วันที่ 27 พ.ค.2564 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกร
วันนี้ (10 ก.พ.2567) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า รายงานจุดความร้อน (Hotspot) ทั่วประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 9 ก.พ.2567 อยู่ที่ 1,054 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอน
วันนี้ (3 พ.ย.2566) ตัวแทนจาก ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข และตำรวจ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือร่วมกันเรื่องการออกประกาศกำหนดจำนวนครอบครองเม็ดยาบ้าว่า ควรมีจำนวนกี่เม็ดถึงเป็นผู้
วันนี้ (23 พ.ย.2564) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลจับกุมเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบผ่านออนไลน์ ชื่อ Cash Go หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า แอพพลิเคชันนี้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายให้กับบุคคลทั่วไปในโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งผู้ที่กู้ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ บัญชีธนาคาร รายชื่อผู้ติดต่อภายในโทรศัพท์ ตำแหน่งการใช้งาน รูปภาพ จากนั้นเมื่อกู้เงินสำเร็จจะมีระยะเวลากำหนดชำระคืนภายใน 7 วัน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 234 ต่อเดือน หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดระยะเวลา จะถเลข อั้น 16 9 63ูกทวงถามด้วยวิธีการส่งข้อความไปข่มขู่ผ่านบุคคลที่ 3 ในลักษณะประจาน ทำให้ผู้กู้เงินได้รับความอับอายเสียชื่อเสียง ข้อมูลของตำรวจพบว่า กลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้ มีนายทุนชาวจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาหลายปี และแต่งงานกับหญิงไทย พักอาศัยที่อาคารสยามคอนโดมิเนียม ถนนพระราม 9 ซอย 13 เขตห้วยขวาง จึงขอหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้น พบนายเจี๋ย หลิว สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นผู้พักอาศัย ส่วนการตรวจค้นห้องพักพบหลักฐานหลายรายการ เช่น สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 17 เล่ม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 23 เครื่อง รวมทั้งซิมการ์ดโทรศัพท์อีก 13 ซิม นายเจี๋ย หลิว ให้การยอมรับกับตำรวจว่า เป็นผู้ดูแลจัดการแอปพลิเคชันเงินกู้หลายแอปพลิเคชัน ซึ่งมีเซิฟเวอร์อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยว่าจ้างบุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคาร และผูกกับซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อทำการรับโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ และใช้รับโอนเงินจากลูกหนี้ที่ผ่อนชำระเงินกู้ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระจะส่งข้อความประจานไปยังบุคคลอื่น เพื่อให้ลูกหนี้เกิดความอับอาย นอกจากนี้ จากการสืบสวน พบว่า ทุก ๆ 3 เดือน ผู้ต้องหาได้กำไรจากการปล่อยเงินกู้ประมาณ 40 ล้านบาท ก่อนเปลี่ยนเป็นเงินสกุลดิจิทัล โอนกลับไปให้นายทุนชาวจีนในต่างประเทศ ซึ่งฝ่ายสืบสวนจะมีการขยายผลถึงเจ้าของเงินสกุลดิจิทัลดังกล่าวต่อไป เบื้องต้นตำรวจนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง แอปฯ กู้เงินระบาด ดอกเบี้ยโหด ทวงประจานเพื่อน-เจ้านาย
วันนี้ (8 ต.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอด 7 วันหลังเหตุการณ์รถบัสของโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม จ.อุ
วันนี้ (6 เม.ย.2568) ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการตามแผนเดิม หลังเกิดเหตุการณ
วันนี้ (23 พ.ย.2564) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลจับกุมเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินก
วันนี้ (23 พ.ย.2564) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลจับกุมเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบผ่านออนไลน์ ชื่อ Cash Go หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า แอพพลิเคชันนี้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายให้กับบุคคลทั่วไปในโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งผู้ที่กู้ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ บัญชีธนาคาร รายชื่อผู้ติดต่อภายในโทรศัพท์ ตำแหน่งการใช้งาน รูปภาพ จากนั้นเมื่อกู้เงินสำเร็จจะมีระยะเวลากำหนดชำระคืนภายใน 7 วัน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 234 ต่อเดือน หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดระยะเวลา จะถเลข อั้น 16 9 63ูกทวงถามด้วยวิธีการส่งข้อความไปข่มขู่ผ่านบุคคลที่ 3 ในลักษณะประจาน ทำให้ผู้กู้เงินได้รับความอับอายเสียชื่อเสียง ข้อมูลของตำรวจพบว่า กลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้ มีนายทุนชาวจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาหลายปี และแต่งงานกับหญิงไทย พักอาศัยที่อาคารสยามคอนโดมิเนียม ถนนพระราม 9 ซอย 13 เขตห้วยขวาง จึงขอหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้น พบนายเจี๋ย หลิว สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นผู้พักอาศัย ส่วนการตรวจค้นห้องพักพบหลักฐานหลายรายการ เช่น สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 17 เล่ม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 23 เครื่อง รวมทั้งซิมการ์ดโทรศัพท์อีก 13 ซิม นายเจี๋ย หลิว ให้การยอมรับกับตำรวจว่า เป็นผู้ดูแลจัดการแอปพลิเคชันเงินกู้หลายแอปพลิเคชัน ซึ่งมีเซิฟเวอร์อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยว่าจ้างบุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคาร และผูกกับซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อทำการรับโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ และใช้รับโอนเงินจากลูกหนี้ที่ผ่อนชำระเงินกู้ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระจะส่งข้อความประจานไปยังบุคคลอื่น เพื่อให้ลูกหนี้เกิดความอับอาย นอกจากนี้ จากการสืบสวน พบว่า ทุก ๆ 3 เดือน ผู้ต้องหาได้กำไรจากการปล่อยเงินกู้ประมาณ 40 ล้านบาท ก่อนเปลี่ยนเป็นเงินสกุลดิจิทัล โอนกลับไปให้นายทุนชาวจีนในต่างประเทศ ซึ่งฝ่ายสืบสวนจะมีการขยายผลถึงเจ้าของเงินสกุลดิจิทัลดังกล่าวต่อไป เบื้องต้นตำรวจนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง แอปฯ กู้เงินระบาด ดอกเบี้ยโหด ทวงประจานเพื่อน-เจ้านาย
ผู้เห็นต่างเข้าร่วมเวทีค.3 โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไม่ได้-จ่อร้อง ศอ.บต.สอบวินัยผู้ว่าฯสงขลา วันนี้ (27 ก