Home
|
วิเคราะห์บอลยูโรโปรตุเกสกับเยอรมัน

วันนี้ (1 ก.ค.2567) นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อ

วิเคราะห์บอลยูโรโปรตุเกสกับเยอรมัน

ทีมสหราชอาณาจักรฯ คว้าแชมป์กอล์ฟวีวองดี เซบี โทรฟี่ ทีมสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ ชนะทีมยุโรป 15.5 คะแนน ต่อ 12.5 คะแนน ให้ทีมสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ คว้าแชมป์กอล์ฟวีวองดี เซบี โทรฟี่ 2011 ทีมสหราช

วันนี้ (18 พ.ค.2566) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ประเมินว่า ภายในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ โลกจะร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม และจะร้อนในระดับนั้นอยู่อย่างน้อย 1 ปี ทำให้ระหว่างช่

“หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย “หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ  ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน”  จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ  กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน    การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ  กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เกิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราะห์บทเรียน โดยกระบวนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครั้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ  ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน”  จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ  กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน    การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ  กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เกิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราวิเคราะห์บอลยูโรโปรตุเกสกับเยอรมันะห์บทเรียน โดยกระบวนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครั้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล

เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.67) เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู เข้าช่วยเหลือนางสมหวัง เยี่ยมเอก อายุ 66 ปี พร้อ

“หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย “หมอประเวศ” แนะยึดภารก

ที่ดิน 136 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ระกา ต.หนองปลิง อ.เมืองกำแพงเพชร คือ สถานที่ฝังกลบขยะในเขต

“หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย “หมอประเวศ” แนะยึดภารกิจ 7 ประการ ใช้จังหวัดเป็นฐาน ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ  ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน”  จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ  กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน    การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ  กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เกิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราะห์บทเรียน โดยกระบวนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครั้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ  ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) วบรรยายพิเศษในงานประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเตรียมกระบวนการสมัชชาปฏิรูประดับจังหวัด พื้นที่ภาคกลางหัวข้อ “การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทยโดยใช้จังหวดเป็นฐาน”  จัดโดยสำนักงานปฏิรูป (สปร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคมนำไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรงและจลาจลในทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาจำเป็นต้อง “ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ” ที่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำได้โดยประชาชนร่วมปฏิรูป 3 ระดับ ได้แก่ ปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปประดับองค์กร และปฏิรูประดับนโยบาย ศ.นพ.ประเวศ  กล่าวว่า ปฏิรูปตัวเอง คือ ต้องมีสำนึกในศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นคน ปฏิรูปประดับองค์กร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำในระดับชุมชน ตั้งสภาผู้นำชุมชนและสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของชุมชน เช่น ความยากจน สิ่งแวดล้อม ส่วนปฏิรูประดับนโยบาย จะเป็นการสังเคราะห์และร่วมผลักดันนโยบายโดยประชาชน    การที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตัวเองนั้น ในทุกหมู่บ้าน ควรมีการรวมตัวของผู้นำ เป็นสภาผู้นำชุมชน สำรวจข้อมูลชุมชน แล้วนำข้อมูลมาทำแผนพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ ทั้งด้านเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษา จากนั้นนำแผนมาเสนอต่อคนในหมู่บ้าน ออกความเห็นร่วมกัน เป็นกระบวนการประชาธิปไตยชุมชน ซึ่งเป็นประชาธิปไตยทางตรง ต่างกับประชาธิปไตยท้องถิ่นและประชาธิปไตยระดับชาติที่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อม มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง“นโยบายบริหารประเทศส่วนใหญ่ที่คิดมาจากข้างบน ไม่สามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การร่วมคิดแผนหรือนโยบายที่มาจากข้างล่าง จะเป็นการกำหนดโดยคนทั้งประเทศ แก้ปัญหาได้จริง ประชาชนในชุมชนก็สามารถร่วมขับเคลื่อนตามแผนนโยบายได้ สังคมก็จะเดินหน้าได้ มีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยสมาฉันท์ ซึ่งแตกต่างจากแผนและนโยบายที่มาจากภาครัฐ ที่ประชาชนขับเคลื่อนไม่ถูก”ศ.นพ.ประเวศ  กล่าว ประธาน คสป. กล่าวต่อว่า ในการที่ท้องถิ่นจัดการตัวเอง จะต้องทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์กรท้องถิ่นเข้มแข็ง แล้วให้ไปหนุนและผลักดันให้เกิดนโยบายที่มาจากชุมชน ส่วนจังหวัดจัดการตัวเอง จะเป็นศูนย์ประสานงาน ขับเคลื่อนในรูปแบบภาคีพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการ ยึดให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง มีภารกิจ 7 ประการ คือ 1.การสำรวจข้อมูลจังหวัด 2.ทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ 3.ประสานงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ 4.สนับสนุนให้เกิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด 5.ถอดบทเรียน และต่อยอดขึ้น 6.มีการสื่อสารภายในจังหวัด และ 7. จัดสมัชชาในระดับตำบล จังหวัดเพื่อสังเคราวิเคราะห์บอลยูโรโปรตุเกสกับเยอรมันะห์บทเรียน โดยกระบวนการดังกล่าวนี้ จะเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อไปยังสมัชชาระดับชาติ ครั้งที่ 2 อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่หนุนเสริมการทำงานของรัฐบาล ไม่ได้ขัดขวาง หรือสวนทางการทำงานของรัฐบาล

วันที่ 7 มิ.ย.2567 น.ส.นันทิตา รักษาชาติ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าขอนแก่น เปิดเผยความคืบหน้าการ