จากกรณีสายการบิน Aeroflot เที่ยวบิน SU 277 ภูเก็ต - มอสโก หลังขึ้นบินจากสนามบินภูเก็ต ในช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.พ. โดยได้มีการบินวนมาร่วม 5 ชั่วโมง ก่อนจะขอลงจอดฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยข้อมูลจา

จากกรณีสายการบิน Aeroflot เที่ยวบิน SU 277 ภูเก็ต - มอสโก หลังขึ้นบินจากสนามบินภูเก็ต ในช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.พ. โดยได้มีการบินวนมาร่วม 5 ชั่วโมง ก่อนจะขอลงจอดฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยข้อมูลจากแหล่งข่าว บวท.แจ้งว่า เครื่องบินลำดังกล่าวจะบินวนลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ต แต่เกรงว่าจะมีปัญหาเครื่อง ไม่สามารถเอาเครื่องไปจุดหมายปลายทางจึงขอลงที่ภูเก็ต ซึ่งการบินวน คือ การเผาน้ำมันเชื้อเพลิงทิ้งเพื่อให้สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกลางอากาศ หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเครื่องบินต้องทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Dumping) ก่อนลงจอด แต่ทำไมต้องทำเช่นนั้น เครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น Boeing 747, Airbus A380 ถูกออกแบบให้สามารถบินขึ้นด้วยน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (Maximum Takeoff Weight - MTOW) ที่มากกว่าค่าน้ำหนักลงจอดสูงสุด (Maximum Landing Weight - MLW) อย่างมีนัยสำคัญ เช่น Boeing 777-300ER มีน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดราว 351 ตัน แต่มีน้ำหนักลงจอดสูงสุดเพียง 251 ตัน นั่นหมายความว่า ถ้าเครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินไม่นานหลังจากบินขึ้น น้ำหนักของมันอาจสูงเกินขีดจำกัด ซึ่งเสี่ยงต่อปัญหาดังนี้ ดังนั้น หากเครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินและมีน้ำหนักเกิน MLW นักบินอาจตัดสินใจ ทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดน้ำหนักลง เครื่องบินที่สามารถทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิงได้ต้องมี Fuel Jettison System ซึ่งมักพบในเครื่องบินลำตัวกว้าง เช่น ขณะที่เครื่องบินลำตัวแคบ เช่น Boeing 737, Airbus A320 ส่วนใหญ่ ไม่มีระบบนี้ เนื่องจากความแตกต่างระหว่าง MTOW และ MLW ไม่มากพอที่จะต้องทิ้งน้ำมัน เครื่องบินที่มีระบบทิ้งน้ำมันจะปล่อยน้ำมันออกทางปลายปีกหรือส่วนล่างของปีก โดยน้ำมันจะกระจายเป็นละอองละเอียดและระเหยก่อนถึงพื้นดิน ซึ่งข้อจำกัดสำคัญในการทิ้งน้ำมัน คือ ต้องทำที่ระดับความสูง 5,000 ฟุตขึ้นไป เพื่อให้น้ำมันระเหยทัน ต้องทำในพื้นที่ปลอดภัย เช่น เหนือมหาสมุทรหรือพื้นที่ชนบท หลีกเลี่ยงเมืองและแหล่งน้ำ และต้องแจ้งศูนย์ควบคุมการบิน (ATC) ล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยของอากาศยานอื่น อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นจริง ๆ นักบินสามารถทิ้งน้ำมันในระดับต่ำได้ แม้อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หากเครื่องบินไม่มีระบบทิ้งน้ำมันหรือนักบินไม่มีเวลาเพียงพอ เครื่องบินอาจต้อง ลงจอดโดยมีน้ำหนักเกิน MLW ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบดังนี้ อย่างไรก็ตาม เครื่องบินถูกออกแบบให้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้ได้ นักบินมีเทคนิคในการใช้รันเวย์ที่ยาวขึ้น ลดแรงกระแทก และควบคุมเครื่องบินให้ปลอดภัย หน่วยงานด้านการบินเช่น FAA (สหรัฐฯ), EASA (ยุโรป), ICAO (นานาชาติ) มีกฎระเบียบเกี่ยวกับการทิ้งน้ำมันของเครื่องบินดังนี้ - Delta Airlines Boeing 777 (2020) บินจากลอสแอนเเกม ยิง ปลา ได้ เงิน จริง หรอจลิสไปเซี่ยงไฮ้ แต่มีปัญหาเครื่องยนต์ ต้องทิ้งน้ำมันเหนือเมืองลอสแอนเจลิส ส่งผลให้น้ำมันบางส่วนตกลงในโรงเรียน - British Airways Boeing 747 มีปัญหาที่เครื่องยนต์หลังออกจากลอนดอน ทิ้งน้ำมันเหนือมหาสมุทรก่อนกลับมาลงจอดที่สนามบินฮีทโธรว์ - Singapore Airlines Airbus A380 เครื่องยนต์ขัดข้องระหว่างเดินทางจากลอนดอนไปสิงคโปร์ ทิ้งน้ำมันกลางมหาสมุทรอินเดียก่อนลงจอดฉุกเฉิน การทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อย แต่มันเป็น "ทางเลือกสุดท้าย" ที่ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารและเครื่องบิน เครื่องบินรุ่นใหญ่มีระบบนี้เพื่อให้สามารถลดน้ำหนักได้ในกรณีฉุกเฉิน ส่วนเครื่องบินรุ่นเล็กมักไม่จำเป็นต้องใช้ นักบินทุกคนได้รับการฝึกฝนให้รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ และหน่วยงานการบินทั่วโลกก็มีกฎระเบียบเพื่อให้มั่นใจว่า การทิ้งน้ำมันจะทำอย่างปลอดภัยและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ทั้งนี้เครื่องบินทิ้งน้ำมันก่อนลงจอดฉุกเฉิน คือหนึ่งในมาตรการความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทุกคนบนเครื่องและภาคพื้นดิน อ่านข่าว : สายการบิน Aeroflot บินวนหลาย ชม. ก่อนขอลงจอดที่ "สุวรรณภูมิ" ได้อย่างปลอดภัย

วันนี้ (26 มี.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ 846/2565 ที่ นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล เป็นโจทก์ที่ 1-2 ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ส่งต่อคลิปภายหลังเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนรถกู้ภัยที่แยกแสงตะวัน ต.ช้างคลาน อ.เมืองเ

นิยายชีวิต โดย : Gilang Akbar Prambadi
เรื่องและภาพโดย : Gilang Akbar Prambadi
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..