 ก.พ.2565) ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ตัวที่ 2 ของประเทศไทย ที่เน้นลงทุนใน
วันนี้ (30 เม.ย.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการกรุงปักกิ่งของจีน เปิดเผยว่า จะมีการบังคับ
นับเป็นครั้งแรกของโลกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA ของมนุษย์ที่อยู่ในวัตถุอายุกว่า 20,000 ปี ได้สำ
นับเป็นครั้งแรกของโลกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA ของมนุษย์ที่อยู่ในวัตถุอายุกว่า 20,000 ปี ได้สำเร็จ โดยวัตถุชิ้นนี้เป็นฟันของกวางขนาดใหญ่ที่มนุษย์ถ้ำยุคโบราณนำมาเจาะรูเพื่อสวมเป็นสร้อยคอ โดย DNA ที่นักวิทยาศาสตร์ได้มานั้น มีต้นกำเนิดมาจากเหงื่อไคลของผู้สวมใส่สร้อยที่ทำจากฟันกวางชิ้นนี้ ซึ่งได้ฝังอยู่ภายในถ้ำมาเป็นเวลากว่า 20,000 ปี ผลตรวจ DNA เผยว่าเจ้าของสร้อยนั้นเป็นมนุษย์สายพันธุ์โฮโมเซเปียนส์ (Homo Sapiens) จากกลุ่มคนยุคโบราณทางตอนเหนือของทวีปเอเชียและยุโรป (Ancient North Eurasian) ที่ได้อาศัยอยู่ในถ้ำเดนิโซวา (Denisova) เมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับยุคหินเก่า สมัยที่มนุษย์ยังคงล่าสัตว์หาของป่าและโยกย้ายถิ่นฐานไปเรื่อย ๆ กลุ่มจากนักวิจัยจากสถาบัน Max Planck ผู้ค้นพบ DNA โบราณนี้กล่าวว่า ปกติแล้วนักวิทยาศาสตร์สามารถสกัด DNA จากวัตถุที่มนุษย์สัมผัสได้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ตรวจสอบ DNA ของมนุษย์เก่าแก่ถึงได้มากขนาดนี้มาก่อน เนื่องจากถ้ำเดนิโซวานั้นตั้งอยู่ในแถบไซบีเรีย ทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ซึ่งค่อนข้างมีสภาพอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี ทำให้การย่อยสลายของสิ่งของภายในถ้ำนั้นเกิดขึคา สิ โน ช่องสะงํา pantip้นได้ยาก โดยกลุ่มนักวิจัยนี้ได้เปิดเผยผลงานครั้งสำคัญชิ้นนี้ในวารสาร Nature ฉบับเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเทคนิคการตรวจ DNA จากวัตถุโบราณโดยที่ไม่ต้องทำลายวัตถุชิ้นนั้นได้สำเร็จเป็นครั้งแรกอีกด้วย ที่มาข้อมูล: Max Planck Institute ที่มาภาพ: Max Planck Institute “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (24 มี.ค.2564) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ CO