วันนี้ (12 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้า

วันนี้ (27 เม.ย.2564) ฐานบ้านซอแลท่า ของกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 341 ของเมียนมา ริมแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง หลังถูกกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู
วันนี้ (5 ก.พ.2564) นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาฯ เชิญตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล และตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตัวแทนคณะรัฐมนตรี รวมถึงนายชวน หลักภ
วันนี้ (5 ก.พ.2564) นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาฯ เชิญตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล และตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตัวแทนคณะรัฐมนตรี รวมถึงนายชวน หลักภัย ประธานสภาฯ เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณากำหนดกรอบระยะเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สำหรับผลการหารือของวิป 3 ฝ่าย ได้ข้อสรุปว่า จะเริ่มการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ซึ่งคาดว่าจะจบการอภิปรายในวันที่ 19 ก.พ. และจะลงมติในวันที่ 20 ก.พ.นี้ โดยฝ่ายค้านจะใช้เวลาทั้งหมด 42 ชั่วโมง ส่วนฝ่ายรัฐบาลตกลงกันว่าจะใช้เวลาพอประมาณในการชี้แจง ซึ่งการอภิปรายจะเรียงลำดับตามราแจก เครดิต ฟรี 1000เกม สล็อต สิงโตยชื่อที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทีละคน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวย้ำว่า ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 42 ชั่วโมง และจะพยายามอภิปรายให้จบภายใน 4 วันและโหวตอีก 1 วัน แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถบริหารเวลาตามที่ตกลงกันได้ ก็จะเพิ่มเติมเท่าที่จำเป็น ซึ่งการอภิปรายจะเรียงลำดับตามญัตติรายชื่อรัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านจะใช้คำว่า "เป้าหมายหลัก" ขณะเดียวกันก็สามารถโยงไปยังรัฐมนตรีเป้าหมายรองได้ ซึ่งหากเป็นไปตามข้อตกลงนี้เชื่อว่าการอภิปรายจะดำเนินไปด้วยความราบรื่น ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายค้านจะต้องใช้เวลาอภิปรายแต่ละวันๆ ละ 12-14 ชั่วโมง เพื่อให้ครอบคลุมตามเวลาที่ตกลงไว้ ซึ่งจะรวมถึงเวลาการประท้วงด้วย และขอให้แจ้งลำดับการอภิปรายรัฐมนตรีที่จะถูกโยงถึงในแต่ละวัน เพื่อให้วิปรัฐบาลแจ้งไปยังผู้ที่จะถูกอภิปรายให้เตรียมพร้อมชี้แจง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ปรับจำนวนขุนพลผู้อภิปรายลงจาก 45 คน เหลือ 38 คน และวันนี้ (5 ก.พ.) หลังการหารือวิป 3 ฝ่าย ได้มีการประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านเพื่อจัดสรรเวลาให้แต่ละพรรค
วันนี้ (29 ก.ย.2565) พายุโนรูพัดผ่านเขตเวียดนามแล้วเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) แต่ทางการยังคงเตือนให้ประชา
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อีลอน มัสก์ ส่งจดหมายถึงบริษัททวิตเตอร์ โดยระบุ
ปัจจุบันทั่วโลกเปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศ รวมทั้งสังคมไทย มีการพูดถึง LGBTQ+ มากขึ้น เห็นได้จ
วันนี้ (5 ก.พ.2564) นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาฯ เชิญตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล และตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตัวแทนคณะรัฐมนตรี รวมถึงนายชวน หลักภัย ประธานสภาฯ เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณากำหนดกรอบระยะเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สำหรับผลการหารือของวิป 3 ฝ่าย ได้ข้อสรุปว่า จะเริ่มการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ซึ่งคาดว่าจะจบการอภิปรายในวันที่ 19 ก.พ. และจะลงมติในวันที่ 20 ก.พ.นี้ โดยฝ่ายค้านจะใช้เวลาทั้งหมด 42 ชั่วโมง ส่วนฝ่ายรัฐบาลตกลงกันว่าจะใช้เวลาพอประมาณในการชี้แจง ซึ่งการอภิปรายจะเรียงลำดับตามราแจก เครดิต ฟรี 1000เกม สล็อต สิงโตยชื่อที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทีละคน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวย้ำว่า ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 42 ชั่วโมง และจะพยายามอภิปรายให้จบภายใน 4 วันและโหวตอีก 1 วัน แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถบริหารเวลาตามที่ตกลงกันได้ ก็จะเพิ่มเติมเท่าที่จำเป็น ซึ่งการอภิปรายจะเรียงลำดับตามญัตติรายชื่อรัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านจะใช้คำว่า "เป้าหมายหลัก" ขณะเดียวกันก็สามารถโยงไปยังรัฐมนตรีเป้าหมายรองได้ ซึ่งหากเป็นไปตามข้อตกลงนี้เชื่อว่าการอภิปรายจะดำเนินไปด้วยความราบรื่น ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายค้านจะต้องใช้เวลาอภิปรายแต่ละวันๆ ละ 12-14 ชั่วโมง เพื่อให้ครอบคลุมตามเวลาที่ตกลงไว้ ซึ่งจะรวมถึงเวลาการประท้วงด้วย และขอให้แจ้งลำดับการอภิปรายรัฐมนตรีที่จะถูกโยงถึงในแต่ละวัน เพื่อให้วิปรัฐบาลแจ้งไปยังผู้ที่จะถูกอภิปรายให้เตรียมพร้อมชี้แจง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ปรับจำนวนขุนพลผู้อภิปรายลงจาก 45 คน เหลือ 38 คน และวันนี้ (5 ก.พ.) หลังการหารือวิป 3 ฝ่าย ได้มีการประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านเพื่อจัดสรรเวลาให้แต่ละพรรค
วันนี้ (4 พ.ย.2564) คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน