วันนี้ (12 พ.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาพของผู้อพยพจำนวนมากที่พยายามข้ามบ้าน ผล บอล ย้อน หลัง บ้าน ผล บอล ย้อน หลัง
ครบ 112 วัน (3 ม.ค.2567) รัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เข้ามาขับเคลื่อนประเทศ มีคำถามต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะข้อกังขาถึงความเป็น “นายกฯตัวจริง” และตกอยู่ภายใต้เงาของ
การผลักดันนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพของโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สมัยที่ 2 แม้จะมีแรงต้าน แต่ในครั้งนี้ทรัมป์มาพร้อมประสบการณ์และเครื่องมือต่างๆ ในการรับมือกับแรงต้านเหล่านั้น ทอม โฮแมน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมพรมแดนทั้งหมดของสหรัฐฯ ในรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ประกาศเตรียมบุกจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมายครั้งใหญ่ในวันแรกที่ทำงาน ซึ่งคือวันนี้ (21 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากเขามองว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยสาธารณะ ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ค้นพบอุโมงค์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งไฟส่องสว่างและระบบระบายอากาศ โดยอุโมงค์ที่มีความยาวประมาณ 300 เมตรแห่งนี้เชื่อมระหว่าง Ciudad Juarez ในเม็กซิโก กับระบบระบายน้ำของเมืองเอล ปาโซ ในรัฐเท็กซัส ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสืบสวนว่าอุโมงค์ดังกล่าวสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดและถูกใช้มานานแค่ไหน ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางพรมแดน อ่านข่าว : "ทรัมป์" สาบานตนเป็น ปธน.สหรัฐฯ คนที่ 47 เดินหน้านโยบายผู้อพยพ เอล ปาโซ เป็นเมืองพรมแดนสำคัญอีกเมืองหนึ่งของสหรัฐฯ และเมื่อทรัมป์กลับมารอบนี้พร้อมกับนโยบายจัดการผู้อพยพอย่างเข้มงวด เอล ปาโซ จึงกลายเป็นแนวรบด่านหน้า โดยคนในพื้นที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ยังไม่ทันที่ทรัมป์จะรับตำแหน่งผู้นำ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ บริเวณพรมแดน ทั้งการติดตั้งรั้ว วางเครื่องกีดขวางและซักซ้อมแผนการต่าง ๆ ข้อมูลจากทางการสหรัฐฯ ชี้ว่า เมื่อปี 2022 มีผู้อพยพผิดกฎหมายในประเทศ ประมาณ 11 ล้านคน และเมื่อนำมารวมกับตัวเลขประมาณการระหว่างปี 2023 ถึงเดือน เม.ย.2024 พบว่าขณะนี้น่าจะมีผู้อพยพผิดกฎหมายที่เข้าข่ายถูกเนรเทศกลับประเทศต้นทาง ตามนโยบายของทรัมป์กว่า 13.3 ล้านคน แม้จะไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าผู้อพยพเหล่านี้อยู่ที่ไหนบ้าง แต่เชื่อว่าจำนวนไม่น้อยน่าจะเลือกอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นมิตรกับผู้อพยพ ซึ่งถูกเรียกว่า Sanctuary โดยพื้นที่ดังกล่าวเปรียบเสมือนพื้นที่หลบภัยสำหรับผู้อพยพ เนื่องจากพวกเขาจะไม่ต้องหวาดกลัวกับการถูกจับ หรือถูกเนรเทศด้วยเหตุผลแค่เรื่องเข้าเมืองผิดกฎหมาย แนวคิดเรื่องการให้ที่หลบภัยกับผู้อพยพผิดกฎหมาย เริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 ซึ่งองค์กรด้านศาสนาจัดหาสถานที่ปลอดภัยให้กับชาวอเมริกากลาง ที่หนีสงครามกลางเมืองเข้ามาในสหรัฐฯ โดยเมืองใหญ่ ๆ ที่ใช้นโยบายนี้ในยุคแรก ๆ มีทั้งซาน ฟรานซิสโก, ชิคาโกและลอส แอนเจลิส Sanctuary จะเป็นพื้นที่ที่ไม่บังคับให้คนเปิดเผยข้อมูลสถานะผู้อพยพเมื่อเข้าไปใช้บริการสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการศึกษาหรือสาธารณสุข รวมถึงการจำกัดการเปิดเผยข้อมูลสถานะดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นคนของรัฐบาลกลาง หรืออาจถึงขั้นห้ามไม่ให้มีการจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมาย หากคน ๆ นั้นไม่ได้ทำผิดอะไรอย่างอื่น นอกเหนือไปจากเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง อ่านข่าว : เมื่อ "ทรัมป์" ถอนตัว "ข้อตกลงปารีส" โลกจะเดือดขึ้นหรือไม่ ข้อมูลจากสหพันธ์เพื่อการปฏิรูปการเข้าเมืองอเมริกัน ชี้ว่า ปัจจุบันมีพื้นที่หลบภัยสำหรับผู้อพยพที่ใช้นโยบาย Sanctuary กว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดดในยุครัฐบาลบารัค โอบามา ต่อเนื่องไปถึงรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ สมัยแรก เมืองใหญ่ ๆ ที่ตั้งตัวเป็นที่หลบภัยของผู้อพยพมีตั้งแต่นิวยอร์ก, ลอส แอนเจลิส, ชิคาโก, ฟิลาเดลเฟีย, ซาน ดิเอโก และอีกหลายเมือง แต่หากสังเกตจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเดโมแครตทั้งนั้นทั้งในนิวยอร์ก, แคลิฟอร์เนียและอิลลินอยส์ พื้นที่หลบภัยเหล่านี้กลายเป็นหนามยอกอกที่คอยขัดขวางภารกิจเนรเทศผู้อพยพในระหว่างรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก เพราะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ในการจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมาย และเมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่น ก็ย่อมเป็นเรื่องยากที่คนของรัฐบาลกลางจะเข้าถึงตัวผู้อพยพได้ ดังนั้น เมื่อบ้าน ผล บอล ย้อน หลัง บ้าน ผล บอล ย้อน หลังก้าวเข้าสู่ยุคทรัมป์ 2.0 เมือง Sanctuary จึงกลายเป็นพื้นที่เป้าหมายแรก ๆ ของภารกิจเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ โดยนครชิคาโกอยู่ในรายชื่ออันดับแรกสุด ซึ่งมีรายงานว่า ปฏิบัติการบุกจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมายในชิคาโกอาจใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยอาศัยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรกว่า 200 คน หลังจากนี้ ต้องจับตาว่ามาตรการแข็งกร้าวของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 จะได้ผลมากน้อยเพียงใดและการต่อสู้คดีในชั้นศาลที่เกี่ยวเนื่องกับมาตรการนี้ตลอด 4 ปีนับจากนี้ไป ทีมงานของทรัมป์จะได้เปรียบรัฐบาลท้องถิ่นหรือไม่ แม้จะยังตอบชัดเจนไม่ได้ แต่ศึกครั้งนี้น่าจะรุนแรงและดุดันยิ่งกว่าในยุคทรัมป์สมัยแรก อ่านข่าว จับตา 100 วันแรก หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" นั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ "Tech Gang" มาเฟียเทคโนโลยี มือขวา "ทรัมป์" กู้วิกฤตสหรัฐฯ ทรัมป์เตรียมเปิดเอกสารลับ ลอบสังหาร JFK และอีก 2 บุคคลสำคัญ ย้อนผลงานสะเทือนโลก เมื่อครั้ง "ทรัมป์" นั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรก
สถานีประชาชน ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (PM
บ้าน ผล บอล ย้อน หลัง บ้าน ผล บอล ย้อน หลัง
วันนี้ (12 พ.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาพของผู้อพยพจำนวนมากที่พยายามข้ามบ้าน ผล บอล ย้อน หลัง บ้าน ผล บอล ย้อน หลัง
ครบ 112 วัน (3 ม.ค.2567) รัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เข้ามาขับเคลื่อนประเทศ มีคำถามต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะข้อกังขาถึงความเป็น “นายกฯตัวจริง” และตกอยู่ภายใต้เงาของ
การผลักดันนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพของโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สมัยที่ 2 แม้จะมีแรงต้าน แต่ในครั้งนี้ทรัมป์มาพร้อมประสบการณ์และเครื่องมือต่างๆ ในการรับมือกับแรงต้านเหล่านั้น ทอม โฮแมน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมพรมแดนทั้งหมดของสหรัฐฯ ในรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ประกาศเตรียมบุกจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมายครั้งใหญ่ในวันแรกที่ทำงาน ซึ่งคือวันนี้ (21 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากเขามองว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยสาธารณะ ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ค้นพบอุโมงค์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นอย่างดี มีการติดตั้งไฟส่องสว่างและระบบระบายอากาศ โดยอุโมงค์ที่มีความยาวประมาณ 300 เมตรแห่งนี้เชื่อมระหว่าง Ciudad Juarez ในเม็กซิโก กับระบบระบายน้ำของเมืองเอล ปาโซ ในรัฐเท็กซัส ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสืบสวนว่าอุโมงค์ดังกล่าวสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดและถูกใช้มานานแค่ไหน ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางพรมแดน อ่านข่าว : "ทรัมป์" สาบานตนเป็น ปธน.สหรัฐฯ คนที่ 47 เดินหน้านโยบายผู้อพยพ เอล ปาโซ เป็นเมืองพรมแดนสำคัญอีกเมืองหนึ่งของสหรัฐฯ และเมื่อทรัมป์กลับมารอบนี้พร้อมกับนโยบายจัดการผู้อพยพอย่างเข้มงวด เอล ปาโซ จึงกลายเป็นแนวรบด่านหน้า โดยคนในพื้นที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ยังไม่ทันที่ทรัมป์จะรับตำแหน่งผู้นำ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ บริเวณพรมแดน ทั้งการติดตั้งรั้ว วางเครื่องกีดขวางและซักซ้อมแผนการต่าง ๆ ข้อมูลจากทางการสหรัฐฯ ชี้ว่า เมื่อปี 2022 มีผู้อพยพผิดกฎหมายในประเทศ ประมาณ 11 ล้านคน และเมื่อนำมารวมกับตัวเลขประมาณการระหว่างปี 2023 ถึงเดือน เม.ย.2024 พบว่าขณะนี้น่าจะมีผู้อพยพผิดกฎหมายที่เข้าข่ายถูกเนรเทศกลับประเทศต้นทาง ตามนโยบายของทรัมป์กว่า 13.3 ล้านคน แม้จะไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าผู้อพยพเหล่านี้อยู่ที่ไหนบ้าง แต่เชื่อว่าจำนวนไม่น้อยน่าจะเลือกอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นมิตรกับผู้อพยพ ซึ่งถูกเรียกว่า Sanctuary โดยพื้นที่ดังกล่าวเปรียบเสมือนพื้นที่หลบภัยสำหรับผู้อพยพ เนื่องจากพวกเขาจะไม่ต้องหวาดกลัวกับการถูกจับ หรือถูกเนรเทศด้วยเหตุผลแค่เรื่องเข้าเมืองผิดกฎหมาย แนวคิดเรื่องการให้ที่หลบภัยกับผู้อพยพผิดกฎหมาย เริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 ซึ่งองค์กรด้านศาสนาจัดหาสถานที่ปลอดภัยให้กับชาวอเมริกากลาง ที่หนีสงครามกลางเมืองเข้ามาในสหรัฐฯ โดยเมืองใหญ่ ๆ ที่ใช้นโยบายนี้ในยุคแรก ๆ มีทั้งซาน ฟรานซิสโก, ชิคาโกและลอส แอนเจลิส Sanctuary จะเป็นพื้นที่ที่ไม่บังคับให้คนเปิดเผยข้อมูลสถานะผู้อพยพเมื่อเข้าไปใช้บริการสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการศึกษาหรือสาธารณสุข รวมถึงการจำกัดการเปิดเผยข้อมูลสถานะดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นคนของรัฐบาลกลาง หรืออาจถึงขั้นห้ามไม่ให้มีการจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมาย หากคน ๆ นั้นไม่ได้ทำผิดอะไรอย่างอื่น นอกเหนือไปจากเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง อ่านข่าว : เมื่อ "ทรัมป์" ถอนตัว "ข้อตกลงปารีส" โลกจะเดือดขึ้นหรือไม่ ข้อมูลจากสหพันธ์เพื่อการปฏิรูปการเข้าเมืองอเมริกัน ชี้ว่า ปัจจุบันมีพื้นที่หลบภัยสำหรับผู้อพยพที่ใช้นโยบาย Sanctuary กว่า 600 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดดในยุครัฐบาลบารัค โอบามา ต่อเนื่องไปถึงรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ สมัยแรก เมืองใหญ่ ๆ ที่ตั้งตัวเป็นที่หลบภัยของผู้อพยพมีตั้งแต่นิวยอร์ก, ลอส แอนเจลิส, ชิคาโก, ฟิลาเดลเฟีย, ซาน ดิเอโก และอีกหลายเมือง แต่หากสังเกตจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเดโมแครตทั้งนั้นทั้งในนิวยอร์ก, แคลิฟอร์เนียและอิลลินอยส์ พื้นที่หลบภัยเหล่านี้กลายเป็นหนามยอกอกที่คอยขัดขวางภารกิจเนรเทศผู้อพยพในระหว่างรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก เพราะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ในการจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมาย และเมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่น ก็ย่อมเป็นเรื่องยากที่คนของรัฐบาลกลางจะเข้าถึงตัวผู้อพยพได้ ดังนั้น เมื่อบ้าน ผล บอล ย้อน หลัง บ้าน ผล บอล ย้อน หลังก้าวเข้าสู่ยุคทรัมป์ 2.0 เมือง Sanctuary จึงกลายเป็นพื้นที่เป้าหมายแรก ๆ ของภารกิจเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ โดยนครชิคาโกอยู่ในรายชื่ออันดับแรกสุด ซึ่งมีรายงานว่า ปฏิบัติการบุกจับกุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมายในชิคาโกอาจใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยอาศัยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรกว่า 200 คน หลังจากนี้ ต้องจับตาว่ามาตรการแข็งกร้าวของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 จะได้ผลมากน้อยเพียงใดและการต่อสู้คดีในชั้นศาลที่เกี่ยวเนื่องกับมาตรการนี้ตลอด 4 ปีนับจากนี้ไป ทีมงานของทรัมป์จะได้เปรียบรัฐบาลท้องถิ่นหรือไม่ แม้จะยังตอบชัดเจนไม่ได้ แต่ศึกครั้งนี้น่าจะรุนแรงและดุดันยิ่งกว่าในยุคทรัมป์สมัยแรก อ่านข่าว จับตา 100 วันแรก หลัง "โดนัลด์ ทรัมป์" นั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ "Tech Gang" มาเฟียเทคโนโลยี มือขวา "ทรัมป์" กู้วิกฤตสหรัฐฯ ทรัมป์เตรียมเปิดเอกสารลับ ลอบสังหาร JFK และอีก 2 บุคคลสำคัญ ย้อนผลงานสะเทือนโลก เมื่อครั้ง "ทรัมป์" นั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ สมัยแรก
สถานีประชาชน ไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (PM