ภาพความแรงของน้ำป่า ในลำน้ำแม่สา เขต อ.แม่ริม จ.เช

เกาหลีใต้ นอกจากจะมีภาพจำด้าน Soft Power เช่น ภาพยนตร์ ซีรีย์ เพลงป็อป หรือวัฒนธรรม ยังเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียและอาจจะของโลก เกาหลีใต้มีน
วันนี้ (4 ต.ค.2567) เวลา 09.00 น. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ออกแถลงการณ์เรื่องผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี เกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษา โดยมีรายละเอียดว่า สืบเนื่องจากผู้ป่วยเด็กหญิ
เกาหลีใต้ นอกจากจะมีภาพจำด้าน Soft Power เช่น ภาพยนตร์ ซีรีย์ เพลงป็อป หรือวัฒนธรรม ยังเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียและอาจจะของโลก เกาหลีใต้มีนักวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในอัตราส่วน 9,082 คนต่อประชากร 1 ล้านคน เป็นอัตราส่วนที่มากที่สุดในโลก จากประชากรทั้งหมดประมาณ 51.7 ล้านคน หมายความว่า มีบุคลากรด้านนี้จำนวน 469,536 คนในประเทศเลยทีเดียว แต่ที่น่าประหลาดใจคือ “ลัทธิทรงเจ้า (Shamanism)” ในเกาหลีใต้กลับมีความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้ ระบุ ผู้ประกอบอาชีพคนทรง หรือ “มูซก” มีจำนวนราว ๆ 300,000 - 400,000 คน หรือร้อยละ 1.3 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ หรือมีคนทรง 1 คนต่อประชากร 160 คน เกิดอะไรขึ้นกับชาวเกาหลีใต้ ผิดวิสัยประเทศที่มีการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่คนในประเทศยังมีความเชื่อในไสยศาสตร์และมีอัตราการเติบโตสูงเช่นเดียวกัน เหตุผลหนึ่งที่น่าสนใจ คือ เกาหลีใต้ เป็นประเทศที่ ประชากรไม่นับถือศาสนาใดๆ หรือเรียกว่า “ไม่มีศาสนา” Korea Pastoral Data Institute จัดทำผลสำรวจ Religious Landscape of Koreans พบว่า การนิยามตนเองเป็นคนไม7 ผล บอล สด่มีศาสนาของชาวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นจากอัตราร้อยละ 43 ในปี 2004 สู่อัตราร้อยละ 63 ในปี 2023 หมายถึง ประชากรเกินครึ่งหนึ่งของเกาหลีใต้ไม่มีศาสนาไปโดยปริยาย การไม่มีศาสนา ทำให้ลัทธิคนทรง ที่ไม่ได้จัดตั้งตนเองว่า เป็นศาสนาแบบชัดเจน เป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีศาสนา เพราะเป็นการเลือกโดยสมัครใจ ไม่ได้บังคับโดยการสืบทอดของครอบครัวหรือญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตาม ลัทธิคนทรง ในยุคก่อน มักจะได้รับความนิยมในกลุ่ม Baby Boomers หรือ Gen X ที่ค่อนข้างจะมีอายุ แต่เด็ก ๆ "Gen Z" ในเกาหลีใต้ กลับนิยมที่จะจ่ายเงินเพื่อปรึกษาหรือสอบถามคนทรงเสมือนเป็น “ที่ปรึกษา” มากกว่าที่จะคุยกับผู้ปกครองหรือจิตแพทย์ เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มที่นิยามตนเองว่า "ไม่มีศาสนา" มากกว่ากลุ่มอื่น ศาสตราจารย์ ซ็อง แฮ ย็อง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ตั้งข้อสังเกตว่า ศาสนาแบบดั้งเดิม (พุทธ คาทอลิก โปรแตสแตน) ที่เยียวยารักษาจิตใจ และนำพาความสงบมาให้สามารถแทนที่ได้ด้วยยาแพทย์แผนปัจจุบันและการฝึกสมาธิ ขณะที่วิถีปฏิบัติและจริยธรรมก็สามารถแทนที่ได้ด้วยกฎหมายและสถาบบันทางการเมือง หากศาสนาแบบดั้งเดิมหมดพลังลงไป ลัทธิคนทรงก็จะมีพลังขึ้นมา สอดคล้องกับ คิม ดง กยู ศาสตราจารย์ประจำ K-Religion Academic Expansion Research Center แห่งมหาวิทยาลัยโซกัง เสนอว่า ลัทธิคนทรงไม่มีชั้นวรรณะ ไม่มีหลักคำสอนให้ปวดหัว และให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว ทำให้ผู้คนสบายใจที่จะเปิดเผยเรื่องราวของตนเองมากกว่าการเข้าโบสถ์หรือฟังเทศน์ฟังธรรม ย็อม อึน ย็อง ผู้อำนวยการ The Divination Culture Research Institute เสนอว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนทรงได้รับความนิยม นั่นคือ รูปแบบสังคมที่ต้องแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายของเกาหลีใต้ เป็นส่วนหนึ่งทำให้ผู้คนหันไปพึ่งพาคนทรงเพิ่มขึ้น เพราะชีวิตไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะมีกินมีใช้ มีสถานะทางสังคม หรือมีงานการที่มั่นคงไปได้ตลอด กระนั้น ลัทธิคนทรงก็มีความน่ากลัว เพราะมีการหลอกลวงให้หลงเชื่อ ให้เหยื่อจ่ายเงินจำนวนมาก เช่น การหลอกว่าต้องทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยเงินก้อนโต โดยเฉลี่ยของเหยื่อจะสูญเงินราว ๆ 260 ล้านวอน (ประมาณ 63 ล้านบาท) ศาสตราจารย์ ซ็อง แฮ ย็อง ทิ้งท้ายว่า คนทรงก็มีทั้งทายถูกและทายผิด แต่พวกเขาสามารถชี้นำทางความคิดต่อเหยื่อที่มีความเปราะบางทางจิตใจได้ง่าย ขอให้ระวังตัวให้ดี ๆ หากรู้สึกว่าคำแนะนำของคนทรงนั้นดูไม่สมเหตุสมผล ที่มา: Why shamanism continues to thrive in Korea in age of AI, space exploration อ่านข่าว มนุษย์อยู่อย่างไร ? เมื่อ AI กำลังจะ "ครองโลก" ไทย “สมาชิกบริกส์” เต็มตัว รักษาดุลขั้วอำนาจสหรัฐอเมริกา-จีน ไม่น่ารัก! แจ้งความเอาผิดนักท่องเที่ยวจีนยิงหนังสติ๊กในสวนสัตว์
วันนี้ (23 ก.พ.2565) ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจและทห
วันนี้ ( 28 ส.ค2567) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า การว่างงานใน
วันนี้ (3 ม.ค.2565) ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ซึ่งเป็น
เกาหลีใต้ นอกจากจะมีภาพจำด้าน Soft Power เช่น ภาพยนตร์ ซีรีย์ เพลงป็อป หรือวัฒนธรรม ยังเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียและอาจจะของโลก เกาหลีใต้มีนักวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในอัตราส่วน 9,082 คนต่อประชากร 1 ล้านคน เป็นอัตราส่วนที่มากที่สุดในโลก จากประชากรทั้งหมดประมาณ 51.7 ล้านคน หมายความว่า มีบุคลากรด้านนี้จำนวน 469,536 คนในประเทศเลยทีเดียว แต่ที่น่าประหลาดใจคือ “ลัทธิทรงเจ้า (Shamanism)” ในเกาหลีใต้กลับมีความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้ ระบุ ผู้ประกอบอาชีพคนทรง หรือ “มูซก” มีจำนวนราว ๆ 300,000 - 400,000 คน หรือร้อยละ 1.3 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ หรือมีคนทรง 1 คนต่อประชากร 160 คน เกิดอะไรขึ้นกับชาวเกาหลีใต้ ผิดวิสัยประเทศที่มีการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่คนในประเทศยังมีความเชื่อในไสยศาสตร์และมีอัตราการเติบโตสูงเช่นเดียวกัน เหตุผลหนึ่งที่น่าสนใจ คือ เกาหลีใต้ เป็นประเทศที่ ประชากรไม่นับถือศาสนาใดๆ หรือเรียกว่า “ไม่มีศาสนา” Korea Pastoral Data Institute จัดทำผลสำรวจ Religious Landscape of Koreans พบว่า การนิยามตนเองเป็นคนไม7 ผล บอล สด่มีศาสนาของชาวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นจากอัตราร้อยละ 43 ในปี 2004 สู่อัตราร้อยละ 63 ในปี 2023 หมายถึง ประชากรเกินครึ่งหนึ่งของเกาหลีใต้ไม่มีศาสนาไปโดยปริยาย การไม่มีศาสนา ทำให้ลัทธิคนทรง ที่ไม่ได้จัดตั้งตนเองว่า เป็นศาสนาแบบชัดเจน เป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีศาสนา เพราะเป็นการเลือกโดยสมัครใจ ไม่ได้บังคับโดยการสืบทอดของครอบครัวหรือญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตาม ลัทธิคนทรง ในยุคก่อน มักจะได้รับความนิยมในกลุ่ม Baby Boomers หรือ Gen X ที่ค่อนข้างจะมีอายุ แต่เด็ก ๆ "Gen Z" ในเกาหลีใต้ กลับนิยมที่จะจ่ายเงินเพื่อปรึกษาหรือสอบถามคนทรงเสมือนเป็น “ที่ปรึกษา” มากกว่าที่จะคุยกับผู้ปกครองหรือจิตแพทย์ เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มที่นิยามตนเองว่า "ไม่มีศาสนา" มากกว่ากลุ่มอื่น ศาสตราจารย์ ซ็อง แฮ ย็อง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ตั้งข้อสังเกตว่า ศาสนาแบบดั้งเดิม (พุทธ คาทอลิก โปรแตสแตน) ที่เยียวยารักษาจิตใจ และนำพาความสงบมาให้สามารถแทนที่ได้ด้วยยาแพทย์แผนปัจจุบันและการฝึกสมาธิ ขณะที่วิถีปฏิบัติและจริยธรรมก็สามารถแทนที่ได้ด้วยกฎหมายและสถาบบันทางการเมือง หากศาสนาแบบดั้งเดิมหมดพลังลงไป ลัทธิคนทรงก็จะมีพลังขึ้นมา สอดคล้องกับ คิม ดง กยู ศาสตราจารย์ประจำ K-Religion Academic Expansion Research Center แห่งมหาวิทยาลัยโซกัง เสนอว่า ลัทธิคนทรงไม่มีชั้นวรรณะ ไม่มีหลักคำสอนให้ปวดหัว และให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว ทำให้ผู้คนสบายใจที่จะเปิดเผยเรื่องราวของตนเองมากกว่าการเข้าโบสถ์หรือฟังเทศน์ฟังธรรม ย็อม อึน ย็อง ผู้อำนวยการ The Divination Culture Research Institute เสนอว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนทรงได้รับความนิยม นั่นคือ รูปแบบสังคมที่ต้องแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายของเกาหลีใต้ เป็นส่วนหนึ่งทำให้ผู้คนหันไปพึ่งพาคนทรงเพิ่มขึ้น เพราะชีวิตไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะมีกินมีใช้ มีสถานะทางสังคม หรือมีงานการที่มั่นคงไปได้ตลอด กระนั้น ลัทธิคนทรงก็มีความน่ากลัว เพราะมีการหลอกลวงให้หลงเชื่อ ให้เหยื่อจ่ายเงินจำนวนมาก เช่น การหลอกว่าต้องทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยเงินก้อนโต โดยเฉลี่ยของเหยื่อจะสูญเงินราว ๆ 260 ล้านวอน (ประมาณ 63 ล้านบาท) ศาสตราจารย์ ซ็อง แฮ ย็อง ทิ้งท้ายว่า คนทรงก็มีทั้งทายถูกและทายผิด แต่พวกเขาสามารถชี้นำทางความคิดต่อเหยื่อที่มีความเปราะบางทางจิตใจได้ง่าย ขอให้ระวังตัวให้ดี ๆ หากรู้สึกว่าคำแนะนำของคนทรงนั้นดูไม่สมเหตุสมผล ที่มา: Why shamanism continues to thrive in Korea in age of AI, space exploration อ่านข่าว มนุษย์อยู่อย่างไร ? เมื่อ AI กำลังจะ "ครองโลก" ไทย “สมาชิกบริกส์” เต็มตัว รักษาดุลขั้วอำนาจสหรัฐอเมริกา-จีน ไม่น่ารัก! แจ้งความเอาผิดนักท่องเที่ยวจีนยิงหนังสติ๊กในสวนสัตว์
วันนี้ (4 ส.ค.2564) นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้อำนวยการ รพ.บุษราคัม