UID: 02064

กรมชลประทานเตือนภาคกลางรับมือปริมาณน้ำเพิ่มสูง กรมชลประทานเตือนภาคกลางจะได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเ

"วันวิสาขบูชา" ถือเป็นอีกหนึ่งวันในวันสำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันที่ระลึกถึงเหตุการณ์

กรมชลประทานเตือนภาคกลางรับมือปริมาณน้ำเพิ่มสูง กรมชลประทานเตือนภาคกลางจะได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเพิ่มเติมจากพื้นที่ตอนบนของประเทศ เนื่องจากจะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง กรมชลประทานเตือนภาคกลางรับมือปริมาณน้ำเพิ่มสูง กรมชลประทานได้ประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงนี้จะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้องมีการระบายน้ำเพิ่มเติมจากพื้นที่ตอนบนของประเทศ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา สำหรับการประเมินมวลน้ำและปริมาณน้ำนั้นจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน แต่น่าจะสามารถสรุปสถานการณ์ปริมาณน้ำได้ภายใน 7 วัน คาดว่าปีนี้ปริมาณน้ำอาจมากที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2549 ส่วนสถานการณ์การผันน้ำในขณะนี้ ที่เขื่อนเจ้าพระยาจะมีการระบายน้ำ 1,931 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขอให้ประชาชนระมัดระวังสถานการณ์น้ำแต่อย่าตื่นตระหนก เพราะเชื่อว่าเขื่อนเจ้าพระยายังสามารถรองรับน้ำได้อีก มีรายงานแล้วว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในจังหวัดอ่างทองได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในคันกั้นน้ำแล้ว ส่วนสภาพภายในลานจอดรถสำนักงานเทศบาลเมืองอ่างทองที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร จนทำให้ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทองกว่า 10 คัน ที่นำมาจอดไว้ต้องจมอยู่ในน้ำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้นำรถมาจอดไว้ ก่อนจะกระจายกำลังกันออกไปเฝ้าเครื่องสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน  แม้จะเร่งสูบน้ำอย่างหนักแต่ไม่สามารถที่จะระบายน้ำได้ทันเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าด้านในพื้นที่ตัวเมืองอ่างทอง ทำให้ต้องปิดท่อระบายน้ำและสูบน้ำออก โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงจะสามารถสูบน้ำออกมาได้และนำรถขึ้นมาจากจุดที่ถูกน้ำท่วม   ขณะที่สี่แยกกลางเมืองอ่างทองมีน้ำท่วมขังกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้ขณะนี้จะสามารถสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังได้เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด   ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานครจุดรับน้ำต่อเนื่องในลุ่มน้ำภาคกลาง ทางกรุงเทพมหานครได้ยืนยันมาโดยตลอดว่า น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แม้จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในระยะนี้ โดยวันนี้(5 ก.ย.) สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร จะลงพื้นที่ตรวจประตูระบายน้ำคลองซุง ใกล้ชุมชนวัดสร้อยทอง เชิงสะพานพระราม 7 ซึ่งชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และมีบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมบ่อยครั้ง เนื่องจากอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำแต่จากการได้ทำประตูระบายน้ำขึ้นมา สามารถลดผลกระทบของปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าท่วมเส้นทางสัญจรได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนชาวบ้านนอกคันกั้นน้ำนั้น กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า จะให้การดูแลอย่างดีที่สุด กรมชลประทานได้ประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงนี้จะมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้องมีการระบายน้ำเพิ่มเติมจากพื้นที่ตอนบนของประเทศ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา สำหรับการประเมินมวลน้ำและปริมาณน้ำนั้นจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน แต่น่าจะสามารถสรุปสถานการณ์ปริมาณน้ำได้ภายใน 7 วัน คาดว่าปีนี้ปริมาณน้ำอาจมากที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2549 ส่วนสถานการณ์การผันน้ำในขณะนี้ ที่เขื่อนเจ้าพระยาจะมีการระบายน้ำ 1,931 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขอให้ประชาชนระมัดระวังสถานการณ์น้ำแต่อย่าตื่นตระหนก เพราะเชื่อว่าเขื่อนเจ้าพระยายังสามารถรองรับน้ำได้อีก มีรายงานแล้วว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในจังหวัดอ่างทองได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในคันกั้นน้ำแล้ว ส่วนสภาพภายในลานจอดรถสำนักงานเทศบาลเมืองอ่างทองที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร จนทำให้ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทองกว่า 10 คัน ที่นำมาจอดไว้ต้องจมอยู่ในน้ำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้นำรถมาจอดไว้ ก่อนจะกระจายกำลังกันออกไปเฝ้าเครื่องสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน  แม้จะเร่งสูบน้ำอย่างหนักแต่ไม่สามารถที่จะระบายน้ำได้ทันเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าด้านในพื้นที่ตัวเมืองอ่างทอง ทำให้ต้องปิดท่อระบายน้ำและสูบน้ำออก โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงจะสามารถสูบน้ำออกมาได้และนำรถขึ้นมาจากจุดที่ถูกน้ำท่วม   ขณะที่สี่แยกกลางเมืองอ่างทองมีน้ำท่วมขังกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้ขณะนี้จะสามารถสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังได้เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด   ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานครจุดรับน้ำต่อเนื่องในลุ่มน้ำภาคกลาง ทางกรุงเทพมหานครได้ยืนยันมาโดยตลอดว่า น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แม้จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในระยะนี้ โดยวันนี้(5 ก.ย.) สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร จะลงพื้นที่ตรวจประตูระบายน้ำคลองซุง ใกล้ชุมชนวัดสร้อยทอง เชิงสะพานพระราม 7 ซึ่งชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และมีบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมบ่อยครั้ง เนื่องจากอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำแต่จากการได้ทำประตูระบายน้ำขึ้นมา สามารถลดผลกระทบของปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าท่วมเส้นทางสัญจรได้อย่างม535 betีประสิทธิภาพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนชาวบ้านนอกคันกั้นน้ำนั้น กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า จะให้การดูแลอย่างดีที่สุด

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2565 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เกิดเหตุดินถล่มทางตอนกลางของประเทศโคลอมเบีย ทำให