วันนี้ (24 มี.ค.2568) เวลา 09.00 น. สภาผู้แทนราษฎร เปิดประชุมนัดพิเศษอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร
กล้องโทรทรรศน์อวกาศ XRISM (X-ray Imaging and Spectroscopy Mission) ขององค์การอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างองค์การนาซา (NASA) และองค์การอวกาศยุโรป (ESA) เตรียมพร้อมสำหรับการปล่อยในวันที่
มหาวิทยาลัยนิวยอร์กประจำกรุงอาบูดาบี (New York University Abu Dhabi - NYUAD) และศูนย์วิทยาศาสตร์อวกาศแห่งชาติอาหรับเอมิเรตส์ ได้ร่วมกันสร้างแผนที่ดาวอังคารฉบับใหม่ล่าสุด จากข้อมูลรูปภาพ 3,000 รูปของยานอวกาศ ‘โฮป’ (HOPE) ซึ่งเป็นยานอวกาศลำแรกที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ส่งไปสำรวจดาวอังคาร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2021 ยานอวกาศโฮป ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจสำรวจทุกความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของดาวอังคารเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น พายุฝุ่นขนาดยักษ์ที่มักมีขนาดใหญ่เสียจนปกคลุมดาวไปได้ทั้งดวง ผ่านเซนเซอร์ต่าง ๆ ซึ่งยานโฮปนั้นโคจรอยู่ในระยะที่ค่อนข้างห่างจากดาวอังคารระหว่าง 20,000 ถึง 43,000 กิโลเมตรโดยเฉลี่ย จึงทำให้กล้องบนยานสามารถถ่ายภาพดาวอังคารได้ทั้งดวงในครั้งเดียว และนอกเหนือจากแผนที่ที่ได้รับการเผยแพร่ออกมาแล้ว ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ยังปล่อยภาพของดาวอังคารในมุมมองต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลาของปีอีกมากมาย ซึ่งมีการนำมารวมกันมาเป็นสมุดแผนที่ หรือที่เรียกว่า ‘แอตลาส’ มาปล่อยเป็นไฟล์ให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ฟรีอีกด้วย โดยมีเรื่องราวของดาวอังคารที่น่าสนใจแสดงอยู่ ดังนี้ ภาพจากยานอวกาศโฮปเผยให้เห็นถึงภูเขาไฟทรงโดมขนาดยักษ์ทั้ง 4 ลูก ที่ตั้งอยู่ทางซีกตะวันตกของดาวอังคาร ในอาณาบริเวณที่นักดาราศาสตร์ขนานนามว่า ‘ธาร์ซิส’ (Tharsis) ซึ่งรากศัพท์มาจากภาษากรีก-โรมัน ที่แปลว่า ‘ขอบโลกทิศตะวันตก’ โดยภูมิภาคธาร์ซิส นี้ถือเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ ‘โอลิมปัส’ (Olympus Mons) ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเขตธาร์ซิส และสูงที่สุดในระบบสุริยะของเรา ด้วยแรงโน้มถ่วงที่ค่อนข้างต่ำของดาวอังคารประมาณ 1 ใน 3 ของโลก ทำให้ภูเขาไฟโอลิมปัสนี้มีความสูงมากกว่า 22 กิโลเมตโปร 10 รับ 100 ถอน ไม่ อั้นร หรือ สูงกว่าภูเขาเอเวอเรสต์ประมาณ 2.5 เท่า ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอวกาศอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามภูเขาไฟกลุ่มนี้ดับลงไปนานแล้ว ซึ่งคาดว่าการปะทุครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 25 ล้านปีที่แล้ว ส่วนภูเขาไฟอีกสามลูกที่เหลือนั้นมีชื่อว่า อาร์เซีย (Arsia Mons) พาโวนิส (Pavonis Mons) และแอสคราเอียส (Ascraeus Mons) ซึ่งเรียงตัวขนานกันเป็นเส้นตรงอย่างสวยงาม โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่าภูเขาไฟกลุ่มนี้อาจเกิดที่หินหลอมเหลวหรือแมกมาทะลักขึ้นจากรอยแยกของแผ่นเปลือกดาวอังคาร คล้ายกับรอแยกสันเขากลางมหาสมุทรบนโลก เมื่อราว 4,000 ล้านปีก่อนในยุคสมัยที่ดาวอังคารยังคงมีน้ำบนพื้นผิว หุบเขามาริเนอริส (Valles Marineris) เป็นหุบเขาขนาดยักษ์ที่อยู่เยื้องไปทางตะวันออกของภูมิภาคภูเขาไฟธาร์ซิส โดยหุบเขามาริเนอริสนั้นเป็นหุบเขาที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะของเรา ซึ่งมีความลึกเฉลี่ย 4-5 กิโลเมตร ความยาวถึง 4,000 กิโลเมตร หรือ ใกล้เคียงกับระยะทางจากกรุงเทพฯไปยังกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูลจากทางฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุว่า หุบเขามาริเนอริสนั้น ได้ก่อตัวขึ้นมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับภูมิภาคภูเขาไฟธาร์ซิส เนื่องจากน้ำหนักของภูเขาไฟเกิดใหม่นั้นได้กดทับแผ่นเปลือกดาวอังคาร ซึ่งก่อให้เกิดแรงดันมหาศาลสะสมตัวเอาไว้ ก่อนที่จะแตกออกกลายเป็นรอยบากขนาดใหญ่อย่างในปัจจุบัน นอกจากนี้ บริเวณทิศเหนือของหุบเขามาริเนอริสนั้น ก็ยังมีลักษณะร่องรอยของทางน้ำไหลที่คาดว่าเคยเป็นน้ำตกโบราณมาก่อน จากการตรวจพบชั้นดินเหนียวจำนวนมาก โดยนักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อน้ำตกนี้ว่า Echus Chasma ซึ่งมีความกว้างมากถึง 100 กิโลเมตร ลึก 10 กิโลเมตร จึงทำให้น้ำตกนี้อาจเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ระบบสุริยะเคยมีมา ดาวอังคารนั้นมีระดับพื้นดินสูงต่ำแบ่งระหว่างซีกเหนือกับซีกใต้ของดาวได้อย่างชัดเจน โดยซีกใต้นั้นมักเต็มไปด้วยพื้นที่ราบสูง ภูเขาไฟ และหลุมอุกกาบาตเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ซีกเหนือของดาวนั้นกลับเป็นพื้นที่ราบเรียบ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าค่ามาตรฐานดาวอังคาร 4-5 กิโลเมตร ทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าบริเวณนี้เคยเป็นพื้นของมหาสมุทรเมื่อครั้งที่ดาวอังคารยังคงมีน้ำ แต่อย่างไรก็ดีในปัจจุบันน้ำบนดาวอังคารก็ได้สูญหายไปตามกาลเวลาแล้ว เมื่อชั้นบรรยากาศเริ่มหายไปพร้อมกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง น้ำบางส่วนบ้างก็ระเหยกลายเป็นไอน้ำลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ บ้างก็แข็งตัวเป็นชั้นน้ำแข็งใต้ดิน หรือไม่ก็กลายเป็นน้ำแข็งที่ผสมรวมกับคาร์บอนไดออกไซด์แข็งซึ่งกระจุกตัวอยู่กันอย่างหนาแน่น ในบริเวณขั้วเหนือของดาวที่มีชื่อว่า ‘ที่ราบบอเรียม’ จึงเรียกได้ว่าขั้วเหนือของดาวอังคารนั้นเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของดาวอังคารที่ยังเคยหลงเหลืออยู่ ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตมนุษยชาติก็อาจได้เปลี่ยนแปลงสภาพดาวอังคารให้กลับมารองรับสิ่งมีชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง ที่มาข้อมูล: SPACE.COM , New York Times , UAE Center for Space Scienceที่มาภาพ: UAE Center for Space Science“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
มหาวิทยาลัยนิวยอร์กประจำกรุงอาบูดาบี (New York University Abu Dhabi - NYUAD) และศูนย์วิทยาศาสตร์อวกาศแห่งชาติอาหรับเอมิเรตส์ ได้ร่วมกันสร้างแผนที่ดาวอังคารฉบับใหม่ล่าสุด จากข้อมูลรูปภาพ 3,000 รูปของยา