วันนี้ ( 13 เม.ย.2568) นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข ผู้ต

วันนี้ (28 ต.ค.2567) นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยม บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้เน้นเรื่องความพร้อมในการให้บริการจราจรทางอากาศ ทั้งในด้านระบบ อุปกรณ์ สิ่งอ
เพราะหากผ่านวุฒิสภาออกมาประกาศใช้ จะทำให้ผู้กู้ยืมเงินจาก กยศ.กว่า 3.4 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีและระหว่างฟ้องร้องคดี จะได้รับอานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้ คือไม่ต้องถูกดำเนินคดี ไม่ต้องถูกฟ้องร้
วันนี้ (28 ต.ค.2567) นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยม บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้เน้นเรื่องความพร้อมในการให้บริการจราจรทางอากาศ ทั้งในด้านระบบ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบุคคลากร เพื่อรองรับการเปิดใช้งานทางวิ่งเส้นที่ 3 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มมากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2567 มีเที่ยวบินรวมทั้งประเทศ 836,513 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากปี 2566 ในขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ มีเที่ยวบิน รวม 348,980 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 950 เที่ยวบิน/วัน ภาพรวมปริมาณเที่ยวบินใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารองรับ 1,000,000 เที่ยวบิน ในปี 2568 ดังนั้น การเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินจึงเป็นภารกิจสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค รวมทั้งรองรับการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ด้านนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมของ บวท. เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำกรอบแนวคิดด้านปฏิบัติการ (Operational Concept) การจัดทำข้อมูลประกอบการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การจัดทำวิธีปฏิบัติการควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC Procedures) การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ การจัดเตรียมระบบเครื่องอำนวยความสะดวกการเดินอากาศ (Air Navigation System) การจัดเตรียมระบบอุปกรณ์ควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Management System) การออกแบบวิธีปฏิบัติการบิน (Instrument Flight Procedure Design) การประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (Safety Risk Assessment) และการจัดทำคู่มือด้านปฏิบัติการ (Manual of Standard Operations) ซึ่งการเตรียมความพร้อมทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลาดำเนินการล่วงหน้ากว่า 5 ปี ปัจจุบัน บวท. มีความพร้อมในการให้บริการจราจรทางอากาศรองรับการใช้งานทางวิ่งทั้ง 3 เส้น ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การเปิดใช้งานทางวิ่งเส้นที่ 3 จะทำให้จากเดิมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับเที่ยวบิน 68 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เพิ่มขึ้นเป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง ขณะเดียวกัน การจัดการจราจรทางอากาศในรูปแบบการขึ้นและลงทางวิ่งคู่ขนานพร้อมกัน หรือ Simultaneous Parallel Operations จะทำให้การจราจรทางอากาศเกิดความคล่องตัว อีกทั้งการบริหารจัดการใช้งานทางวิ่งจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะใช้ทางวิ่งสำหรับขึ้นและลงที่ใกล้กับหลุมจอดให้ได้มากที่สุด เพื่อลดระยะทางและลดระยะเวลาในการขับเคลื่อน (Taxi) ของอากาศยาน ทำให้เกิดความรวดเร็ว และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บวท. ได้ทำงานร่วมกับท่าอากาศยานและสายการบินอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการบินของประเทศ อ่านข่าวอื่น : “สวนสยาม” ชิงเสsbobet miss universe 2017นอพื้นที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เทรนด์ฮาโลวีน 2024 โบกมือลาขยะ "คืนสยองรักษ์โลก" มาถึงแล้ว ดรามา! "พลายสุ" ปมอารักขาไม่เหมาะสม
เสียงครูบอกกับเด็กๆ ให้อ่านออกเสียงตาม พร้อมกับตั้งคำถามว่าเป็นเสียงของอะไร เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู
วันนี้ (18 ต.ค.2565) เวลา 10.30 น. ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรร
วันนี้ (18 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ทีมเจ้าหน้าที่จากบริษัท เมทเทิลคอม เข้า
วันนี้ (28 ต.ค.2567) นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยม บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้เน้นเรื่องความพร้อมในการให้บริการจราจรทางอากาศ ทั้งในด้านระบบ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบุคคลากร เพื่อรองรับการเปิดใช้งานทางวิ่งเส้นที่ 3 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มมากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2567 มีเที่ยวบินรวมทั้งประเทศ 836,513 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากปี 2566 ในขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ มีเที่ยวบิน รวม 348,980 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 950 เที่ยวบิน/วัน ภาพรวมปริมาณเที่ยวบินใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารองรับ 1,000,000 เที่ยวบิน ในปี 2568 ดังนั้น การเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินจึงเป็นภารกิจสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค รวมทั้งรองรับการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ด้านนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมของ บวท. เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำกรอบแนวคิดด้านปฏิบัติการ (Operational Concept) การจัดทำข้อมูลประกอบการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การจัดทำวิธีปฏิบัติการควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC Procedures) การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ การจัดเตรียมระบบเครื่องอำนวยความสะดวกการเดินอากาศ (Air Navigation System) การจัดเตรียมระบบอุปกรณ์ควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Management System) การออกแบบวิธีปฏิบัติการบิน (Instrument Flight Procedure Design) การประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (Safety Risk Assessment) และการจัดทำคู่มือด้านปฏิบัติการ (Manual of Standard Operations) ซึ่งการเตรียมความพร้อมทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลาดำเนินการล่วงหน้ากว่า 5 ปี ปัจจุบัน บวท. มีความพร้อมในการให้บริการจราจรทางอากาศรองรับการใช้งานทางวิ่งทั้ง 3 เส้น ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การเปิดใช้งานทางวิ่งเส้นที่ 3 จะทำให้จากเดิมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับเที่ยวบิน 68 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เพิ่มขึ้นเป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง ขณะเดียวกัน การจัดการจราจรทางอากาศในรูปแบบการขึ้นและลงทางวิ่งคู่ขนานพร้อมกัน หรือ Simultaneous Parallel Operations จะทำให้การจราจรทางอากาศเกิดความคล่องตัว อีกทั้งการบริหารจัดการใช้งานทางวิ่งจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะใช้ทางวิ่งสำหรับขึ้นและลงที่ใกล้กับหลุมจอดให้ได้มากที่สุด เพื่อลดระยะทางและลดระยะเวลาในการขับเคลื่อน (Taxi) ของอากาศยาน ทำให้เกิดความรวดเร็ว และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บวท. ได้ทำงานร่วมกับท่าอากาศยานและสายการบินอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการบินของประเทศ อ่านข่าวอื่น : “สวนสยาม” ชิงเสsbobet miss universe 2017นอพื้นที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เทรนด์ฮาโลวีน 2024 โบกมือลาขยะ "คืนสยองรักษ์โลก" มาถึงแล้ว ดรามา! "พลายสุ" ปมอารักขาไม่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2567 ในงานประชุมสุขภาวะทางเพศระดับชาติครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด ชุมชนเข้มแข็งสร้างส