จับตาแถลงผลงานรอบ 6 เดือน พรุ่งนี้ (17 เม.ย.2558) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายก
การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศไทย เพิ่มขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม ผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) อีกจำนวนมาก ส่งผลให้มูลฝอยติดเชื้อ หรือ
จับตาแถลงผลงานรอบ 6 เดือน พรุ่งนี้ (17 เม.ย.2558) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกฯ 5 คน จะแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ซึ่งการแถลงครั้งนี้คาดว่าจะเน้นประเด็นหลักเรื่องการสร้างความสงบในประเทศ สร้างเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนผู้มีรายได้น้อย การจัดจัดหาอาชีพเสริม การดูแลหนี้สินเกษตรกรและการจัดสรรที่ดินทำกิน รวมถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ด้านการค้าและการขายกับประเทศเพื่อนบ้าน จับตาแถลงผลงานรอบ 6 เดือน การแถลงนโยบายในวันพรุ่งนี้ จะเริ่มในเวลา 9.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะเป็นผู้แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือน หลังเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และเพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยและจะมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงมีการตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนด้วย จากนั้นจะมอบหมายให้แต่ละกระทรวงเปิดแถลงชี้แจงในรายละเอียดเชิงลึกอีกครั้ง โดยกำหนดให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.เป็นต้นไป ก่อนจะนำข้อมูลทั้งหมดมากล่าวสรุปอีกครั้งในคืนวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.2558 ผ่านรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยมีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่มีผลงานโดดเด่นเข้าร่วมและนำเสนอข้อมูล อันเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญต่อไป จนถึงขณะนี้รัฐบาลยอมรับว่า การส่งออกของไทยยังต้องใช้เวลาที่จะปรับตัวเลขให้สูงขึ้น โดยรัฐบาลพยายามสร้างตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ด้านสังคมยังคงเดินหน้าจัดระเบียบด้านต่างๆ โดยเฉพาะการประกาศให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมกันนั้นก็เริ่มมีบทบาทสำคัญด้านเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งการแก้ปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งนับเป็นก้าวบันไดตามโรดแมป ได้แก่ การยกร่างรัฐธรรมนูญ การปฎิรูปประเทศหรือการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ร.อ.นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผลงานของรัฐบาลที่มีความสำคัญคือเรื่องของความมั่นคงและการสร้างความปรองดอง ให้ฝ่ายที่มีความขัดแย้งได้มาพูดคุยกัน และปูทางเพื่อให้เกิดการปฏิรูปและการร่างรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเมินการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลว่า สิ่งที่เห็นเด่นชัดที่สุด คือ การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน การแก้ปัญหารุกล้ำพื้นที่ป่าและอุทยาน รวมถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่จำเป็น การสร้างความปรองดอง การดูแลความสงบเรียบร้อยได้ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึกหรือมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่ยังเห็นว่ากระบวนการสร้างความชอบธรรม ยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเท่าที่ควร จึงเห็นให้ปรับปรุงแก้ไข เช่นเดียวกับวิธีการสื่อสารกับประชาชน ที่ยังติดรูปแบบระบบราชการ ซึ่งเสนอให้ปรับเปลี่ยนเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงประชาชนมากขึ้น "ทหารอาจจะไม่ได้ถนัดเรื่องการประชาสัมพันธ์ แต่สามารถระดมทีมงานมาทำงานมาช่วยได้ แต่การแถลงผลงานต้องไม่ทำแบบการโฆษณาชวนเชื่อ ถ้ารัฐบาลไม่ปรับเรื่องนี้ ความชอบธรรมในการบริหารประเทศจะถูกลดลงไปเรื่อยๆ เพราะประชาชนไม่เข้าใจและไม่รู้ว่ารัฐบาลทำอะไร" รศ.ตระกูลให้ความเห็น ขณะที่ รศ.ยุทธพร อิสรชัย จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้คะแนนการบริหารประเทศของรัฐบาลประยุทธ์ 7 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คือ มีโอกาสที่จะเดินหน้าไปได้ แต่มีปัจจัยหลายส่วนทั้งภายในและภายนอกประเทศที่อาจเป็นทั้งอุปสรรคและแรงหนุนเสริมของรัฐบาลได้ การแถลงนโยบายในวันพรุ่งนี้ จะเริ่มในเวลา 9.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะเป็นผู้แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือน หลังเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และเพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยและจะมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงมีการตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนด้วย จากนั้นจะมอบหมายให้แต่ละกระทรวงเปิดแถลงชี้แจงในรายละเอียดเชิงลึกอีกครั้ง โดยกำหนดให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.เป็นต้นไป ก่อนจะนำข้อมูลทั้งหมดมากล่าวสรุปอีกครั้งในคืนวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.2558 ผ่านรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยมีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่มีผลงานโดดเด่นเข้าร่วมและนำเสนอข้อมูล อันเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญต่อไป จนถึงขณะนี้รัฐบาลยอมรับว่า การส่งออกของไทยยังต้องใช้เวลาที่จะปรับตัวเลขให้สูงขึ้น โดยรัฐบาลพยายามสร้างตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ด้านสังคมยังคงเดินหน้าจัดระเบียบด้านต่างๆ โดยเฉพาะการประกาศให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมกันนั้นก็เริ่มมีบทบาทสำคัญด้านเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งการแก้ปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งนับเป็นก้าวบันไดตามโรดแมป ได้แก่ การยกร่างรัฐธรรมนูญ การปฎิรูปประเทศหรือการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ร.อ.นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผลงานของรัฐบาลที่มีความสำคัญคือเรื่องของความมั่นคงและการสร้างความปรองดอง ให้ฝ่ายที่มีความขัดแย้งได้มาพูดคุยกัน และปูทางเว บ พนัน บอลเพื่อให้เกิดการปฏิรูปและการร่างรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเมินการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลว่า สิ่งที่เห็นเด่นชัดที่สุด คือ การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน การแก้ปัญหารุกล้ำพื้นที่ป่าและอุทยาน รวมถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่จำเป็น การสร้างความปรองดอง การดูแลความสงบเรียบร้อยได้ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึกหรือมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่ยังเห็นว่ากระบวนการสร้างความชอบธรรม ยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเท่าที่ควร จึงเห็นให้ปรับปรุงแก้ไข เช่นเดียวกับวิธีการสื่อสารกับประชาชน ที่ยังติดรูปแบบระบบราชการ ซึ่งเสนอให้ปรับเปลี่ยนเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงประชาชนมากขึ้น "ทหารอาจจะไม่ได้ถนัดเรื่องการประชาสัมพันธ์ แต่สามารถระดมทีมงานมาทำงานมาช่วยได้ แต่การแถลงผลงานต้องไม่ทำแบบการโฆษณาชวนเชื่อ ถ้ารัฐบาลไม่ปรับเรื่องนี้ ความชอบธรรมในการบริหารประเทศจะถูกลดลงไปเรื่อยๆ เพราะประชาชนไม่เข้าใจและไม่รู้ว่ารัฐบาลทำอะไร" รศ.ตระกูลให้ความเห็น ขณะที่ รศ.ยุทธพร อิสรชัย จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้คะแนนการบริหารประเทศของรัฐบาลประยุทธ์ 7 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คือ มีโอกาสที่จะเดินหน้าไปได้ แต่มีปัจจัยหลายส่วนทั้งภายในและภายนอกประเทศที่อาจเป็นทั้งอุปสรรคและแรงหนุนเสริมของรัฐบาลได้
วันนี้ (7 ก.พ.2564) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2564 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 ก.พ.นี้ โดยประชาชนนิยมออกไปเลือกซื้อวัตถุดิบเพื่อประกอบพิธีในการไหว้บร