แต่ที่ชวนฉงนน่าสงสัย เหตุใด “แป้ง นาโหนด” จึงดูจะถูกยกระดับเป็น “วายร้ายข้ามชาติ” ไปแล้ว ทั้งก่อนและหลังถูกตำรวจอินโดนีเซียจับกุม ภายใต้การประสานของตำรวจไทย คาที่พักที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และเมื่อ
ไทม์ไลน์ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศ "กฎอัยการศึก" ก่อนสภาโหวตคว่ำ พรรค DP-กลุ่มแรงงานเรียกร้อง "ยุน ซอก-ยอล" ลาออก ทันทีที่ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดประเด็น “หวานใจ” อดีตรองนายกฯ อ
18 ก.ค. นี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพ “พนม นพพร” หรือ “ลุงโอ” เจ้าของเพลงดัง “ลาสาวแม่กลอง” ที่ วัดบางรักน้อย ถนนบ้านไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ถือเป็นการปิดตำนานของอดีตนักร้องรุ่นเก๋าวัย 77 ปี นิรันดร์กาล พนม นพพร เสียชีวิตอย่างสงบจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ฝากความทรงจำไว้กับเสียงเพลงเศร้า “ลาสาวแม่กลอง” และทิ้งเสียงร้องผ่านเพลงดังในอดีตให้แฟนๆ ไวิเคราะห์ บอล ล้ม โต๊ะ 4 เซียนว้ฟังอีกหลายเพลง เช่น ฮักสาวขอนแก่น,ลาสาวแม่กลอง,ตุ๊กติ๊ก,เซิ้งสวิง,ข้าวเหนียวติดมือ,เขียนจดหมายส่งมา,11 ไฮโล,นักร้องพเนจร ,หนุนขอนต่างแขน,ใต้เงาโศก พนม นพพร ชื่อจริง ชาตรี ชิณวุฒิ ชื่อเล่น “โอ” เป็นหนุ่มเมืองน้ำเค็ม เกิดวันที่ 27 พ.ค.2489 ที่ ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี มีฐานะครอบครัวปานกลาง มีที่นาให้เช่ามีร้านกาแฟ มีพี่น้อง 4 คน เขาเป็นลูกคนที่ 3 หลังเรียนจบชั้น ม.ศ 5 จากโรงเรียนพัฒนศิลป์ แต่ไม่ได้เรียนต่อเพราะอยากเป็นนักร้อง ทั้งๆ ที่ครอบครัวอยากให้รับราชการ อาลัย พนม นพพร อาลัย พนม นพพร ด้วยนิสัยชอบดูรำวงและฟังวิทยุ หลังมีประสบการณ์ประกวดร้องเพลงตามเวทีประกวด แต่ “พนม นพพร” ไม่เคยชนะ เคยขึ้นไปร้องเพลงเชียร์รำวง ได้ค่าร้องเพลงละ 20 บาท เพราะบ้านอยู่ใกล้กับคณะรำวงดาวน้อย และดาวทองแห่งยุค ในช่วงนั้น เขาเริ่มหัดร้องเพลงโดยยึดแนวของ นักร้องชื่อดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ครูคำรณ สัมบุณณานนท์ , ชาย เมืองสิงห์, พร ภิรมย์, ไพรวัลย์ ลูกเพชร, ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ต่อมาวงดนตรีของเทียนชัย สมยาประเสริฐ มาเปิดการแสดงย่าน ต.บางพระ จ.ชลบุรี และมีรายการประกวดร้องเพลง ซึ่งเขาได้ไปประกวด แต่ในงานนี้เป็นการประกวดแบบอัดเทป และประกาศผลทางสถานีวิทยุในภายหลัง ปรากฏว่าเขาได้รับชัยชนะ ซึ่งเป็นช่วงจังหวะที่พนมจบการศึกษาแล้ว จึงหอบเสื้อผ้าเข้ากรุงเทพ ฯ โดยมาอยู่ที่บ้านของเทียนชัย สมยาประเสิรฐ เพื่อฝึกร้องเพลงและร่วมวงดนตรี และรับการบันทึกเสียงเพลงแรก คือ “ลมร้อน” ผลงานการประพันธ์ของ อรุณ รุ่งรัตน์ แค่ร้องเพลงแรก ชื่อของ “พนาวัลย์ ลูกเมืองชล” หรือ “พนม นพพร” ได้สร้างชื่อเขาเป็นที่รู้จักพอสมควร แต่อยู่ได้ไม่นานนัก วงดนตรีเทียนชัยก็แตก เนื่องจากลูกวงแยกย้ายกันไปตั้งวงเอง เมื่อไร้สังกัด พนม นพพร จึงต้องเลี้ยงชีพด้วยการไปเป็นนักร้องสลับฉากให้กับคณะลิเก และวงดนตรีอื่นๆ ทั้ง เพลิน พรมแดน , นิยม มารยาท และอื่นๆ ต่อมามีผู้ชวนไปสมัครอยู่กับวงจุฬารัตน์ของครูมงคล อมาตยกุล แต่ครูไม่รับ โดยให้เหตุผลว่านักร้องเต็ม แม้จะพยายามร้องเพลงให้ฟัง แต่ครูก็ยังไม่รับ สุดท้าย “พนม นพพร” จึงเสนอตัวเป็นเด็กรถประจำวงและรับใช้นักร้องในวง แค่พอให้มีข้าวกินไปวันๆ ซึ่งครูมงคลก็ตอบตกลง พนมได้นำเพลง “อนิจจา” ของโฆษิต นพคุณ มาร้อง แม้จะสร้างความถูกใจให้กับคนในวงและคนดู แต่เมื่อลงจากเวทีก็ยังต้องไปเก็บตั๋วเหมือนเดิม และได้ร้องเพลงเปิดวงครั้งละ 1 เพลงมาตลอด อาลัย พนม นพพร อาลัย พนม นพพร “ลาสาวแม่กลอง” เปลี่ยนชีวิต เมื่อกลับมากรุงเทพฯ โอกาสก็มาถึง เมื่อพนม นพพร ตามนักร้องในวงไปแผ่นเสียง และครูมงคลเห็นว่าพอมีเวลาเหลือ จึงเรียกเขามาลองซ้อมเพลง “สุขีเถิดที่รัก” ซึ่ง สรวง สันติ เป็นผู้แต่ง ครูมงคลจึงเขียนโน้ตให้นักดนตรี และบันทึกเสียงให้เขาทันที ซึ่งเพลงดังกล่าวก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ในวัย 22 ปี “พนม นพพร” ได้บันทึกเสียงอีก 2 เพลง เพลงแรกชื่อ “อัดอั้นตันใจ” ของลพ บุรีรัตน์ และเพลง “ลาสาวแม่กลอง “ ซึ่งพนมบอกว่า ไม่ค่อยชอบ เพราะไม่ใช่แนว แต่ครูมงคลแนะนำว่า ยิ่งไม่ชอบยิ่งต้องใช้ความพยายาม และในที่สุดเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่สร้างชื่อให้พนม นพพร ขึ้นมาอยู่ในชั้นแนวหน้าของวงการลูกทุ่งไทย นอกจากเอาดีด้านร้องเพลงแล้ว “พนม นพพร”ยังมีฝีมือแสดงภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง หลังจากยุบวงดนตรีจุฬารัตน์แล้ว เขาไปเป็นตัวประกอบวิ่งผ่านหน้าฉากและร่วมแสดงหลายเรื่อง และได้รับบทเด่นเรื่อง“ ลมรักทะเลใต้ “ ควบคู่กับการร้องประกอบภาพยนตร์จนโด่งดัง พนม นพพร ตัดสินใจตั้งวงดนตรีของตัวเองและออกเดินสายแสดงดนตรีร่วมกับการรับงานแสดงภาพยนต์ทำได้เพียง 6 ปีก็ยุบวง และเมื่อมีประสบการณ์เกี่ยวกับวงการภาพยนตร์เพิ่มขึ้น ทั้งเขียนบท ตัดต่อ ฯลฯจึงได้สร้างภาพยนตร์บู๊เรื่องแรกคือ “ คมนักเลง “ มี สมบัติ เมทะนี และ อรัญญา นามวงศ์ นำแสดง และการสร้างภาพยนตร์ต่อในเรื่องที่ 2 คือ “ คุณพ่อขอโทษ “ นำแสดงโดย ไพโรจน์ สังวริบุตร และ ลลนา สุลาวัลย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้พอประสบความสำเร็จอยู่บ้าง และเมื่อถึงเรื่องที่ 3 คือ “ จับกัง “ ที่มี สรพงษ์ ชาตรี นำแสดง พนม นพพร ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ได้ทั้งเงินและกล่อง สมความตั้งใจ พนม นพพร มีอาการป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองแตกตั้งแต่ปี 2554 และรักษาตัวมาตลอด ต่อมามีอาการลิ่มเลือดจากหัวใจหลุดขึ้นไปที่สมองทำให้ต้องผ่าตัดและกลับมาพักฟื้นที่บ้านเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะเสียชีวิตโดยสงบ นายธีรเจต ชินวุฒิ ลูกชายพนม นพพร ระบุว่า ก่อนที่พ่อจะเสียเคยสั่งไว้ว่า ไม่ต้องทำอะไรให้เอิกเกริก ทำแบบง่ายๆ เรียบง่าย และการสูญเสียเกิดขึ้นครอบครัวไม่ทันตั้งตัว เป็นการปิดตำนานชีวิตเจ้าของบทเพลง “ลาสาวแม่กลอง” ไปตลอดกาล
วันนี้ (4 ธ.ค.2567) วันที่สองของปฏิบัติการรื้อย้ายโครงสร้างสะพาน และชิ้นส่วนต่าง ๆ บน ถ.พระราม 2 โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายส่วนทั้งวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) สภาวิศวกร และบริษัท อิตาเลี่ยนไทย มาด
18 ก.ค. นี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพ “พนม นพพร” หรือ “ลุงโอ” เจ้าของเพลงดัง “ลาสาวแม่กลอง” ที่ วัดบางรักน้อย