นครบาลเล็งติดกล้องที่ “จ่าเฉย” ตรวจจับรถซิ่ง ตำรวจนครบาลเตรียมนำจ่าเฉยอัจฉริยะติดกล้องตรวจจับความเร็วและการทำผิดกฎจราจรในพื้นที่ 13 จุดของกรุงเทพมหานครที่ถูกร้องเรียนมาก นครบาลเล็งติดกล้องที่ “จ่าเฉย”
วันนี้ (30 ก.ค.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนายเจษฎา หรือนายกฤชนนท อายุ 26 ปี อดีตท
วันนี้ (25 ก.ย.2564) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พื้นที่ในกรุงโซลยังคงเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในเกาหลีใต้ ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกมากกว่า 1,200 คน จากผู้ติดเชื้อใหม่ทั
วันนี้ (30 ก.ค.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุมนายเจษฎา หรือนายกฤชนนท อายุ 26 ปี อดีตทหารยศสิบเอก ผู้ต้องหาใช้เอกสารปลอมหลอกตระเวนเช่ารถยนต์หรูแล้วนำไปขายต่อ ก่อนที่จะนำเงินที่ได้ไปหลอกให้ลงทุน เพื่อแลกกับผลตอบแทนร้อยละ 6 ต่อเดือน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 91 ล้านบาท พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2563 ผู้ต้องหาเป็นทหารที่หลอกให้เพื่อนร่วมงานมาลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนร้อยละ 6 ต่อเดือน มีคนหลงเชื่อกว่า 50 คน มาแจ้งความแล้ว 21 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 15 ล้านบาท โดยวิธีการหลอกลวง เมื่อหมุนเวียนเงินไม่ทันก็จะหลบหนี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายจนสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในความผิดฐานฉ้อโกง และกู้ยืมเงินเพื่อการฉ้อโกง ขณะที่ พ.ต.ท.สุรเชษต้นแบบการวิเคราะห์ข้อมูลฟุตบอลฐ์ เดชะพันธ์ รองผกก.3 ป. เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายเป็นเจ้าของเต็นท์รถยนต์หรู 3 ราย มาแจ้งความกับตำรวจ หลังพบว่าถูกผู้ต้องหามาเช่ารถยนต์หรูโดยใช้เอกสารปลอม ก่อนนำไปขายต่อ โดยพบว่ามีการเช่ารถหรูรวม 12 คัน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 76 ล้านบาท ผู้ต้องหาจะสืบหาว่ารถยนต์คันที่เช่าเป็นของบุคคลใด จากนั้นจะพาคนที่มีเครดิตไปเช่ารถยนต์หรูตามเต็นท์รถต่าง ๆ แล้วปลอมบัตรประชาชน โดยใช้ใบหน้าของตัวเองใส่ในบัตรและเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าของรถ ก่อนที่จะนำไปขายให้กับเต็นท์ โดยที่จะเลือกรถยนต์หรูที่มีราคาสูง เมื่อได้เงินมาแล้วบางส่วนก็จะนำไปหมุนเวียนจ่ายให้กับบุคคลที่มาร่วมลงทุน เพื่อที่จะให้ไปบอกต่อให้มาร่วมลงทุนและหลอกลวงกันต่อเนื่อง เบื้องต้น พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการคือคนที่พามาเช่ารถ และกำลังสืบสวนต่อว่ามีผู้ใดร่วมขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาจะตามหาลูกค้ารายใหม่ไปเรื่อย ๆ ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ติดตามรถยนต์ของกลางมาได้แล้ว 9 คัน และยังพบว่าผู้ต้องหามีวิธีการเช็กเจ้าของรถยนต์ และทำเอกสารปลอมประมาณ 30 นาที ก่อนไปก่อเหตุ และหากเต็นท์รถไหนไม่รับซื้อรถก็จะเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ ตามกฎหมายการซื้อขายรถยนต์ที่มีมูลค่าสูง ต้องมีเอกสารครบ ทั้งรูปเล่มและเอกสารการครอบครองรถยนต์ ต้องไปตรวจสอบว่าเต็นท์รถมีการซื้อขายอย่างถูกต้องหรือไม่ หากผิดก็จะเข้าข่ายรับของโจร ซึ่งหากเจ้าของรถตัวจริงมาติดตามรถยนต์คืนแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องไปฟ้องศาลต่อไป นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าบางส่วนถูกนำไปขายในตลาดมืด ราคาคันละไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท ซึ่ง 12 คัน ที่พบว่าถูกนำไปขายมูลค่ารวมกว่า 76 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีผู้ต้องหามากกว่า 200 ล้านบาท แต่ไม่มีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชี เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่านำไปใช้จ่าย และบางส่วนนำไปจ่ายค่าตอบแทนให้กับกลุ่มทุน
วันนี้ (11 เม.ย.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนติดตามผู้ต้องหากลุ่มชาวจีน ก่อเหตุร่วมกันเรียกค่าไถ่หญิงชาวจีน หรือ น.ส.จิน ซ่าน จำนวน 2.5 ล้านบาท โดยข่มขู่ให้ผู้
- ต้นแบบการวิเคราะห์ข้อมูลฟุตบอล
- bet911 บา คา ร่า
- ทางเข า 77up
- spin slotxosl slot
- dg ทดลอง เล่นเกม สล็อต 918
- ดู ผล บอล สด ทุก ลีก วัน นี้