หลังจากมีคลิปของคนไทยทำงานไอซ์แลนด์ โพสต์คลิป 2 เห

ยอดนักท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์หยุดยาวของประเทศจีน หรือ โกลเด้น วีค (Golden Week) ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค.2565 อาจจะแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี นักวิเคราะห์ด้านการท่องเที่ยวของจีน ให้เหตุผลว่า เป
กว่า 50 ปี "ร้านเจ้เล้ง" ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง จำหน่ายน้ำหอม-เครื่องสำอาง-และสินค้าต่าง ๆ นำเข้ามาจากต่างประเทศ หลายคนคงอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้ "เจ้เล้ง" อยู่มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน การทำ
กว่า 50 ปี "ร้านเจ้เล้ง" ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง จำหน่ายน้ำหอม-เครื่องสำอาง-และสินค้าต่าง ๆ นำเข้ามาจากต่างประเทศ หลายคนคงอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้ "เจ้เล้ง" อยู่มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน การทำธุรกิจแบบเจ้เล้งเป็นแบบไหน "รายการคุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น" มีโอกาสได้มาคุยกับ "อารยา ลาภชีวสิทธิฉัตร" หรือ เจ้เล้ง กับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันสูง การซื้อขายผ่านออนไลน์มีผลกระทบอย่างไร วันนี้ นอกจากได้ฟัง "เจ้เล้ง" ประเมินเศรษฐกิจภาพรวมค้าขาย ยังได้มาเรียนรู้การทำธุรกิจแบบเจ้เล้ง และการใช้ชีวิตในยุคที่เรียกว่าข้าวยากหมากแพงได้อย่างไร "เจ้เล้ง" ในวัย 78 ปี พูดด้วยรอยยิ้มว่า หากเป็นไปได้จะอยู่ให้ถึงอายุ 100 ปี (หัวเราะ) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงหรือไม่ แต่อย่างน้อยในช่วงทดู ผล บอล คืน นี้ ทุก คู่ี่มีชีวิตอยู่ก็ดูแลตัวเองทั้งในเรื่องของอาหารการกิน ออกกำลังกาย เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง เมื่อพูดถึงในด้านของการค้าขาย "เจ้เล้ง" บอกว่าได้มีการปรับตัวตามสถานการณ์ตลอดเวลา โดยเฉพาะในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงในด้านขายออนไลน์ แต่ในอีกมุมหนึ่งยังทำให้เกิดภาวะ "ใช้เงินเกินตัว" โปรโมชันลดแลกแจกแถม การโฆษณาสินค้าเกินจริง ทำให้บางคนอยากจะซื้อไปใช้แม้จะไม่จำเป็นก็ตาม เนื่องด้วยไม่ได้มีการควบคุม ส่งผลให้คนบางกลุ่มใช้เงินเกินตัว มีแค่โทรศัพท์เครื่องเดียวก็ใช้ซื้อของออนไลน์ได้ ไม่สนใจว่าใช้แล้วเงินหมดไหม พอเงินหมด ก็กู้ต่อ มันมีโอกาสใช้เงินอนาคตกันทุกคน บ้านเมืองเราเจ๊งเพราะเรื่องโอกาสที่มีให้มากเกินไปสำหรับชนชั้นที่ยังไม่มีสติ ที่จะระงับยับยั้งชั่งใจ หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี เจ้เล้ง มองว่าสิ่งที่ต้องทำก่อนคือจัดระบบสถาบันการเงินที่ไม่ให้ปล่อยกู้มากเกินไป เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเป็นหนี้ได้ง่าย ส่วนธนาคารก็กินดอกเบี้ยสบาย ๆ จากบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต โดยมองว่าคนคนหนึ่งไม่ควรมีบัตรเครดิตเกินหนึ่งใบ แต่ส่วนใหญ่พบว่าคนหนึ่งมีบัตรเครดิตหลายบัตร ส่งผลให้เกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง โดยเฉพาะคนที่มีรายได้ปานกลาง ไปถึงน้อย "บางคนเงินเดือนออกมา เหลือใช้ไม่เท่าไหร่ เพราะต้องเอาเงินไปใช้เขาหมด และก็ทำให้ไปกดเงินสดออกมาใหม่ เดือนหน้าก็ไปกดมาแล้วก็ไปใช้เขา เท่ากับที่จ่ายนั้นคือแค่ดอกเบี้ย ไม่ใช่ต้น" สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่น่าเป็นห่วง แม้ว่าคนค้าขายจะลดราคา ทำโปรโมชันก็ยาก เนื่องด้วยรายได้หดหาย ของแพงขึ้น อำนาจซื้อไม่มี ตอนนี้คนระดับกลาง กับระดับล่าง ลองคิดตามนะ บางคนเงินเดือนถึงแสนบาท ก็ไม่พอหรอก เพราะเมื่อมีเงินเดือนเยอะก็จะซื้อบ้านราคาหลักสิบล้านเพราะคิดว่าผ่อนได้ ผ่อนรถอีก ค่าใช้จ่ายอีก เดือนไหนไม่พอจ่ายก็รูดบัตรเครดิต ก็กลายเป็นหนี้วนไป เจ้เล้ง เล่าย้อน ในช่วงมีอาชีพปล่อยเงินกู้ คนที่มากู้ส่วนใหญ่ก็เกิดเพราะใช้จ่ายเงินเกินตัว แต่ก็มีบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ ก็มี ตอนนั้นก็ปล่อยกู้ร้อยละ 20 ยึดบัตรเอทีเอ็ม และสมุดเงินฝากไว้กับตัว พอสิ้นเดือนก็กดเงินออกมา ตอนนั้นก็ปล่อยกู้ไปพันกว่าคน จากดอกเบี้ยร้อยละ 20 ก็เริ่มลดมาเหลือ 10 เหลือ 7 และสุดท้ายเหลือ 3 แล้วก็เลิกทำอาชีพนี้ สมัย นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการนำสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เงินสด สินเชื่อแห่งหนึ่งเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งในตอนนั้น เจ้เล้ง บอกว่า ต่อไปอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีโจรกับจนเต็มบ้านไปหมด เพราะอาชีพนี้ฉันทำมาก่อน จึงรู้ว่าถ้ามีโอกาสแบบนี้เยอะ ๆ คนจนจะไม่มีสติคิดยับยั้งชั่งใจที่อยากจะใช้เงิน และสุดท้ายในปัจจุบันเราก็ได้เห็นว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ถ้าถามว่าแล้ว เจ้เล้ง ไม่เคยกู้ธนาคารเลยหรือ คำตอบ คือ ไม่เคยกู้ธนาคาร เพราะมีคติที่ว่า กินเท่าที่มี ทำเท่าที่มี ใช้เท่าที่มี แม้กระทั่งธุรกิจที่กำลังจะทำใหม่ต้องใช้เงินกว่า 2,000 ล้านบาท ก็เป็นเงินสดที่ไม่ได้กู้ธนาคาร ส่วนเคล็ดลับในการทำธุรกิจไม่เคยเจ๊ง เพราะทำเท่าที่มีตัวเองมี ทำเท่าที่ไหว ถ้าไม่เวิร์คก็หยุดทันที ไม่เคยกลัวเสียหน้า ช่วงหลังมีสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาเป็นคู่แข่งมากขึ้น ถ้าถามว่ามีผลกระทบหรือไม่ เจ้เล้ง บอกว่า เจ้เล้งดอนเมืองจะฉีกแนวไปขายสินค้าที่มาจากญี่ปุ่น และยุโรป ไม่ได้ขายสินค้าจากจีน แต่ในทางกลับกันก็มองว่า ตอนนี้ไม่ว่าจะขายสินค้าอะไรก็ตาม คนก็ไม่ได้มีกำลังซื้อเหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะคนใช้เงินแบบไม่มีเงินจะใช้แล้ว ถ้าถามว่าการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะช่วยคนจนได้หรือไม่ เจ้เล้ง ย้ำว่า หากแจกคนจนจริง ๆ ก็เห็นด้วย แต่ต้องทำให้โปร่งใส อย่าแจกจนเละเทะ แต่สิ่งสำคัญหากจะแก้ที่ต้นทาง รัฐบาลจะต้องจัดการเรื่องหนี้ในระบบสถาบันการเงินของประชาชนก่อน อาจจะเป็นการหยุดดอกเบี้ยเพื่อให้เขาสามารถจ่ายต้นได้หมด ถ้าถามว่าชีวิตของเจ้เล้งทุกวันนี้เป็นอย่างไร จะบอกว่าการค้าขายไม่มีผลกระทบก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ค้าขายดีเหมือนสมัยก่อน เพราะด้วยช่องทางการซื้อเยอะขึ้น แต่ตลอดเวลาก็มีการปรับตัวและด้วยความที่ตัวเองเป็นคนที่มองอนาคตไว้ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว จึงได้มาเริ่มทำอาชีพอื่น ๆ ทั้งบ้านเช่า บ้านคนแก่ และสร้างอพาร์ตเมนต์ใกล้กับมหาวิทยาลัย "การมองโลกล่วงหน้า ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น รีบปรับตัวก่อน จึงจะทำให้การบริหารธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้" พบกับรายการ : คุยนอกกรอบกับสุทธิชัย หยุ่น ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 21.30-22.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
วันนี้ (12 ก.ย.2566) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐาน
วันนี้ (29 ก.ย.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ร่วม กล่าวปาฐกถาพิเศษ “Next Chapte
วันนี้ (15 เม.ย.2567) เว็บไซต์เจาะลึกระบบสุขภาพ ชวนประชาชนทำความรู้จัก "ใบส่งตัว" การออกหนังสือส่งตั
กว่า 50 ปี "ร้านเจ้เล้ง" ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง จำหน่ายน้ำหอม-เครื่องสำอาง-และสินค้าต่าง ๆ นำเข้ามาจากต่างประเทศ หลายคนคงอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้ "เจ้เล้ง" อยู่มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน การทำธุรกิจแบบเจ้เล้งเป็นแบบไหน "รายการคุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น" มีโอกาสได้มาคุยกับ "อารยา ลาภชีวสิทธิฉัตร" หรือ เจ้เล้ง กับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันสูง การซื้อขายผ่านออนไลน์มีผลกระทบอย่างไร วันนี้ นอกจากได้ฟัง "เจ้เล้ง" ประเมินเศรษฐกิจภาพรวมค้าขาย ยังได้มาเรียนรู้การทำธุรกิจแบบเจ้เล้ง และการใช้ชีวิตในยุคที่เรียกว่าข้าวยากหมากแพงได้อย่างไร "เจ้เล้ง" ในวัย 78 ปี พูดด้วยรอยยิ้มว่า หากเป็นไปได้จะอยู่ให้ถึงอายุ 100 ปี (หัวเราะ) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงหรือไม่ แต่อย่างน้อยในช่วงทดู ผล บอล คืน นี้ ทุก คู่ี่มีชีวิตอยู่ก็ดูแลตัวเองทั้งในเรื่องของอาหารการกิน ออกกำลังกาย เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง เมื่อพูดถึงในด้านของการค้าขาย "เจ้เล้ง" บอกว่าได้มีการปรับตัวตามสถานการณ์ตลอดเวลา โดยเฉพาะในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงในด้านขายออนไลน์ แต่ในอีกมุมหนึ่งยังทำให้เกิดภาวะ "ใช้เงินเกินตัว" โปรโมชันลดแลกแจกแถม การโฆษณาสินค้าเกินจริง ทำให้บางคนอยากจะซื้อไปใช้แม้จะไม่จำเป็นก็ตาม เนื่องด้วยไม่ได้มีการควบคุม ส่งผลให้คนบางกลุ่มใช้เงินเกินตัว มีแค่โทรศัพท์เครื่องเดียวก็ใช้ซื้อของออนไลน์ได้ ไม่สนใจว่าใช้แล้วเงินหมดไหม พอเงินหมด ก็กู้ต่อ มันมีโอกาสใช้เงินอนาคตกันทุกคน บ้านเมืองเราเจ๊งเพราะเรื่องโอกาสที่มีให้มากเกินไปสำหรับชนชั้นที่ยังไม่มีสติ ที่จะระงับยับยั้งชั่งใจ หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี เจ้เล้ง มองว่าสิ่งที่ต้องทำก่อนคือจัดระบบสถาบันการเงินที่ไม่ให้ปล่อยกู้มากเกินไป เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเป็นหนี้ได้ง่าย ส่วนธนาคารก็กินดอกเบี้ยสบาย ๆ จากบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต โดยมองว่าคนคนหนึ่งไม่ควรมีบัตรเครดิตเกินหนึ่งใบ แต่ส่วนใหญ่พบว่าคนหนึ่งมีบัตรเครดิตหลายบัตร ส่งผลให้เกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง โดยเฉพาะคนที่มีรายได้ปานกลาง ไปถึงน้อย "บางคนเงินเดือนออกมา เหลือใช้ไม่เท่าไหร่ เพราะต้องเอาเงินไปใช้เขาหมด และก็ทำให้ไปกดเงินสดออกมาใหม่ เดือนหน้าก็ไปกดมาแล้วก็ไปใช้เขา เท่ากับที่จ่ายนั้นคือแค่ดอกเบี้ย ไม่ใช่ต้น" สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่น่าเป็นห่วง แม้ว่าคนค้าขายจะลดราคา ทำโปรโมชันก็ยาก เนื่องด้วยรายได้หดหาย ของแพงขึ้น อำนาจซื้อไม่มี ตอนนี้คนระดับกลาง กับระดับล่าง ลองคิดตามนะ บางคนเงินเดือนถึงแสนบาท ก็ไม่พอหรอก เพราะเมื่อมีเงินเดือนเยอะก็จะซื้อบ้านราคาหลักสิบล้านเพราะคิดว่าผ่อนได้ ผ่อนรถอีก ค่าใช้จ่ายอีก เดือนไหนไม่พอจ่ายก็รูดบัตรเครดิต ก็กลายเป็นหนี้วนไป เจ้เล้ง เล่าย้อน ในช่วงมีอาชีพปล่อยเงินกู้ คนที่มากู้ส่วนใหญ่ก็เกิดเพราะใช้จ่ายเงินเกินตัว แต่ก็มีบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ ก็มี ตอนนั้นก็ปล่อยกู้ร้อยละ 20 ยึดบัตรเอทีเอ็ม และสมุดเงินฝากไว้กับตัว พอสิ้นเดือนก็กดเงินออกมา ตอนนั้นก็ปล่อยกู้ไปพันกว่าคน จากดอกเบี้ยร้อยละ 20 ก็เริ่มลดมาเหลือ 10 เหลือ 7 และสุดท้ายเหลือ 3 แล้วก็เลิกทำอาชีพนี้ สมัย นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการนำสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เงินสด สินเชื่อแห่งหนึ่งเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งในตอนนั้น เจ้เล้ง บอกว่า ต่อไปอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีโจรกับจนเต็มบ้านไปหมด เพราะอาชีพนี้ฉันทำมาก่อน จึงรู้ว่าถ้ามีโอกาสแบบนี้เยอะ ๆ คนจนจะไม่มีสติคิดยับยั้งชั่งใจที่อยากจะใช้เงิน และสุดท้ายในปัจจุบันเราก็ได้เห็นว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ถ้าถามว่าแล้ว เจ้เล้ง ไม่เคยกู้ธนาคารเลยหรือ คำตอบ คือ ไม่เคยกู้ธนาคาร เพราะมีคติที่ว่า กินเท่าที่มี ทำเท่าที่มี ใช้เท่าที่มี แม้กระทั่งธุรกิจที่กำลังจะทำใหม่ต้องใช้เงินกว่า 2,000 ล้านบาท ก็เป็นเงินสดที่ไม่ได้กู้ธนาคาร ส่วนเคล็ดลับในการทำธุรกิจไม่เคยเจ๊ง เพราะทำเท่าที่มีตัวเองมี ทำเท่าที่ไหว ถ้าไม่เวิร์คก็หยุดทันที ไม่เคยกลัวเสียหน้า ช่วงหลังมีสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาเป็นคู่แข่งมากขึ้น ถ้าถามว่ามีผลกระทบหรือไม่ เจ้เล้ง บอกว่า เจ้เล้งดอนเมืองจะฉีกแนวไปขายสินค้าที่มาจากญี่ปุ่น และยุโรป ไม่ได้ขายสินค้าจากจีน แต่ในทางกลับกันก็มองว่า ตอนนี้ไม่ว่าจะขายสินค้าอะไรก็ตาม คนก็ไม่ได้มีกำลังซื้อเหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะคนใช้เงินแบบไม่มีเงินจะใช้แล้ว ถ้าถามว่าการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะช่วยคนจนได้หรือไม่ เจ้เล้ง ย้ำว่า หากแจกคนจนจริง ๆ ก็เห็นด้วย แต่ต้องทำให้โปร่งใส อย่าแจกจนเละเทะ แต่สิ่งสำคัญหากจะแก้ที่ต้นทาง รัฐบาลจะต้องจัดการเรื่องหนี้ในระบบสถาบันการเงินของประชาชนก่อน อาจจะเป็นการหยุดดอกเบี้ยเพื่อให้เขาสามารถจ่ายต้นได้หมด ถ้าถามว่าชีวิตของเจ้เล้งทุกวันนี้เป็นอย่างไร จะบอกว่าการค้าขายไม่มีผลกระทบก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ค้าขายดีเหมือนสมัยก่อน เพราะด้วยช่องทางการซื้อเยอะขึ้น แต่ตลอดเวลาก็มีการปรับตัวและด้วยความที่ตัวเองเป็นคนที่มองอนาคตไว้ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว จึงได้มาเริ่มทำอาชีพอื่น ๆ ทั้งบ้านเช่า บ้านคนแก่ และสร้างอพาร์ตเมนต์ใกล้กับมหาวิทยาลัย "การมองโลกล่วงหน้า ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น รีบปรับตัวก่อน จึงจะทำให้การบริหารธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้" พบกับรายการ : คุยนอกกรอบกับสุทธิชัย หยุ่น ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 21.30-22.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
วันนี้ (18 ต.ค.2567) ผู้เสียหายจากการขายสินค้าของดิไอคอนกรุ๊ป เข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนก