13 ตุลาคม "วันนวมินทรมหาราช" เป็นปีที่ 7 ของวันสวร

วันที่ 5 ม.ค.2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ให้ดำเนินการตามนี้เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) โดยโทร.สายด่วน สปส
วันนี้ (6 มิ.ย.2566) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 13 คน ดังนี้ สำหรับการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินครั้งน
วันนี้ (13 ม.ค.2568) กรมสรรพากร เดินหน้าต่อมาตรการภาษี “Easy E-Receipt 2.0” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และส่งเสริมเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี 2568 โดยผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล ทั้งนี้ สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ.2568 ตามจำนวนที่จ่ายจริงมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับเอกสารยืนยันการใช้จ่ายในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เท่านั้น นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการภาษี Easy E-Receipt 2.0 เป็นการต่อยอดจากมาตรการเดิมที่ประสบความสำเร็จในปี 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงส่งเสริมการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้มาตรการนี้ ผู้เสียภาษีสามารถลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริงได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น 1.ลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท ซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) 2.ลดหย่อนเพิ่มเติมอีก 20,000 บาท ต้องใช้หลักฐาน e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เช่นกัน โดยซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP), ซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชน, ซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคม อ่านข่าว : ยื่นภาษี 2567 ให้คุ้ม! วิธีใช้ "ค่าลดหย่อน" ให้เต็มสิทธิ์ ทั้งนี้ การซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ 2 สามารถใช้สิทธิลดหย่อน 30,000 บาท ตามข้อ 1 ได้เช่นกัน โดย e-Tax Invoice และ e-Receipt ต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการนี้นอกจากจะช่วยลดภาระภาษีให้กับประชาชนแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในภาพรวม คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt จำนวน 12,395 ราย โดยมีร้านค้ารวมทั้งสิ้น 108,873 ร้านคา แบ่งเป็น e-Tax Invoice & e-Receipt จำนวน 101,297 ร้านค้า, e-Tax Invoice by Time Stamp จำนวน 7,576 ร้านค้า สำหรับร้านค้าที่ต้องการใช้ระบบ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt สามารถติดต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่ร้านค้าตั้งอยู่ โดยผู้เสียภาษีและร้านค้าสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rd.go.th หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 อ่านข่าว : “บ้านเพื่อคนไทย” ยุคเศรษฐกิจขาลง “Genใหม่” เช่า มากกว่า ซื้อ "OPPO - RealMe" ยอมบาคาร่าล่าสุดM98หนังสติ๊กยิงปลาจากจีนรับติดตั้งแอปฯ เงินกู้จากโรงงาน-ไม่ได้ขอ ธปท. Eason Chan ยกเลิกคอนเสิร์ต -ทัวร์จีนยกเลิกปมไทยไม่ปลอดภัย
วันนี้ (4 ส.ค.2564) นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากสายการบินท
วันนี้ (13 ม.ค.2568) กรมสรรพากร เดินหน้าต่อมาตรการภาษี “Easy E-Receipt 2.0” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในป
มาดริดถล่มซาราโกซ่า 6-0 รีล มาดริด ประเดิมฤดูกาลใหม่ฟุตบอลลาลีกา สเปน ได้อย่างยอดเยี่ยมหลังบุกไปชนะ
วันนี้ (13 ม.ค.2568) กรมสรรพากร เดินหน้าต่อมาตรการภาษี “Easy E-Receipt 2.0” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และส่งเสริมเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี 2568 โดยผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล ทั้งนี้ สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ.2568 ตามจำนวนที่จ่ายจริงมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับเอกสารยืนยันการใช้จ่ายในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เท่านั้น นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการภาษี Easy E-Receipt 2.0 เป็นการต่อยอดจากมาตรการเดิมที่ประสบความสำเร็จในปี 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงส่งเสริมการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้มาตรการนี้ ผู้เสียภาษีสามารถลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริงได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น 1.ลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท ซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) 2.ลดหย่อนเพิ่มเติมอีก 20,000 บาท ต้องใช้หลักฐาน e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เช่นกัน โดยซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP), ซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชน, ซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคม อ่านข่าว : ยื่นภาษี 2567 ให้คุ้ม! วิธีใช้ "ค่าลดหย่อน" ให้เต็มสิทธิ์ ทั้งนี้ การซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ 2 สามารถใช้สิทธิลดหย่อน 30,000 บาท ตามข้อ 1 ได้เช่นกัน โดย e-Tax Invoice และ e-Receipt ต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการนี้นอกจากจะช่วยลดภาระภาษีให้กับประชาชนแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในภาพรวม คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt จำนวน 12,395 ราย โดยมีร้านค้ารวมทั้งสิ้น 108,873 ร้านคา แบ่งเป็น e-Tax Invoice & e-Receipt จำนวน 101,297 ร้านค้า, e-Tax Invoice by Time Stamp จำนวน 7,576 ร้านค้า สำหรับร้านค้าที่ต้องการใช้ระบบ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt สามารถติดต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่ร้านค้าตั้งอยู่ โดยผู้เสียภาษีและร้านค้าสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rd.go.th หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161 อ่านข่าว : “บ้านเพื่อคนไทย” ยุคเศรษฐกิจขาลง “Genใหม่” เช่า มากกว่า ซื้อ "OPPO - RealMe" ยอมบาคาร่าล่าสุดM98หนังสติ๊กยิงปลาจากจีนรับติดตั้งแอปฯ เงินกู้จากโรงงาน-ไม่ได้ขอ ธปท. Eason Chan ยกเลิกคอนเสิร์ต -ทัวร์จีนยกเลิกปมไทยไม่ปลอดภัย
วันนี้ (23 ก.ย.2567) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย