วันนี้ (10 มี.ค.2564) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี ปรับคำแนะนำป้องกัน COVID-19 ใ

วสท.ชี้ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยเสนอให้สำรวจพื้นที่ก่อนก่อสร้างถนนเลียบคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากเป็นพื้นที่ดินอ่อน เสี่ยงทรุดตัวได้ง่าย ขณะที่ถนนเลียบคลอง 13 ในจังหวัดปทุมธานี จา

วสท.ชี้ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยเสนอให้สำรวจพื้นที่ก่อนก่อสร้างถนนเลียบคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากเป็นพื้นที่ดินอ่อน เสี่ยงทรุดตัวได้ง่าย ขณะที่ถนนเลียบคลอง 13 ในจังหวัดปทุมธานี จากการตรวจสอบของกรมทางหลวงชนบทพบว่าทรุดตัวแล้ว 44 จุด ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจชั้นดินก่อนดำเนินการซ่อมแซม วสท.ชี้ กฤชเทพ สิมลี รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบทสำรวจชั้นดิน บริเวณถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันออก ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่ทรุดตัวระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่วันที่ 17 ก.คเช็กชี่บาคาร่า1688สล็อต โจ๊ก เกอร์ ฝาก 50 รับ 100.2558 ที่ผ่านมา "เรามาทำถนนเพิ่มบนแนวคันดินริมคลอง 13 ซึ่งมีความหนา 1-1.20 เมตร ดังนั้นน้ำหนักที่กดดับลงบนคันดินของคันดินเดิมของชลประทานมีมาก ประกอบกับบริเวณใกล้เคียงมีคลอง ทำให้จุดที่ถนนทรุดเป็นจุดที่อ่อนที่สุด" นายกฤชเทพกล่าว   คลอง 13 มีความยาวกว่า 100 กิโลเมตร ที่ผ่านมาพบว่าถนนเลียบคลองทั้งสองฝั่งทรุดรวม 44 จุด โดยอยู่ในฝั่งแนวคันกั้นน้ำท่วมที่สร้างขึ้นหลังปี 2554 กว่า 20 จุด กรมทางหลวงชนบทระบุสาเหตุหลักเกิดจากภาวะภัยแล้ง ปกติระดับในคลองปริมาณมากจะมีแรงดันพยุงตลิ่งไม่ให้ทรุดตัวแต่เมื่อระดับน้ำในคลองแห้งขอด ทำให้ขาดแรงดันจากน้ำ ลาดตลิ่งจึงเกิดการทรุดตัว และทำให้ถนนเลียบคลองเสียหาย ขณะเดียวกันหากปริมาณน้ำในคลองน้อยอยู่แล้วแต่มีฝนตกลงมาเพิ่มก็จะส่งผลให้ตลิ่งทรุดตัวได้เช่นกัน การสำรวจของผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมปฐพีและฐานรากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอุปนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พบว่า จุดที่ถนนเลียบคลองทรุดตัวส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่ดินอ่อน เมื่อระดับน้ำต่ำ และได้รับแรงสั่นสะเทือนจากรถที่สัญจรผ่าน จึงทำให้เกิดการทรุดตัวได้ง่าย จึงเสนอให้มีการสำรวจชั้นดินอย่างละเอียดก่อนก่อสร้างถนน   รศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อุปนายกวิศวกรรมสถานฯ กล่าวว่าการสำรวจที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นการสำรวจแบบสุ่มตามระยะ ถึงแม้ว่าในระหว่างก่อสร้าง ผู้รับจ้างจะเจาะเพื่อตรวจสอบได้อีกครั้ง แต่ก็ถือว่ายังไม่เพียงพอ "ปัจจัยหลัก (ที่ทำให้ถนนทรุดตัว) อย่างหนึ่งก็คือ การสำรวจที่ไม่ครอบคลุม ทำให้โอกาสที่ถนนจะพังมีสูง" รศ.สุทธิศักดิ์แสดงความเห็น ข้อมูลจากกรมทางหลวงชนบทถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ถูกก่อสร้างยกระดับเป็นคันป้องกันน้ำท่วม ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งโครงการเร่งด่วนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2557 ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท บางส่วนเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กฤชเทพ สิมลี รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบทสำรวจชั้นดิน บริเวณถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันออก ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่ทรุดตัวระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.2558 ที่ผ่านมา "เรามาทำถนนเพิ่มบนแนวคันดินริมคลอง 13 ซึ่งมีความหนา 1-1.20 เมตร ดังนั้นน้ำหนักที่กดดับลงบนคันดินของคันดินเดิมของชลประทานมีมาก ประกอบกับบริเวณใกล้เคียงมีคลอง ทำให้จุดที่ถนนทรุดเป็นจุดที่อ่อนที่สุด" นายกฤชเทพกล่าว   คลอง 13 มีความยาวกว่า 100 กิโลเมตร ที่ผ่านมาพบว่าถนนเลียบคลองทั้งสองฝั่งทรุดรวม 44 จุด โดยอยู่ในฝั่งแนวคันกั้นน้ำท่วมที่สร้างขึ้นหลังปี 2554 กว่า 20 จุด กรมทางหลวงชนบทระบุสาเหตุหลักเกิดจากภาวะภัยแล้ง ปกติระดับในคลองปริมาณมากจะมีแรงดันพยุงตลิ่งไม่ให้ทรุดตัวแต่เมื่อระดับน้ำในคลองแห้งขอด ทำให้ขาดแรงดันจากน้ำ ลาดตลิ่งจึงเกิดการทรุดตัว และทำให้ถนนเลียบคลองเสียหาย ขณะเดียวกันหากปริมาณน้ำในคลองน้อยอยู่แล้วแต่มีฝนตกลงมาเพิ่มก็จะส่งผลให้ตลิ่งทรุดตัวได้เช่นกัน การสำรวจของผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมปฐพีและฐานรากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอุปนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พบว่า จุดที่ถนนเลียบคลองทรุดตัวส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่ดินอ่อน เมื่อระดับน้ำต่ำ และได้รับแรงสั่นสะเทือนจากรถที่สัญจรผ่าน จึงทำให้เกิดการทรุดตัวได้ง่าย จึงเสนอให้มีการสำรวจชั้นดินอย่างละเอียดก่อนก่อสร้างถนน   รศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อุปนายกวิศวกรรมสถานฯ กล่าวว่าการสำรวจที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นการสำรวจแบบสุ่มตามระยะ ถึงแม้ว่าในระหว่างก่อสร้าง ผู้รับจ้างจะเจาะเพื่อตรวจสอบได้อีกครั้ง แต่ก็ถือว่ายังไม่เพียงพอ "ปัจจัยหลัก (ที่ทำให้ถนนทรุดตัว) อย่างหนึ่งก็คือ การสำรวจที่ไม่ครอบคลุม ทำให้โอกาสที่ถนนจะพังมีสูง" รศ.สุทธิศักดิ์แสดงความเห็น ข้อมูลจากกรมทางหลวงชนบทถนนเลียบคลอง 13 ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ถูกก่อสร้างยกระดับเป็นคันป้องกันน้ำท่วม ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งโครงการเร่งด่วนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2557 ใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท บางส่วนเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

วันนี้ (22 เม.ย.2568) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ แถลงข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าไทย​ ว่า รัฐบาลต้องระวังในการเ