ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ สำหรับวาระการเลือกตั้ง 2566 ที่มีมาต่อเนื่องและคึกคั

วันนี้ (21 มิ.ย.2566) ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ในฐานะส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเข้ารายงานตัวเป็น ส.ส.สมัยแรก มีรายงานข่าวว่า ช่วงดึกของ

ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ สำหรับวาระการเลือกตั้ง 2566 ที่มีมาต่อเนื่องและคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะแต่ละพรรคเน้นลงพื้นที่กันอย่างเข้มข้นก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.นั้น นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในขณะที่ประชาชนกำลังขุ่นเคืองกับวิกฤตคอร์รัปชัน แต่พรรคการเมืองกลับนิ่งเฉยหรือแสร้งไม่รู้ร้อนที่จะพูดถึงนโยบายปราบคอร์รัปชันเพื่อเรียกคะแนนเสียง ทั้งที่นักการเมืองคือยอดพิระมิดของการฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะมีทั้งอำนาจและอิทธิพลที่จะปราบคนโกงให้อยู่หมัดหรือจะทำชั่วปล้นชาติเสียเองก็ได้ ดังนั้นองค์กรฯ และภาคีเครือข่าย จึงร่วมกันรณรงค์ขยายผลเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชนจากผลโพล โดยร้อยละ 95 บอกว่า นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคและนักการเมือง มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด ทั้งนี้ ผลโพลดังกล่าว หรือ “ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองในการเลือกตั้ง 2566” นั้น มาจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และมูลนิธิเพื่อ“คนไทย” โดยได้จัดทำและเผยแพร่ผลแล้วเมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลสำรวจครั้งผล 7 mนี้แตกต่างจากผลสำรวจครั้งก่อนหน้านี้ตรงที่ประชาชนบอกว่า ปัญหาสำคัญของประเทศต้องแก้ไขมากสุด คือ คอร์รัปชัน ส่วนอันดับ 2 การศึกษา อันดับ 3 ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ยังมีเสียงสะท้อนมากถึงร้อยละ 91 ระบุว่า ภาคการเมืองจะต้องมีบทบาทต้านโกงชัดเจน และร้อยละ 86.2 ระบุว่า หากพรรคไม่มีนโยบายต้านโกงจะไม่เลือกพรรคนั้นเพราะไม่โปร่งใสตั้งแต่แรก เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ การที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังไม่มีการประกาศนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันชัดเจน สาเหตุน่าจะมาจากคอร์รัปชันจึงเป็นเรื่องที่สังคมจับจ้อง จะพูดทีเล่นทีจริงไม่ได้ และหมดยุคแล้วกับคำพูดหวานหูแต่เลื่อนลอย เช่น จะบริหารบ้านเมืองอย่างโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล มีอุดมการณ์ จะรักษาความซื่อสัตย์ สำหรับพรรคที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนเพราะเชื่อมั่นในนโนบายต่อต้านคอร์รัปชัน สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะถูกประชาชนติดตามทวงถามว่าเรื่องนั้น ๆ ลงมือทำจริงหรือไม่ เกิดเป็นผลงานแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากทำแล้วแต่ติดขัดประชาชนย่อมให้การสนับสนุน ทางกลับกัน หากคนในพรรคไปคดโกงปล้นชาติเสียเอง ประชาชนจะยิ่งก่นด่าประนามเป็นทวีคูณ และจะสูญเสียความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรคและนักการเมืองลงอย่างชัดเจน ดังตัวอย่างที่มีให้เห็นมากมาย สามารถศึกษาผลโพล “ความเห็นประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองในการเลือกตั้ง 2566” [กดลิงค์เพื่ออ่านข้อมูล: http://bit.ly/3mym1Km.]

วันนี้ (10 พ.ย.2564) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอญัตติด่วนต่อสภา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการว