ส ล๊ อ ท -Apa Penyebabnya?

ลิ้ ง ดู บอล fa cup

วันนี้ (10 พ.ค.2564) นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ซึ่งได้มีการหารือเกี่ยวกับการพบเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์อินเดี

วันนี้ (13 ม.ค.2564) นักวิจัยจากสถาบันบูตันตันในบราซิล เปิดเผยว่า วัคซีนโคโรนาแวค ที่พัฒนาโดยบริษัท

วันนี้ (10 พ.ค.2564) นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ซึ่งได้มีการหารือเกี่ยวกับการพบเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์อินเดีย B.1.617.1 ในหญิงไทยที่เดินทางกลับจากประเทศปากีสถานเข้ามาไทย และอยู่ใน SQ ที่ประชุมจึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาระงับการออกหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (COE) ให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศที่พบไวรัส COVID-19 สายพันธุ์อินเดีย อ่านข่าวเพิ่ม หญิงไทยติดเชื้อกลายพันธุ์อินเดีย "B.1.617.1" คนแรกในไทย โฆษกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า มาตรการนี้ถือเป็นมาตรการชั่วคราว ในช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง COVID-19 สายพันธุ์อินเดีย เข้ามาในประเทศ และเป็นมาตรการสำหรับชาวต่างชาติทุกสัญชาติที่เดินทางมาจาก 3 ประเทศดังกล่าว รวมทั้งอินเดียที่ประกาศมาตรการไปก่อนหน้านี้ แต่คนไทยจากประเทศเหล่านี้ยังสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ ขณะที่สถานทูตไทย ประจำกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย แจ้งว่าในวันที่ 15 พ.ค. และ 22 พ.ค.นี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี จะอำนวยความสะดวกคนไทยส ล๊ อ ทที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ก่อนหน้านี้เมื่อวันนี้ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีมีข่าวว่ามีเครื่องบินเช่าเหมาลำของชาวอินเดีย เดินทางมายังประเทศไทยนั้น ไม่เป็นความจริง รัฐบาลดำเนินนโยบายเข้มข้นควบคุมการแพร่ระบาดของโรคผ่านทุกช่องทาง เพื่อป้องกันการเล็ดลอดของเชื้อ และได้ชะลอการยื่นขอใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ (COE) ของชาวต่างชาติที่ประสงค์เดินทางมาจากอินเดียออกไปก่อน โดยจะรับเพียงคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับบ้านและได้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ทอ.รับคนไทยกลับจากอินเดีย - จนท.สถานทูตติดโควิด 3 คน สถานทูตแนะคนไทยในอินเดียที่ไม่มีเหตุจำเป็นต้องพำนักอยู่กลับประเทศ ศบค.สั่งชะลอ 3 ประเทศเดินทางเข้าไทย-เพิ่มกักตัว 21 วัน

สำหรับโครงการบ้านหลังแรกที่มีการมองกันว่า ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือคนจน แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจของครอบครัวนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ยืนยัน โครงการบ้านหลังแรกไม่เอื้อประโยช