วันนี้ (25 พ.ค.2565) รายงานข่าวจากท่าอากาศยานอุบลราชธานี (ทอบ.) แจ้งว่า เมื่อเวลา 11.35 น. เครื่องบิ

วันนี้ (31 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3,100,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.

เมื่อมีเกิด มีแก่ มีเจ็บ ก็ต้องมี "ตาย" ไม่มีใครหนีพ้น และเมื่อ "ความตาย" เกิดขึ้นถือเป็นการสิ้นสุดของชีวิต อวัยวะสำคัญทั้ง หัวใจ และ สมอง หยุดทำงานอย่างถาวร ทิ้งไว้เพียง "ร่างกาย" ให้คนข้างหลังได้จัดการ เมื่อเวลานั้นมาถึง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ญาติ หลายคนอาจทำตัวไม่ถูก แล้วจะจัดการอย่างไร รวมถึงต้องเตรียมเอกสารหลักฐาน อะไรบ้าง ชวนมาทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น เพราะเมื่อวันที่ต้องจากลากันจะได้จัดการ และดำเนินการให้ถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายได้ อ่านข่าว : "พินัยกรรม" สำคัญอย่างไร เลือกทำแบบไหนดี "การแจ้งตาย" เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องทำเมื่อมีผู้เสียชีวิต เพื่อบันทึกข้อมูลและออกใบมรณบัตร สำหรับการใช้ในเรื่องสิทธิ์ต่าง ๆ เช่น ทรัพย์สิน การประกันชีวิต หรือประวัติทางทะเบียนราษฎร์ การแจ้งตายทำได้ทั้งในกรณีเสียชีวิตที่บ้าน โรงพยาบาล หรือนอกสถานที่ มีรายละเอียด ดังนี้ สำหรับกรณีนี้ หลังจากที่ผู้ป่วยตาย แพทย์จะออกหนังสือรับรองการตาย (ใบ ท.ร.4/1) ให้แก่ญาติ โดยญาติจะนำไปรวมกับเอกสารอื่น ได้แก่ เพื่อนำไปยื่นให้กับนายทะเบียน ณ ที่ทำการปกครองอำเภอหรือท้องถิ่น ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากตาย เพื่อออกใบมรณบัตร หนังสือรับรองการตาย (ท.ร. 4/1) เป็นเอกสารตามกฎหมายทะเบียนราษฎร ที่กำหนดให้เมื่อมีคนตายในสถานพยาบาล ให้ผู้รักษาพยาบาลต้องออกหนังสือรับรองการตาย เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาออกเอกสารมรณบัตร (ข้อมูลกรมการปกครอง) และเมื่อมีการตายเกิดขึ้นย่อมสามารถวินิจฉัยถึงเหตุแห่งการตายได้อย่างน่าเชื่อถือตามหลักการทางการแพทย์ และสามารถใช้เป็นหลักฐานในการออกเอกสารมรณบัตรได้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง ดังนั้น หนังสือรับรองการตาย (ท.ร. 4/1) จึงกำหนดให้ผู้รักษาพยาบาลเป็นผู้ออกหนังสือดังกล่าวเฉพาะการตายที่เกิดในสถานพยาบาลเท่านั้น ไม่สามารถออกให้ในกรณีการตายที่เกิดขึ้นนอกสถานพยาบาลได้ 1.กรณีตายในบ้าน : ให้เจ้าบ้านหรือผู้พบศพแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนตาย ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตาย หรือพบศพ ผู้แจ้งคือใคร ต้องแสดงหลักฐานอะไร กรณีคนตายภายในบ้านและโรงพยาบาล "ผู้แจ้ง" คือ เจ้าบ้าน หรือผู้พบศพ หรือผู้ได้รับมอบหมายจากเจ้าบ้าน หลักฐานที่จะต้องแสดง ได้แก่ 2.กรณีตายนอกบ้าน : ให้คนที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีการตายหรือพบศพ หรือแห่งท้องที่ที่จะพึงแจ้งได้ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตาย หรือเวลาพบศพ ผู้แจ้งคือใคร ต้องแสดงหลักฐานอะไร ผู้แจ้ง คือ ผู้ที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพ โดยแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีการตายหรือพบศพแล้วแต่กรณี หรือแห่งท้องที่ที่จะพึงแจ้งได้หรือจะแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจก็ได้ หลักฐานที่จะต้องแสดง ได้แก่ ขั้นตอนการติดต่อ 1. ผู้แจ้งยื่นเอกสารและหลักฐานต่อนายทะเบียน เพื่อตรวจสอบและลงรายการในมรณบัตร 2. จำหน่ายชื่อผู้ตายออกจากทะเบียนบ้าน โดยจะประทับคำว่า "ตาย" สีแดง ไว้หน้ารายการคนตาย 3. มอบมรณบัตร ตอนที่ 1 สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนคืนผู้แจ้ง ผู้มีหน้าที่แจ้งตายยังมิได้แจ้งการตายแต่มีการย้ายศพไปอยู่ต่างท้องที่สํานักทะเบียน หรือสํานักทะเบียนท้องถิ่นที่มีการตาย หรือพบศพเจ้าบ้านของบ้านที่มีการตาย บุคคลที่ไปกับผู้ตายขณะตาย ผู้พบศพหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณีจะแจ้งการตายต่อ นายทะเบียนผู้รับแจ้ง ณ สํานักทะเบียนอําเภอหรือสํานักทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่ศพอยู่ หรือท้องที่ที่มีการจัดการศพโดยการเผา ฝัง หรือทําลายก็ได้ โดยต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือรับรองการตายของผู้ตายซึ่งออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่บุคคลนั้นตายและพยานบุพนัน บอล ฟรีบา คา ร่า ประกันภัยคคลไม่น้อยกว่า 2 คนซึ่งสามารถยืนยันตัวบุคคล ของผู้ตายได้ ในกรณีที่ไม่มีหนังสือรับรองการตาย ผู้แจ้งการตายอาจใช้ผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจสารพันธุกรรมที่ตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานของรัฐหรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการแจ้งแทนได้ แต่มีข้อควรระวังอยู่ว่า หากไม่แจ้งภายในเวลาที่กำหนดต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย เมื่อมีการแจ้งตายแล้ว นายทะเบียนผู้รับแจ้งจะออกใบมรณบัตรเป็นหลักฐานให้แก่ผู้แจ้ง เว้นแต่ หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าคนตายนั้นตายด้วยโรคติดต่ออันตรายหรือ ตายโดยผิดธรรมชาติ ได้แก่ ฆ่าตัวตาย ถูกผู้อื่นทําให้ตาย, ถูกสัตว์ทําร้ายตาย, ตายโดยอุบัติเหตุ และตายโดยยังมิปรากฏเหตุ นายทะเบียนผู้รับแจ้งจะรีบแจ้งต่อเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่ออันตรายหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ โดยนายทะเบียนผู้รับแจ้งจะรอการออกใบมรณบัตรไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานดังกล่าว โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ แม้แต่การโพสต์รูปศพในสภาพที่ไม่เหมาะสมในโซเชียลมีเดีย ก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้เช่นกัน ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี อ้างอิงข้อมูล : สำนักงานกิจการยุติธรรม, กรมการปกครอง อ่านข่าว : “ทองคำ” เช้านี้ บวก 400 “ทองคำแท่ง” ขายออกบาทละ 44,350 ตื่นตา "นกทึดทือมลายู-เสือดาว" โชว์ตัวแก่งกระจาน ขีดเส้น 15 วันสอบ "ปลัดท่าอุเทน" ปมหนีหมายจับคดีตากใบ

เมื่อมีเกิด มีแก่ มีเจ็บ ก็ต้องมี "ตาย" ไม่มีใครหนีพ้น และเมื่อ "ความตาย" เกิดขึ้นถือเป็นการสิ้นสุดของชีวิต อวัยวะสำคัญทั้ง หัวใจ และ สมอง หยุดทำงานอย่างถาวร ทิ้งไว้เพียง "ร่างกาย" ให้คนข้างหลังได้จัด